WINMED โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2/65 กำไรโตกระฉูด 292% กวาดรายได้รวม 191.66 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์-บริการกลุ่มคัดกรองโควิด-19 ดันยอดขายทะลัก ผู้ใช้บริการตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลเพิ่ม เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยตนเอง
นันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ WINMED ผู้นำเข้า และจำหน่ายเครื่องมือ และชุดอุปกรณ์ สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/65 บริษัทมีรายได้รวม 191.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 116.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 65% และมีกำไรสุทธิ 15.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 292 %
ขณะที่ ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 บริษัทมีรายได้รวม 347.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 235.32 ล้านบาท จำนวน 112.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 48 % และมีกำไรสุทธิ 27.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.47 ล้านบาท จำนวน 13.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 93 %
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2/65 ในส่วนรายได้และกำไรปรับตัวดีขึ้น จากยอดขายผลิตภัณฑ์ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (ATK) และรายได้จากการให้บริการห้องปฏิบัติการมาตรฐานการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส ระบบ Real Time (RT-PCR) ที่เพิ่มสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ยังมีอยู่
ประกอบกับ ภาครัฐมีการประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไตรมาส 2/65 ประชาชนมั่นใจใช้บริการตรวจสุขภาพเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกให้แก่โครงการ สปสช. (สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) และกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ผลักดันให้รายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสตรีเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับทิศทางธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังปี65 คาดว่ามีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น ของธุรกิจ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยตนเอง (HPV & STDs Self-Collect) สำหรับผู้หญิงและผู้ชายภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ “ AVA “ โดยสามารถนำเชื้อส่งตรวจวิเคราะห์หาการติดเชื้อไวรัส HPV mRNA กับคลินิกเทคนิคทางการแพทย์ WINMED ทราบผลภายใน 5-7 วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และเร่งพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในส่วนออนไลน์ และ ออฟไลน์ผ่านทางช่องทางการจำหน่ายต่าง ๆ อาทิ ร้านขายยา กลุ่มตัวแทนจัดจำหน่าย เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใน เดือน ส.ค.65
อีกทั้ง ธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ธนาคารโลหิต-ความปลอดภัยโลหิต หลังออกให้บริการศูนย์บริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ณ โรงพยาบาลราชวิถี และ โรงพยาบาลพระปิ่นเกล้า ได้รับกระแสตอบรับที่ดี เตรียมแผนขยายหน่วยเครือข่ายเพิ่มเติม รองรับปริมาณความต้องการใช้โลหิตที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาและจัดหาสินค้านวัตกรรมทางการแพทย์เพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ให้สอดรับกับสถานการณ์ในประเทศ ตอบโจทย์และรองรับความต้องการด้านสุขภาพของกลุ่มลูกค้า B2B และ B2C เป็นปัจจัยสนับสนุนผลักดันรายได้รวมของบริษัท เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้” นันทิยะกล่าว