ท้องทะเลกว้างไกลสุดสายตา พาให้เรารู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย ได้ย่ำเท้าบนชายหาดสีขาวนวล ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้ผ่อนคลาย ใครหลายคนจึงตกหลุมรักทะเลแบบหัวปักหัวปำ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็คิดถึงทะเลอยู่เสมอ อย่างที่จังหวัดชุมพร ประตูสู่ภาคใต้ เมืองที่หลายคนอาจมองผ่าน แต่เต็มไปด้วยความชื่นบาน จนอยากจะหยุดเวลาไว้นาน ๆ
โครงการ “Refresh life …by the way ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ” โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนเดินทางไปสัมผัสกับบรรยากาศแห่งท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ปักหมุดให้สุดชิลกันที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร เมืองเลียบทะเลชายฝั่งอ่าวไทย อันเป็นที่ตั้งของสนามบินชุมพร เริ่มต้นกันที่ “บ้านเกาะเตียบ” เวิ้งหาดเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กับแนวป่าโกงกางอันกว้างไกลสุดสายตา ที่อยู่อาศัยของกุ้ง หอย ปู ปลา ที่พร้อมเสิร์ฟตลอดทั้งปี
กินปูห้อยขา ลั้นลาที่บ้านเกาะเตียบ
“เกาะเตียบ” เป็นเกาะเล็ก ๆ บริเวณหน้าชายหาดบ้านเกาะเตียบ มองจากฝั่งที่มีภูเขาเป็นฉากหลัง จะสังเกตเห็นลักษณะคล้ายฝ่ามือ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนในหมู่บ้าน ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเมื่อมาขอพรที่เกาะเตียบ หากสมหวังแล้วก็จะปีนขึ้นไปผูกผ้าแพรไว้บนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ ท่ามกลางวิถีอันเรียบง่าย ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อ กลุ่มคนรักการกินปูต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า “สดและคุ้ม”
“สายรุ้ง สาธิตศานนท์” หนึ่งในผู้นำท่องเที่ยวชุมชนบ้านเกาะเตียบ เจ้าของกิจการ “สายรุ้งนำเที่ยว” เล่าให้ฟังว่า ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรที่บ้านเกาะเตียบ บริเวณอ่าวทุ่งมหา มาจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ โดยเฉพาะพันธุ์ปู ซึ่งชาวบ้านจะนำปูไข่นอกกระดองมาปล่อยให้ขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ ประกอบกับแนวป่าชายเลนนับพันไร่ จึงเป็นระบบนิเวศที่เป็นมิตรกับการอยู่อาศัยของสัตว์น้ำ ทำให้บ้านเกาะเตียบมีกุ้ง หอย ปู ปลา ให้กินทั้งปี พร้อมนำเสนอไอเดีย “กินปูห้อยขา” เพื่อสร้างสีสันแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว
จากชายหาดบ้านเกาะเตียบ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เรือหางยาวพาเรามาถึงเกาะยอ เกาะเล็ก ๆ อันเป็นที่ตั้งของแพขนาดใหญ่ จุดเช็คอินกลางทะเลอันแสนสดชื่น ภายในแพมีการออกแบบโต๊ะกระจกใส และช่องสำหรับการนั่งหย่อนขาลงไป เพื่อให้มองเห็นน้ำทะเลด้านล่าง นักท่องเที่ยวที่ติดต่อเข้ามาล่วงหน้า สามารถจองแพ็กเกจ “กินปูห้อยขา” ที่เสิร์ฟทั้งปูม้า ปูทะเล และอาหารทะเลอีกหลายชนิดที่หาได้จากแหล่งธรรมชาติ รับประกันความสด ในรสชาติอร่อยเด็ด หลายคนร้องว้าวกับไข่ปูดำที่อัดแน่น ใครเห็นแล้วอยากตามไปชิม ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น
อิ่มท้องกันแล้วเดินข้ามสะพานไม้ไปชมวิวกันบนเกาะยอ หรือจะเดินทางต่อออกไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะร้านเป็ด และเกาะร้านไก่ ซึ่งอยู่ในละแวกใกล้เคียง นักท่องเที่ยวต่างบอกต่อกันว่า เป็นแนวปะการังที่มีดอกไม้ทะเลที่สวยงามอลังการแห่งหนึ่งของประเทศไทย หากวันไหนอากาศเป็นใจก็จะได้ชมฉลามวาฬขยาดยักษ์ที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลชุมพรอีกด้วย
กิจกรรมกินปูห้อยขา เกาะยอ
เปิดทุกวัน เวลา 8.00 -16.00 น.
สายรุ้งนำเที่ยว
โทร.08 7276 9390
Facebook/กินปู ห้อยขา พาดูปะการัง กับสายรุ้งนำเที่ยว
เช็คอินวิวอลังการ ร้านต้นไม้ไอเดียเก๋
บริเวณชายฝั่งบ้านเกาะเตียบ มีบริการท่องเที่ยวของชุมชน ร้านค้า ร้านอาหาร ตั้งอยู่อย่างกลมกลืนกับวิถีชุมชน ชายหาดแห่งนี้ยังเป็นที่นิยมของเหล่าแคมป์ปิ้ง หรือจะเลือกพักแบบโฮมสเตย์ ก็สามารถดื่มด่ำบรรยากาศอันแสนสดชื่นท่ามกลางความเงียบสงบ
ออกจากบ้านเกาะเตียบแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถแวะจุดชมวิวที่วัดแก้วประเสริฐ จะสามารถมองเห็นเวิ้งอ่าวทุ่งมหาได้แบบสุดลูกหูลูกตา การันตีความอุดมสมบูรณ์ด้วยภาพของป่าชายเลนสีเขียวที่ปกคลุมเป็นผืนกว้าง หรือจะแวะที่ “ซุ้มทิพย์” ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าวัด เป็นร้านขายไม้ประดับสุดเก๋ นอกจากทำเลอันอลังการแล้ว เจ้าของยังมีไอเดียว่า คนที่มาซื้อต้นไม้จะต้องใช้เวลาในการคัดเลือกสินค้านาน จึงสร้างคาเฟ่ขนาดกะทัดรัด ให้ผู้ติดตามที่รอคอยได้โชว์ฝีมือชงเครื่องดื่มด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟ ก็คิดราคาเพียง 20 บาทเท่านั้น
ชื่นวิถีดีต่อใจ บ้านไม้ชายคลอง
ชุมพรเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะมาเยือนเมื่อไหร่ก็จะได้สัมผัสกับภาพบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปน้อยมาก นั่นเป็นเพราะความเข้มแข็งของชุมชนที่ร่วมมือกันป้องป้องทรัพยากรธรรมชาติในบ้านของตัวเองเอาไว้ และวันนี้เราทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบรรยากาศดี ๆ นี้ได้ จะเป็นอย่างไรต้องลองแวะไปที่ “บ้านไม้ชายคลอง” ต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร
“สมโชค พันธุรัตน์” ประธานกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนคลองบางสน เจ้าของ “บ้านไม้ชายคลอง โฮมสเตย์” เล่าว่า ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะได้สัมผัสกับธรรมชาติริมคลองบางสน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมดำน้ำ ตกหมึก ตกปลา พายเรือคายัค ล่องเรือไปหาหอย ไปชมหิ่งห้อย หรือออกไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่ปากอ่าว ได้ดื่มด่ำกับวิถีชุมชนอันเรียบง่าย กินอยู่แบบคนพื้นถิ่น แน่นอนว่าจะต้องได้ชิมเมนูอร่อย ๆ จากอาหารทะเลสด ๆ รวมทั้งได้ร่วมลงมือทำอาหารหรือขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมจาก ที่ใช้วัสดุใกล้ตัวมาสร้างสีสันของวันพักผ่อน
จากความตั้งใจของชุมชนในการสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติ จึงเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาได้เป็นหนึ่งของกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การอนุรักษ์พันธุ์ปูม้า กิจกรรมปลูกป่าชายเลน ฯลฯ ถือเป็นการท่องเที่ยวเพื่อชุมชน เพื่อสังคม และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้าของบ้านและนักท่องเที่ยว
บรรยากาศของบ้านไม้ชายคลองเต็มไปด้วยความสดชื่น ลานระเบียงกว้างขวางของที่พักเหมาะสำหรับการเลือกมุมเหมาะ ๆ นั่งพักสายตาไปกับสายน้ำและผืนป่าชายเลนตรงหน้า บริเวณชั้น 2 ของบ้านยังเปิดเป็น “บ้านไม้ชายคลองคาเฟ่” ในบรรยากาศสุดว้าว เหมาะกับการจิบเครื่องดื่มเพื่อความผ่อนคลาย ทางร้านใช้เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าที่ปลูกในจังหวัดชุมพรเบลนด์กับกาแฟอาราบิก้าของทางเชียงราย จนได้รสชาติของตนเอง อีกทั้งยังสร้างสรรค์เมนูจากวัตถุดิบท้องถิ่น อาทิ กาแฟนมมะพร้าว มะม่วงหาวมะนาวโห่สมูทตี้ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีสินค้าชุมชนวางจำหน่ายในร้านอีกด้วย
ชื่นกายชื่นใจ มาแล้วได้มากกว่าการพักผ่อน แต่หมายถึงการส่งต่อสิ่งดี ๆ ต่อสิ่งแวดล้อม ต่อชุมชน ให้เราได้มีธรรมชาติสวย ๆ ของกินอร่อย ๆ พร้อมรอยยิ้มอันยืนยาวของทุกคน
บ้านไม้ชายคลอง โฮมสเตย์
โทร. 08 0779 1650
Facebook /บ้านไม้ชายคลองโฮมสเตย์
ตามนายใหญ่เข้าสวน ชวนเล่นหนาม
ในเขตอำเภอปะทิว จ.ชุมพร นอกจากวิถีชีวิตแบบชาวเลแล้ว ยังมีวิถีชาวสวนให้ตามไปชมกันอีกหลายจุด เพราะจังหวัดชุมพร เป็นหนึ่งในดินแดนแห่งผลไม้ หากสนใจเข้าไปเรียนรู้หรืออุดหนุนผลผลิต หนึ่งในสวนเกษตรที่น่าสนใจคือ “สวนนายใหญ่ คนเล่นหนาม” เห็นชื่อแล้วไม่ต้องตกใจ นายใหญ่ใจดี แถมหนามที่ว่า ยังนำมาซึ่งความอร่อยอีกด้วย
“สุวัชช์ ขยายแย้ม” เจ้าของสวนนายใหญ่ คนเล่นหนาม เล่าวว่า ที่นี่เป็นสวนเกษตรผสมผสานท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อยู่ห่างสนามบินชุมพรเพียง 2 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่รอขึ้นเครื่องจึงนิยมแวะเข้ามาเที่ยวชมและชิมผลผลิตทางการเกษตร ภายในพื้นที่ 10 ไร่ ปลูกพืชสวนผสมตามคอนเซ็ปต์ “คนเล่นหนาม” โดยจะเน้นต้นไม้ที่มีหนาม เช่น ทุเรียน และสละ รวมทั้งการปลูกพืชผักสวนครัว และการเลี้ยงผึ้ง นอกจากแวะเข้ามาซื้อหาผลไม้แล้ว ยังเปิดให้ทุกคนได้เรียนรู้วิถีเกษตร เช่น การผสมเกสรดอกสละ เนื่องจากสละเป็นพืชที่แยกเพศอย่างชัดเจน ต้นตัวผู้จะไม่มีลูก ส่วนต้นตัวเมียจำเป็นต้องรอเกสรจากตัวผู้มาผสมเพื่อออกผล เราจึงต้องนำเกสรตัวผู้มาผสมกับเกสรตัวเมีย หลังจากนั้นก็ติดป้ายบอกวันเวลาไว้ นับไปอีก 8 เดือนก็จะออกผลที่หอมหวานพร้อมรับประทาน หากสนใจผลสละจากการผสมเกสรของตัวเอง ก็สามารถสั่งจองไว้ได้
“สุธารัตน์ ขยายแย้ม” ทายาทคนเล่นหนาม อธิบายเพิ่มเติมว่า หากนักท่องเที่ยวเข้ามาที่สวน จะพบผลผลิตตามฤดูกาล เช่น ทุเรียน และมังคุด ส่วนผลผลิตที่มีให้ชิมทั้งปีคือสละ ทั้งสละสด และสละลอยแก้ว รวมทั้งน้ำผึ้งเดือนห้า ซึ่งทางสวนจะทำบ้านพักผึ้งไว้ตามป่าชายเขาและริมคลอง เมื่อผึ้งมารวมตัวกันแล้ว ก็จะนำกลับมาเลี้ยงไว้ในสวน เลี้ยงด้วยเกสรสมุนไพรต่าง ๆ และจะเก็บน้ำผึ้งตอนเดือนห้าเท่านั้น
นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ปลาดุกร้าดองน้ำผึ้งเดือนห้า โดยการนำผลผลิตจากชุมชนมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งผลิตภัณฑ์ตะกร้าจักสาน ที่ชาวบ้านร่วมกับผลิตเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว
สวนนายใหญ่ คนเล่นหนาม
โทร. 09 3731 9587 , 09 2772 6788
Facebook/สวนนายใหญ่ คนเล่นหนาม
ร่วมเก็บเกี่ยวความทรงจำดี ๆ กับวิถีของชาวชุมพรอันน่าชื่นชม ในโครงการ “Refresh life …by the way ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ” ชวนทุกคนออกเดินทางสร้างความสุขจากแหล่งท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนสดใส มีโอกาสเมื่อไหร่ ต้องชวนกลับไปให้หายคิดถึง