“วิโนน่า” ผนึก “มศว.” ลงนาม MOU ใช้จุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์ใหม่ต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่ม Health Care มุ่งเสริมสมดุลสุขภาพคนไทยห่างไกลการใช้ยา
นพรัตน์ สุขสราญฤดี ผู้ก่อตั้ง บริษัท วิโนน่า เฟมินิน จำกัด กล่าวว่า จากความร่วมมือในการลงนามสัญญากับทาง มศว เพื่อใช้สิทธิข้อมูลเทคโนโลยี จุลินทรีย์โพรไบโอติก (probiotics) สายพันธุ์ Lactobacillus paracasei MSMC 39-1 ซึ่งเป็นผลงานจากคณะนักวิจัยของ มศว ในปีที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์วิโนน่า และได้มีการเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายไปเมื่อเดือน พ.ค. 2565 นับว่าประสบความสำเร็จและได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคเนื่องจากผลลัพธ์จากการบริโภคที่เห็นผลในแง่ของสุขภาพที่ดีขึ้นในหลายระบบโดยไม่ต้องใช้ยา
อาทิเช่น ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย ต้านอักเสบ ปรับภูมิคุ้มกัน ลดสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น ทำให้เราเชื่อมั่นต่อความสามารถของนักวิจัยไทย และเชื่อมั่นในคุณภาพของจุลินทรีย์ โพรไบโอติกสายพันธุ์ไทย ในโอกาสนี้ วิโนน่า ในฐานะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ยังคงมีเจตนารมณ์ร่วมกับคณะนักวิจัยของ มศว ที่อยากเห็นคนไทย มีสุขภาพร่างกายที่สมดุล สมบูรณ์แข็งแรง ด้วยการบริโภคจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่มีคุณภาพในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ความร่วมมือครั้งใหม่ในการลงนามเพื่อใช้ผลงานจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์ Bifidobacterium animalis TA-1 สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะช่วยสร้างสมดุลแก่สุขภาพในระยะยาวแก่ผู้บริโภค ตามเจตนารมณ์ของแบรนด์วิโนน่า ที่อยากช่วยให้คนไทยหลีกเลี่ยงการพึ่งพายา และสารเคมีเข้าในร่างกาย และลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาโรคในบั้นปลาย ซึ่งการดูแลสุขภาพองค์รวมด้วยสารอาหารตามธรรมชาติเช่นนี้ จะเป็นการรักษาสุขภาพอย่างยั่งยืนและทำให้ผู้บริโภคมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยไม่ต้องพึ่งพายาและสารเคมีเกินความจำเป็น
“ด้วยเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ทำให้ในภาคอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของไทย มีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ ที่สนใจในการนำจุลินทรีย์โพรไบโอติกมาพัฒนาเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร การสนับสนุนผลงานของนักวิจัยไทย ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเชื้อจุลินทรีย์ โพรไบโอติกสายพันธุ์ไทย ” นพรัตน์ กล่าว
รองศาสตราจารย์ ดร.สมชาย สันติวัฒนกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ บริษัท วิโนน่า เฟมินิน จำกัด ในฐานะพันธมิตรจากภาคเอกชน ได้เข้ามาร่วมมือกับ มศว ในการลงนามสัญญาการถ่ายทอดเทคโนโลยีและอนุญาตให้ใช้สิทธิ ผลงานเชื้อจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์ Bifidobacterium animalis TA-1 โดย มศว มีนโยบายการส่งเสริมการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม อันเกิดจากองค์ความรู้ที่มีประโยชน์โดยการพัฒนาและทดลองของคณะนักวิจัย
“ซึ่งการเข้ามามีบทบาทของภาคเอกชน จะเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญที่ทำให้องค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัยนั้น ไม่สิ้นสุดเพียงแค่เป็นผลงานวิจัย เพราะด้วยศักยภาพด้านธุรกิจ อุตสาหกรรม และกลยุทธ์ทางการตลาดของภาคเอกชนนั้น จะช่วยผลักดันให้งานวิจัยขยายสู่ความเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้และมีคุณค่าในเชิงพาณิชย์ จากผลงานวิจัยจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถไปถึงมือผู้บริโภค ยิ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม และเป็นการขยายขีดความสามารถในแข่งขันแก่สถาบันระดับอุดมศึกษาและในภาคอุตสาหกรรมของประเทศอีกด้วย” รองศาสตราจารย์ ดร.สมชาย กล่าว
ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.มาลัย ทวีโชติภัทร์ สังกัดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ ในฐานะเจ้าของผลงานวิจัยเชื้อจุลินทรีย์โพรไบโอติก กล่าวว่า เชื้อจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์ Bifidobacterium animalis TA-1 เป็นจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์ไทยที่มีการพิสูจน์คุณสมบัติแล้วว่าเป็นโพรไบโอติกที่ดี และอยู่ในการอนุญาตขององค์การอาหารและยา (อย. ) ซึ่งผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาที่ได้มาตรฐานเพื่อหาข้อพิสูจน์ว่ามีคุณสมบัติจำเพาะที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย แม้จะพบว่ามีคุณสมบัติเด่นในการลดไขมันและคอเลสเตอรอล
“แต่สามารถกล่าวได้ว่าเชื้อจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์นี้ เป็นสายพันธุ์ที่ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยนั้น สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียง เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ โพรไบโอติก ไม่ใช่ยาหรือสารเคมี หากแต่เป็นสารอาหารตามธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของคนเรา หากบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อเติมสมดุลของเชื้อจุลินทรีย์ย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพองค์รวม” รองศาสตราจารย์ ดร.มาลัย กล่าว