4 คุณหมอกูรูความงาม เผยเทรนด์ 2023 ของกลุ่ม Millennials

90

เมนารินี เอสเธติกส์ เผยเทรนด์ความงามของคนรุ่นใหม่ กลุ่มผู้บริโภคชาว Millennials ที่จะเลิกสวยตามดารา แต่รักใบหน้าตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า ให้ความสำคัญกับการดูแลคงสภาพผิว ลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า ด้วยคอนเซ็ปต์ Optimal Volumization & Less is more (น้อยแต่มาก) ซึ่งวันนี้เรามีข้อมูลที่น่าสนใจจาก 4 คุณหมอกูรูด้านความงาม จะมีอะไรบ้างเช็คเลย

นายแพทย์วินเซนต์ วอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ดูแลใบหน้าให้คนดังและเซเลบริตี้ระดับโลกมากมาย เผยว่า ผิวสะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิต (Skin Mirrors your well being ) เทรนด์ความงามหลังจากนี้จะมีมิติที่เปลี่ยนไป โดยกลุ่มที่แอคทีฟมากๆ คือ ผู้บริโภคกลุ่ม Millennials อายุ 26-40 ปี พวกเขาจะไม่รอให้ผิวหย่อนคล้อย หมองคล้ำ หรือมีริ้วรอยแล้วค่อยมารับการรักษา แต่เขาจะค้นคว้า หาข้อมูล และศึกษาจนรอบด้านว่า Treatments ไหนเหมาะกับเขา แล้วจึงเข้าไปรับคำปรึกษากับแพทย์ โดยสิ่งที่พวกเขาต้องการไม่ใช่การหน้าเหมือนดาราคนไหน แต่เขาพึงพอใจที่จะเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า

เทรนด์การรักษาด้วยสารเติมเต็มก็จะแตกต่างจากอดีต เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามจะ Tailormade ปรับรูปหน้าให้คนไข้ตามคาแรคเตอร์และภาพลักษณ์ของเขา เช่น กลุ่ม LGBTQ+ ที่จะมีมิติของการคอนทัวร์ให้ใบหน้ารับกันแบบ Total face เป็นต้น ซึ่งนวัตกรรมล่าสุดในการยกกระชับรูปหน้า เรียกว่า XTRTM (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) Technology คือ เทคโนโลยีที่มีในผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์อิตาลี (Italian Filler) ซึ่งเป็นนวัตกรรมในกลุ่มสารเติมเต็ม HA Dermal Filler มีเฉพาะในแบรนด์คุณภาพสูงระดับโลก จะสามารถฟื้นฟูยกกระชับปรับรูปหน้าแบบไดนามิค 3 มิติ ช่วยในการเติมเต็ม คอนทัวร์มิติของใบหน้า ยกกระชับและปรับรูปหน้าให้รับทุกองศา คนไข้จะเห็นผลลัพธ์ว่าใบหน้ายกกระชับขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่หลังทำ และไม่ทิ้งเอฟเฟคภายหลัง

ผศ.พญ.แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม เผยถึง Asian Beauty Trends ว่า เทรนด์ความงามของสาวเอเชีย รับอิทธิพลตะวันตก แต่นำมาปรับในสไตล์เอเชียสาวเอเชียรับวัฒนธรรมความงาม และเปลี่ยนทัศนคติความสวยแบบเอเชีย มาเป็น ‘Globalization’ มากขึ้น เช่นแต่ก่อนสาวเอเชียจะนิยมผู้หญิงที่ริมฝีปากบาง แต่เราจะเห็นว่าทุกวันนี้ริมฝีปากหนาได้รูปกลายเป็นที่นิยม ซึ่งสาวเอเชียโดยเฉพาะสาวไทยจะ concern จุดสำคัญบนใบหน้า ทั้งการทำตา 2 ชั้น การเสริมจมูก แก้ม หน้าผาก การเสริมคางให้รับกับจมูก และลดความกว้างของใบหน้าด้วยการสร้างมิติ เป็นต้น

ผศ.พญ.แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์

สาวไทยกลุ่ม Millennials แต่ละคนมีความ Individual สูง คนไข้จะหาข้อมูล ดูโซเชียลมีเดีย และเช็คมาก่อนแล้วว่าหมอความงามท่านไหนเก่งเรื่องอะไร แล้วจึงเลือกทำกับหมอคนนั้นๆ ดังนั้นเทรนด์ในการดูแลคนไข้กลุ่ม Millennials แพทย์จึงต้องเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร พูดภาษาเดียวกับเขาและเข้าใจว่าความสวยในสายตาของเขาเป็นอย่างไร

ดร.นพ.วรพล เวชชาภินันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า ต้องจับตามองเทคโนโลยี XTRTM Technology และ Innovative Glass Syringe นวัตกรรมใหม่ล่าสุดในกลุ่มสารเติมเต็ม HA Dermal Filler เพื่อดูแลยกกระชับปรับรูปหน้า ในฟิลเลอร์อิตาลี (Italian Filler) ตอบโจทย์ความงามของคนกลุ่มมิลเลนเนียลในปี 2023 โดยความแตกต่างของฟิลเลอร์รุ่นเก่า กับฟิลเลอร์อิตาลี ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในกลุ่ม HA Dermal Filler ที่ใช้เพียงในปริมาณที่เหมาะสม แต่สามารถให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับและปรับรูปหน้าได้ในทันที ให้คนไข้ได้ลุคที่ดูดีแบบเป็นธรรมชาติ ไม่สร้างอาการแพ้หรือบวมขึ้นภายหลัง อีกทั้งการมาพร้อมกับนวัตกรรม Glass Syringe ช่วยให้สัมผัสที่เบา คนไข้ไม่รู้สึกถึงแรงกด สะดวกต่อการใช้งานของแพทย์และความพึงพอใจของคนไข้ อีกทั้งช่วยลดขยะพลาสติกด้วยอีกทางหนึ่ง

นพ.ดนัยย์ ประดิษฐสุวรรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความงาม Aesthetics Practitioner & Surgeon กล่าวว่า เทรนด์การปรับรูปหน้าเพื่อความงาม และการชะลอวัยจะเปลี่ยนไป โดยคนไข้ต้องการปรึกษาพูดคุยและฟังการวิเคราะห์ใบหน้าจากแพทย์ก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตรงกับปัญหาและความต้องการของคนไข้ เช่น คนไข้ที่มีใบหน้าค่อนข้างตอบ มีร่องแก้ม ใต้ตาลึก ถ้าแพทย์วิเคราะห์แล้วว่าเกิดจากการสลายของชั้นไขมัน แพทย์จะแนะนำให้เพิ่ม Volume โดยใช้ฟิลเลอร์เพื่อการเติมเต็มและปรับรูปหน้า

แต่ถ้าคนไข้ที่มีชั้นไขมันเยอะ มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย มีร่องแก้ม ใต้ตาลึก แพทย์จะแนะนำให้ใช้การร้อยไหมก่อนเพื่อเป็นการยกกระชับ หลังจากนั้นจึงใช้ฟิลเลอร์เพื่อเป็นการเติมเต็มในส่วนที่ยังขาด Volume ซึ่งการวิเคราะห์ของแพทย์จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการมองสังเกตจากภายนอก และการสัมผัสร่วมด้วย เพื่อประเมินสาเหตุว่ามาจากโครงกระดูกของใบหน้าหรือจากส่วนใด จึงจะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และการดูแลรักษาร่วมกันด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (Multimodality) ทั้งการร้อยไหมอิตาลี (Italian Threads Lifting) และฟิลเลอร์อิตาลี (Italian Filler) เพื่อช่วยในการดูแลคนไข้ให้ดีที่สุด