ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ร่วมกับกทม. เปิดตัวโครงการ “มือวิเศษ กรุงเทพ เฟส 2”

35

ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย สนับสนุนโครงการ “มือวิเศษ กรุงเทพ เฟส 2” ของกทม. ส่งมอบตะแกรงเหล็ก จุดรับคืนพลาสติกรีไซเคิลมูลค่าต่ำ รวม 52 แห่ง ณ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการกทม. ทั้ง 2 แห่ง เพื่อนำไปรีไซเคิลหรือเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตพลังงานทดแทน

โดยความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ภายใต้โครงการ “มือวิเศษ กรุงเทพ เฟส 2” ในครั้งนี้ ยูนิลีเวอร์และบริษัท ซีโร่ เวสท์ โยโล จำกัด สนับสนุนการจัดทำตะแกรงเหล็ก ซึ่งใช้เป็นจุดรับคืนขยะพลาสติกรีไซเคิลมูลค่าต่ำ หรือขยะที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ อาทิ กล่องโฟม โฟมกันกระแทก ฟิล์มยืด ช้อนส้อมพลาสติก ถุงบรรจุอาหาร ซองขนม แคปซูลกาแฟ ชามเมลามีน เป็นต้น เพื่อนำพลาสติกเหล่านี้ไปรีไซเคิลหรือผลิตเป็นพลังงานทดแทน โดยยูนิลีเวอร์ได้ผลิตตะแกรงเหล็ก จำนวนทั้งสิ้น 52 อัน เพื่อติดตั้งเป็นจุดรับคืนพลาสติกรีไซเคิลมูลค่าต่ำที่สำนักงานเขต กทม. จำนวน 50 เขต และที่ศาลาว่าการกทม. อีก 2 จุด

“การสนับสนุนกิจกรรมลดขยะพลาสติกของกทม.ในครั้งนี้ ถือเป็นโครงการต่อเนื่องเพื่อลดปัญหาขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน พร้อมรณรงค์ช่วยสร้างความตระหนักรู้ให้คนกรุงเทพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี พร้อมให้ความรู้เรื่องการคัดแยกพลาสติกใช้แล้ว สร้างความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการนำพลาสติกใช้แล้วกลับเข้าสู่ระบบเพื่อนำไปหมุนเวียน สร้างคุณค่าใหม่ ช่วยให้การรีไซเคิลมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน” ณัฏฐิณี เนตรอำไพ ที่ปรึกษาอาวุโสส่วนองค์กรสัมพันธ์ กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าว

ยูนิลีเวอร์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 90 ปี มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีพันธกิจด้านพลาสติก 4 ข้อที่จะต้องทำให้ลุล่วงภายในปี 2568 ได้แก่ 1) มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด 100% ให้สามารถรีไซเคิลได้ ใช้ซ้ำได้ หรือ ย่อยสลายได้ 2) ลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ลงครึ่งหนึ่ง หรือ 1 แสนตันทั่วโลก 3) เก็บรวบรวมพลาสติกและนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ ให้ได้มากกว่าปริมาณที่จำหน่ายออกไป และ 4) ใช้พลาสติกที่รีไซเคิลแล้วในการทำบรรจุภัณฑ์ 25%

ที่ผ่านมา ยูนิลีเวอร์ เข้าไปมีส่วนร่วมในหลายโครงการมากมาย อาทิ Recycling Collection Center กับสยามพิวรรธน์ ส่งพลาสติกกลับบ้าน และมือวิเศษ xวน เป็นต้น และในฐานะสมาชิก PPP Plastic บริษัทพร้อมสนันสนุนภารกิจของ กทม. ที่จะลดขยะพลาสติกในกรุงเทพมหานคร.

ด้าน ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.มีนโยบายในการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากภาคเอกชนเกิดเป็นภาคีเครือข่าย โดยกิจกรรมที่ กทม. รณรงค์ และอยากให้แต่ละองค์กรเข้าร่วมสนับสนุนอยู่มีด้วยกัน 4 ด้าน ได้แก่ การใช้พลังงานหมุนเวียน การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการและลดปริมาณขยะ และการบริหารระบบจราจร

สำหรับโครงการ “มือวิเศษ กรุงเทพ” เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดย กทม.ทำหน้าที่เป็นคนกลางหาสถานที่ให้ประชาชนมาร่วมบริจาค ซึ่งจะทำให้นโยบายแยกขยะที่ต้นทาง เกิดขึ้นได้จริงในสังคมของคนกรุงเทพฯ เพราะเป้าหมายสำคัญ คือ “ทำอย่างไรจะปลูกฝังให้เยาวชนและคนไทยช่วยกันแยกขยะอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากที่สุด” โดยระหว่างวันที่ 19 ตค-15 ธค ที่ผ่านมา จุดรับมือวิเศษทั้ง 52 แห่ง ได้รับบริจาคพลาสติกทุกประเภทรวมทั้งสิ้น 8.2 ล้านตัน และเมื่อรวมขยะพลาสติกจากเครือข่ายความร่วมมืออื่นๆ มีปริมาณมากถึง 10 ล้านตัน

“ผมขอเชิญชวนให้คนกรุงเทพนำขยะพลาสติกรีไซเคิลมูลค่าต่ำมาบริจาคที่จุดรับบริจาค ซึ่งตั้งอยู่ในสำนักงานเขตทุกแห่งและศาลาว่าการกรุงเทพมหานครทั้ง 2 แห่ง เพียงล้างพอสะอาด ผึ่งให้แห้ง เก็บรวบรวมไว้ แล้วนำส่งที่จุดรับ ซึ่งยูนิลีเวอร์ ได้ให้การสนับสนุนโดยการจัดทำตระแกรงเหล็กขึ้นมา เพื่อโครงการ มือวิเศษ เฟส 2 ของ กทม.โดยเฉพาะ” ศานนท์ กล่าว

 

###

เกี่ยวกับยูนิลีเวอร์
ยูนิลีเวอร์เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำของโลกด้านผลิตภัณฑ์ความงามและการดูแลส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม โดยมียอดขายในกว่า 190 ประเทศและเข้าถึงผู้บริโภค 3.4 พันล้านคนต่อวัน มีพนักงาน 148,000 คน สร้างยอดขายได้ 52.4 พันล้านยูโรในปี 2564 กว่าครึ่งของพื้นที่บริการของบริษัทอยู่ในประเทศกำลังพัฒนาและตลาดใหม่ ยูนิลีเวอร์มีประมาณ 400 แบรนด์ที่พบอยู่ในทุกบ้านทั่วโลก รวมถึง บรีส, ซันซิล, คนอร์, โดฟ, ซันไลต์, วาสลีน, โอโม ไอศกรีมวอลล์ ลักส์, ซิตร้า, โคลสอัพ, คอมฟอร์ท, เทรซาเม่, เคลียร์, แอ็กซ์, เรโซน่า, พอนด์ส และแบรนด์อื่นๆ เช่น ไลฟ์บอย, เลิฟ บิวตี้ แอนด์ แพลนเน็ต, เซเว่นท์เจนเนอเรชั่น, เฮลล์แมนน์ และเซิร์ฟ

วิสัยทัศน์ของเราคือการเป็นผู้นำระดับโลกในธุรกิจที่ยั่งยืน และเพื่อแสดงให้เห็นว่าโมเดลธุรกิจที่มีเป้าหมายและเหมาะสมกับอนาคตของเรานั้นขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าได้อย่างไร เรามีประเพณีอันยาวนานในการเป็นธุรกิจที่ก้าวหน้าและมีความรับผิดชอบ ย้อนกลับไปในสมัยของ วิลเลียม ลีเวอร์ (William Lever) ผู้ก่อตั้งของเรา ซึ่งเปิดตัวแบรนด์สบู่ ซันไลต์ (Sunlight Soap) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีเป้าหมายแห่งแรกของโลกเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว และเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารบริษัทของเราในปัจจุบัน

Unilever Compass กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืนของเรา ตั้งขึ้นเพื่อช่วยให้เราส่งมอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ โดยมุ่งมั่นที่จะ:
• ทำให้สุขภาพของโลกดีขึ้น
• ทำให้สุขภาพ ความมั่นใจ และความเป็นอยู่ของผู้คน และ
• มีส่วนทำให้เกิดโลกที่ยุติธรรมและเปิดกว้างทางสังคมมากขึ้น

ในขณะที่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำในปีที่ผ่านมา เราภูมิใจที่ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำภาคส่วนในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ของ S&P สถานะ ‘Triple A’ ในเกณฑ์มาตรฐานด้านสภาพภูมิอากาศ น้ำ และป่าไม้ของ CDP และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบริษัทอันดับต้นๆ ในการสำรวจ Global Corporate Sustainability Leaders เป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน

ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์สินค้า: https://www.unilever.co.th/
ข้อมูลเกี่ยวกับ แผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของยูนิลีเวอร์ (USLP): https://www.unilever.co.th/planet-and-society/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย
ฝ่ายสื่อสารองค์กร อีเมล Press.Thailand@unilever.com

124 คอมมิวนิเคชันส์ คอนซัลติ้ง
กัญณัฏฐ์ ศรีชัยภัทรกุล โทร 089-457-1180 อีเมล Kanyanut@124comm.com
กฤษณา ปานสุนทร โทร 081-859-0007 อีเมล krissana@124comm.com