เรนาต้า ปล่อยหมัดเด็ด ‘ผลิตภัณฑ์อาหารทดแทน’ แข่งเจ้าตลาด รั้งตำแหน่งอันดับ 2 บิ๊กเซอร์ไพรส์ดึง “แบมแบม GOT7” นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์คนแรก และมิวส์คนไทย “ยอร์ช ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์” เตรียมคว้าเพิ่มส่วนแบ่ง 10%
บริษัท เรนาต้า อินโนเวชั่น กรุ๊ป จํากัด ตอกย้ำกระแสการดูแลสุขภาพ ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Renatar Ultra Me เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ และรูปร่าง ภายใต้แนวคิดดูแล การตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด หรือ ‘Best of Me’ พร้อมเปิดแผนการตลาดประจำปี อาทิ การพัฒนาโปรดักส์ด้วยวัตถุดิบระดับโลก การผลักดันสินค้าให้มีมาตรฐาน และขึ้นทะเบียนกับ อย. ให้เป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนอาหาร ภายใต้หมวดสินค้าประเภทอาหารควบคุมน้ำหนักอย่างถูกต้องตามกฎหมายแบรนด์แรก ช่องทางการจัดจำหน่าย ฯลฯ โดยทุ่มงบประมาณ 8 หลัก ดึงไอดอลเกาหลีตัวท็อป แบมแบม GOT7” นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์คนแรก พร้อม มิวส์ ศิลปินไทยสุดฮอตอย่าง “ยอร์ช ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์” ควบกิจกรรมทางการตลาดตลอดปี 2566
เอกวรัทพันธ์ นพกุลชัยธัช และ เอศรา ไกรภัสสร์พงษ์ CEO บริษัท เรนาต้า อินโนเวชั่น กรุ๊ป จํากัด ร่วมกันเปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสภาพการณ์โควิด และสภาพการชะลอต่อของเศรษฐกิจต่อสัดส่วนของยอดขาย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หากแต่ชัดเจนที่ผู้บริโภคในยุคหลังโควิดมีพฤติกรรมการเอาใส่ใจเรื่องสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทั้งภายในและภายนนอก การตระหนักถึงภาวะโรคระบาด โรคอุบัติใหม่ สังคมผู้สูงอายุ รวมถึงเรื่องรูปร่าง ผ่านการบริโภคอาหารที่กินในแต่ละวัน ทั้งนี้ จากปัจจัยต่าง ๆ บริษัทฯ เชื่อว่าจะส่งอานิสงส์ให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นในปี 2566 ด้วยการรั้งตำแหน่งยอดขายอันดับ 2 ในประเทศไทย* ในกลุ่มอาหารควบคุมหรือลดน้ำหนัก อีกทั้งยังได้รับความเชื่อมั่นจากกลุ่มตัวแทนจัดจำหน่าย ผู้บริโภค
เอศรา กล่าวว่า จากข้อมูลของ International Pharmaceutical Students’ Federation (IPSF) ระบุว่า ปัจจุบันคนไทยเป็นโรค NCDs (โรคเสื่อม) สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก และ 73% ของคนไทยที่เสียชีวิต สาเหตุมาจากโรค NCDs โดยสาเหตุของการเกิดโรคเหล่านี้ เกิดจากเรื่องทานอาหารเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้วัดว่า คนไทยยังไม่ให้ความสำคัญถึงเรื่องการทานอาหารเท่าที่ควร
Renatar Ultra Me จึงได้ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ และนักโภชนาการระดับเชี่ยวชาญยกระดับคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อตอบโจทย์คนรักตัวเอง ด้วยสารอาหารที่ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้คัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นไข่ขาวจากฝรั่งเศส ข้าวโอ๊ตจากสวีเดน เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ พัฒนาเป็นสินค้าที่แคลอรีต่ำเพียง 224 กิโลแคลอรี มีปริมาณอาหารที่จำเป็นและเหมาะสมต่ออัตราการบริโภคในแต่ละวัน
สามารถรับประทานได้ง่าย ควบคู่กับการรับประทานอาหารอื่นๆ ผู้บริโภคจะมั่นใจได้เลยว่า อาหารมื้อนี้นอกจากจะสามารถควบคุมน้ำหนักได้แล้วนั้น ยังสามารถทำให้ ผู้บริโภคกินอาหารได้อย่างถูกหลักโภชนาการมากยิ่งขึ้น และสอดรับกับเป้าหมายการส่งเสริมให้เกิดการดูแลตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุดตามสโลแกน ‘Best of Me’ โดยเฉพาะสินค้า Renatar Ultra Me
ข้อมูลจาก Euromonitor international คาดการณ์ว่า ตลาด Meal Replacement ในประเทศจีน จะเติบโตถึง 5 แสน 4 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2022 และจะเติบโตมากขึ้นอีกในปี 2023 มากกว่านั้น Scb Economic Intelligence Center ยังระบุอีกว่า ในประเทศไทย Meal replacement เป็นอีกหนึ่งเทรนด์การบริโภคที่มาแรง และมีแนวโน้มเติบโตดีในไทย ดังนั้น Renatar เชื่อว่า การมีแบมแบมมาเป็น Presenter ให้กับสินค้าตัวนี้ จะช่วยผลักดันให้แบรนด์เติบโตอย่างมากในปีนี้แน่นอน
“โดยทางบริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงกระแสการเติบโดของสินค้าในกลุ่มดั่งกล่าว จึงได้ทุ่มเทพัฒนาสินค้ากว่า 2 ปี จนประสบความสำเร็จ เป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรกที่ผ่านมาตรฐานและได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. ให้เป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนอาหาร ภายใต้หมวดสินค้าประเภทอาหารควบคุมน้ำหนักอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” เอศรา กล่าว
เอกวรัทพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมานอกจากในมิติทางด้านยอดขายแล้ว ยังถือว่า เรนาต้า เป็นสินค้าแบรนด์น้องใหม่ที่หวังเข้ามาเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ โดยคาดหวังในการคว้าส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่ม 10% ซึ่งยังถือว่าสินค้าในกลุ่มนี้ยังใหม่อยู่มากในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่ายังมีโอกาสการเติบโตได้อีกมหาศาล ด้วยการวาง position สินค้าให้ผู้บริโภคสามารถทานได้ไง ได้คุณประโยชน์ครบถ้วน
ซึ่งมีบทพิสูจน์จากกลุ่มผู้บริโภคที่มีการขยายฐานอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ใช่แค่กลุ่มกรุงเทพฯ – ปริมณฑลแต่ยังได้รับความนิยมในระดับภูมิภาคที่ให้ความไว้วางใจกับผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะนวัตกรรมสินค้า Renatar Ultra Me ผลิตภัณฑ์ทดแทนอาหาร นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งมุ่งมั่นที่จะรักษาแชมป์ตำแหน่งยอดขายอันดับ 2 ในประเทศไทย* นี้ไว้ต่อไป
“ในปีนี้ยังเป็นปีแรกที่บริษัทฯ เสริมทัพความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ – สร้างการจดจำ ด้วยการเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์อย่าง แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือ แบมแบม GOT7 ไอดอลเกาหลี เชื้อสายไทยที่มีภาพลักษณ์และเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่จะมาช่วยเติมเต็มความสดใส มอบความสนุกสนานในทุกแคมเปญ และเชิญชวนให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพ – ดูแลตัวเองกันมากขึ้น โดยการได้รับความไว้วางใจจากแบมแบมนอกจากจะเป็นการสร้างปรากฎการณ์ทอล์คออฟเดอะทาวน์แล้ว ยังเป็นการตอกย้ำความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่มีมาตรฐาน มีความปลอดภัย และพร้อมที่จะดูแลสุขภาพของผู้บริโภคทุกคนที่ไม่ใช่เฉพาะแค่เพียงชาวไทย”
โดยนอกจากการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคแล้ว บริษัทฯ ยังมีกลยุทธ์ด้านช่องทางการจำหน่ายที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะการสร้างความแตกต่างจากระบบขายส่ง – ขายปลีก ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และไม่ใช่การขายแบบแชร์ลูกโซ่หักหัวคิวกินเปอร์เซ็นต์จากดาวน์ไลน์ หรือการชวนลงทุน โดยตั้งแต่ทำธุรกิจมา เรามีตัวแทนที่ลงทะเบียนในระบบแล้วมากกว่า 20,000 รหัส ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจร่วมกับเรานาต้ามาอย่างต่อเนื่อง 5 ปี ทั้งนี้ โดยมีแผนดำเนินกิจกรรมด้านการตลาด แคมเปญทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ เช่น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย VDO Call ร่วมกับศิลปินระดับโลกกับแบม แบม หรือ กิจกรรม Fan Meeting กับศิลปินไทยดาวรุ่งอย่าง ยอร์ช ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้บริโภค รวมถึงส่งต่อความคุ้มค่าให้สอดคล้องกับที่แบรนด์ได้รับความไว้วางใจตลอดทั้งปี
” นอกจากการนำสิ่งดี ๆ มาสู่ผู้บริโภคแล้ว เรนาต้ายังพร้อมที่จะร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และไลฟ์สไตล์คนไทยควบคู่กัน โดยเฉพาะยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีแค่เป้าหมายการมีสุขภาพที่ดี แต่ยังต้องมีความสมส่วนทางรูปร่าง ผิวพรรณ สามารถส่งต่อแรงบันดาลใจไปสู่คนอื่นๆ ได้ โดยในปีนี้และในอนาคตจะได้เห็นเรนาต้าเข้ามาช่วยดูแลสุขภาพของทุกคนให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิต ต่อเนื่องไปถึงการสร้างคอมมูนิตี้การควบคุมน้ำหนัก การแบ่งปันแนวทางดูแลสุขภาพ และทำให้คนไทยมั่นใจกับความเป็น Best of Me มากขึ้น ” เอศรา กล่าว
