“นอนกรน” ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก รวมถึงส่งผลกระทบต่อชีวิตคู่ หากเรามีสภาวะการนอนที่ไม่ดี และปล่อยปละละเลย อาจเกิดผลกระทบถึงร่างกายก่อให้เกิดโรคร้าย เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
แพทย์หญิงธนัชพร ลาภาธารกุล (หมอแอน) แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ APEX Wellness เผยว่า “ปัญหาการนอนกรน จากสถิติการรักษาพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ทั้งนี้ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นร่วมด้วย
ปัญหาการนอนกรนเกิดจากการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อด้านในช่องคอ เพดานอ่อน ลิ้นไก่ หรือโคนลิ้นด้านในขณะหลับ ทำให้เกิดการอุดกั้นระบบทางเดินหายใจในบางจุดจนเกิดการสั่นสะเทือนของกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ เพดานอ่อน โคนลิ้น รวมไปถึงลิ้นไก่ เมื่อระบบทางเดินหายใจแคบลงการหายใจผ่านบริเวณดังกล่าวจึงทำให้เกิดเสียงกลายเป็นการนอนกรนในที่สุด
โดยจะรุนแรงทำให้ไม่สามารถหายใจได้ชั่วขณะหรือ “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ” ที่นำไปสู่การเสียชีวิตได้ สำหรับปัญหาสุขภาพอาการนอนกรน สัญญาณบ่งชี้ ได้แก่ ตื่นมาแล้วไม่สดชื่น อ่อนเพลียง่าย คอแห้ง มึนหัวคล้ายนอนไม่พอ สะดุ้งตื่นตอนนอน ง่วงตอนกลางวันทั้งที่นอนหลายชั่วโมง วูบหลับไม่รู้ตัว หงุดหงิดง่าย และไม่มีสมาธิ
นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อสุขภาพเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคอัลไซเมอร์ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด อัตราการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ และโรคหลอดเลือดในสมอง
ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันเช็กการนอนหลับ ที่สามารถช่วยเช็กในเบื้องต้นว่า มีอาการนอนกรนหรือไม่ ระดับความรุนแรงมากน้อยเพียงใด หากพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีอาการนอนกรน ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือทำการรักษาทันที ทั้งกรณีที่กรนน้อยและกรนหนัก ไม่จำเป็นต้องรอให้กรนมากจนส่งผลเสียรุนแรงแล้วจึงหาแนวทางรักษา เพราะอาจเป็นการยากกว่าการรักษาตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น
สาเหตุการนอนกรนเกิดจากสรีระช่องปากจากพันธุกรรม ไลฟ์สไตล์ ผู้ที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มีโอกาสการนอนกรนได้สูง รวมทั้งการพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเหนื่อยล้าจะทำให้ช่องปากหย่อนคล้อย รวมไปถึงอายุและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการเสี่ยงต่อการนอนกรน
สำหรับการรักษามีหลายแบบ เริ่มจากปรับพฤติกรรม ไม่ว่าจะกรนมากหรือน้อย หลายคนอาจทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร สามารถปรับพฤติกรรมด้วยตัวเองได้ เช่น เหนื่อยล้าจากการทำงานหรือออกกำลังกายหนักจนเกินไป เป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงได้
แต่หากปรับพฤติกรรมแล้วยังมีผลกระทบการนอนกรนต่อผู้อื่น สามี-ภรรยาที่นอนข้างกัน หรือกระทบเด็กเล็กวัยกำลังเจริญเติบโต ลักษณะนี้ควรมาปรึกษาแพทย์และรับการรักษาทันที
ปัจจุบันมีนวัตกรรมในรักษาอาการนอนกรนด้วยการใช้เลเซอร์ เทคโนโลยีล่าสุดที่ APEX Medical Center ซึ่งได้รับการออกแบบและพัฒนาให้สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวที่บอบบางภายในช่องปาก ทำให้เกิดการหดกระชับของกล้ามเนื้อ ลดการปิดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้อาการกรนลดลงอย่างชัดเจน ตั้งแต่การรักษาครั้งแรก
ทั้งนี้เป็นการรักษาที่ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาชา ไม่ต้องฉีดยา อีกทั้งยังไม่ต้องเตรียมตัวก่อนการรักษา ใช้เวลารักษาสั้นแค่ 30 นาที ไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
อย่างไรก็ตามคุณภาพการนอนที่ดีไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี ต้องมีปัจจัยร่วมหลากหลาย การมีคุณภาพชีวิตลงลึกร่างกายแข็งแรง ภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหาร การขับถ่าย การเผาผลาญที่ดี รวมถึงน้ำหนักตัวที่เหมาะสม ซึ่งสามารถดูแลร่วมกันได้แบบองค์รวม
สามารถติดตามข้อมูลดีดีเกี่ยวกับสุขภาพด้านศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ หรือปรึกษา ผ่าน Facebook : APEX Life Wellness และ Line Official : @apexlifecenter