“อนันตรา เกาะยาวใหญ่” รีสอร์ตหรูริมทะเล ที่ออกแบบความเก๋ไว้ทุกที่

629

ความประทับใจเมื่อฝากไว้ที่ไหนแล้วก็อยากจะกลับไปรับคืน

ห้องพักกว้าง ๆ อยู่อย่างสะดวกสบาย ห้องน้ำใหญ่ ๆ ระเบียงยาว ๆ มองจากจุดไหนก็วิวสวยอลังการ แถมยังเงียบสงบ รายล้อมด้วยต้นไม้ ด้านหน้าเป็นทะเล ด้านหลังเป็นภูเขา ใช้คำว่า “เพอร์เฟ็ค” ได้เลย

ทำเลที่สุดยอดเช่นนี้เป็นมุมหนึ่งที่เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา จะว่ามุมก็ไม่เชิงหรอกนะ เพราะ “อนันตรา เกาะยาวใหญ่  รีสอร์ท แอนด์ วิลล่าส์”  มีพื้นที่ถึง 146 ไร่ ห้องพักรวม 148 ห้อง แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่แบบเดียว

ท่าเรือของอนันตรา เกาะยาวใหญ่

ข้ามน้ำข้ามฟ้าไปหายาวใหญ่

เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ เราเดินทางด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สู่สนามบินนานาชาติภูเก็ต เดินทางอีกประมาณ 30 นาที ไปสู่ “ท่าเรือโบ๊ทลากูน” เตรียมตัวกันที่ “โรงแรม เอ็นเอช โบ๊ทลากูน ภูเก็ต รีสอร์ท” เพื่อลงเรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะยาวใหญ่ ใช้เวลา 45 นาที ชมวิวเพลิน ๆ แป๊บเดียวก็ถึง

ท่าเรือของ “อนันตรา เกาะยาวใหญ่” ทอดตัวอยู่ในทะเล แค่ภาพแรกที่เห็นก็สัมผัสได้ถึงความเนี้ยบ กลิ่นความลักซ์ชัวรี่หอมมาแต่ไกล รถรางของโรงแรมมารอรับ ขับซอกแซกผ่านสวนยาง สวนปาล์ม และชุมชน ไปยังอาณาจักรแห่งความผ่อนคลายริมชายหาด

มองแค่แวบแรกก็รู้แล้วว่า โครงการนี้ไม่ธรรมดา แลนด์สเคปแน่นปึ๊ก โครงสร้างตึกโลว์ไรส์ถูกจัดวางไว้แบบโปร่งสบาย ถนนในโครงการกว้างมาก จะเดิน จะวิ่ง จะปั่น ก็ทิ้งสเปซกันสบาย ๆ

ศรคม กิจประสาน เจ้าของ อนันตรา เกาะยาวใหญ่ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่าส์

เช็คอิน ณ ล้อบบี้ที่มองเห็นหน้าหาดกว้างขวาง ผนังตรงฟร้อนท์มีสีเขียวชอุ่ม ทราบว่าเป็นเหล่าเจ้ามอสปกคลุมอยู่ เพื่อแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เริ่มไปหนึ่งเก๋!

พนักงานยกเวลคัมดริ้งกับขนมบ้าบิ่นก้อนกลมมาเสิร์ฟ เนื้อแน่นหนึบหอมมะพร้าว แจกไปอีก 1 เก๋

มาถึงที่พักตอนเที่ยงพอดี มื้อแรกที่ “ห้องอาหารปะการัง” ที่อยู่ใกล้กับลอบบี้ ตัวร้านกว้างขวาง มีทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ เป็นร้านอาหารหลักที่ให้บริการอาหารเช้า เที่ยง เย็น

เมนูเรียกน้ำย่อยแบบไทย ๆ เรียงรายมาพอหอมปากหอมคอ จากนั้นก็ลิ้มลองเมนูอาหารไทยที่มีความโดดเด่นทางด้านวัตถุดิบ กุ้ง หอย ปลา มาแบบบิ๊ก ๆ เนื้อ ๆ เน้น ๆ ปรุงอะไรก็อร่อย

รับประทานอาหารแล้ว ออกไปเดินชมห้องพักกันก่อน

เริ่มต้นที่ 90 ตารางเมตร

“อนันตรา เกาะยาวใหญ่ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่าส์” มีจำนวนห้องพักรวม 148 ห้อง ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 90 ตารางเมตรขึ้นไป ย้ำว่าเริ่มต้นที่ 90 ตารางเมตร OMG! ดีกรีความหรูมันจะเริ่มน้อยกว่านี้ไม่ได้

ห้องพักมีทั้ง 1-2 ห้องนอน มีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบสวีท แฟมิลี่ พูลวิลล่า และเพนท์เฮ้าส์

ฮอตสุด ๆ กับ “ซีวิว พูล เพนท์เฮาส์” แบบ 2 ชั้นขนาด 366 ตารางเมตร มีเพียงจำนวน 8 ห้อง จุดเด่นคือวิวทะเลกว้างใหญ่ และสระว่ายน้ำส่วนตัวบนดาดฟ้า โดยมีอยู่ห้องหนึ่ง (ตึก 4) ที่มีสระแบบท้องกระจก ใครที่นั่งเล่นตรงโซฟาชั้นล่าง ก็จะเห็นเพื่อนว่ายเป็นเงือกเป็นปลาอยู่บนเพดาน อันนี้เก๋!เพราะมีเพียงห้องเดียว และถูกจองเต็มตลอด

เดินต่อไปที่ห้องแบบแฟมิลี่ มีให้เลือกหลายขนาด ที่เข้าชมแล้วชอบมากคือ “แกรนด์ ซีวิว แฟมิลี่ สวีท” กว้าง 192 ตารางเมตร มาพร้อมห้องนอนคุณหนูแบบเตียงสองชั้นที่เพิ่มลูกเล่นด้วยบันไดและสไลเดอร์

เนินเขียว ๆ นี่คือห้องพักแบบ บีชฟร้อนท์ พูล วิลล่า

ขณะที่อยู่ชั้นบนอาคาร เมื่อมองลงมาจะเห็นเนินเตี้ย ๆ ปกคลุมด้วยหญ้าเขียว ๆ เรียงรายอยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำใหญ่ริมทะเล คิดว่าคงเป็นห้องระบบอะไรสักอย่าง  เพราะมองแล้วทางเข้ามันเหมือนลงชั้นใต้ดินอยู่นะ

เมื่อเดินเข้ามาใน บีชฟร้อนท์ วิลล่า ใน 1 เนิน จะมี 2 ห้อง แยกซ้ายขวาแบบนี้

เมื่อเดินไปถึง ว้าว ๆ ๆ มันไม่ได้เตี้ยอย่างที่มองเห็น ถ้าเทียบก็คืออาคาร 1 ชั้น แต่แอบเนียนอยู่ในเนินดิน ซึ่งทางเจ้าของได้ไอเดียมาจากบ้านฮอบบิทที่นิวซีแลนด์

ไม่ได้แค่หรู เพราะยิ่งดูยิ่งเจ๋ง แจกไป 1 เก๋

บีช ฟร้อนท์ พูล วิลล่า

ด้วยความสงสัยว่า ทำไมโรงแรม 5 ดาว ต้องสร้างวิลล่าไว้หน้าหาด มันดีสำหรับคนเข้าพักก็จริง แต่มันก็บังวิวคนที่อยู่ด้านหลังนะ ดังนั้นวิลล่าหน้าหาดของอนันตรา เกาะยาวใหญ่ จึงนำสไตล์นั้นมาประยุกต์เป็น บีช ฟร้อนท์ พูล วิลล่า ขนาด 198 ตารางเมตร กว้างขวาง อยู่สบาย โล่งโปร่ง มีสระว่ายน้ำส่วนตัวพร้อมสนามหญ้าเล็ก ๆ ติดชายหาดระยะประชิด

ด้านหลังเป็นภูเขาเขียวชอุ่มมาก ๆ

กล่าวโดยรวมว่า ที่อนันตรา เกาะยาวใหญ่ มีห้องพักหลากสไตล์ ตกแต่งไม่ซ้ำกัน เชื่อมั่นได้ถึงความสะดวกสบายกว้างขวาง ออกแบบมาแล้วว่าต้องมองเห็นวิวทะเลทุกห้อง มีสระว่ายน้ำหลายจุด บางห้องก็มีสระส่วนตัว สระในส่วนของแฟมิลี่ มีสไลเดอร์น้ำขนาดใหญ่ไว้ให้สนุกสนานกันด้วย

ในรีสอร์ตยังมี “คิดส์คลับ” ที่กว้างขวางพร้อมพนักงานดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งส่วนของเด็ก 1-4 ขวบ และ 1-12 ปี มีห้องนอนเด็กในคิดส์คลับด้วยนะ อันนี้พ่อแม่ผู้ปกครองบอกว่าเก๋กู้ด

สายเฮลท์ตี้บอกมาเที่ยวแล้วเราก็อยากจะฟิต ขอเชิญไปที่ฟิตเนส ซึ่งไม่ได้สร้างมาเล่น ๆ จัดเต็มทุกเครื่องมาตรฐาน ปานว่าเป็นฟิตเนสเซ็นเตอร์ของเกาะได้เลย

เกินคำว่าชิล ที่ “ซีวิว พูล เพนท์เฮาส์” 

เดินชมกันพอหอมปากหอมคอ มุ่งหน้าไปที่ตึก 1 ซึ่งใกล้กับบีชบาร์มากที่สุด ห้องพักของเราหมายเลข 1402 เป็น “ซีวิว พูล เพนท์เฮาส์” แบบ 2 ชั้น ถ้าหันหน้าออกทะเลจะอยู่ฝั่งขวาสุดของโรงแรม มองเห็นอีกวิวที่มีทั้งภูเขาและทะเล เก๋อลังการ

เป็นห้องที่กว้างมาก จนอยากชวนเดอะแก๊งค์ว่ายน้ำตามมาสมทบ ชั้นล่างแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือห้องนั่งเล่น มีทั้งโซฟาใหญ่ และโต๊ะรับประทานอาหาร มินิบาร์ ห้องครัวเล็ก ๆ รวมทั้งห้องน้ำสำหรับแขก

ส่วนของห้องนอนที่หมอนใหญ่หนานุ่มจนอยากกระโดดเข้าหาทันที แบ่งโซนกับห้องแต่งตัว มีพร็อพเล็กน้อยอย่างตะกร้า หมวก และผ้าบาติกให้ใช้ตอนอยู่ในรีสอร์ต ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ก็ครบครัน จัดเต็มสุด ๆ

ด้านในสุดเป็นโซนห้องน้ำ ที่ยกทุกความห้องน้ำมาไว้ที่นี่ ทั้งอ่างจากุซซี่ที่มองวิวทะเลผ่านกระจก แต่ที่ว่าเก๋ แม้จะสะเทือนใจเล็กน้อยคือ ฝักบัวคู่ อ่างล้างหน้าคู่ โต๊ะเครื่องแป้งคู่…. (ตบบ่าตัวเองเบา ๆ )

เดินมาด้านหลังห้องแต่งตัว แหวกม่านประเพณีออกมา จะพบบันใดวนสู่ชั้น 2 เปิดประตูออกไป ขึ้นบันใดอีกไม่กี่ก้าว ก็ว้าว ๆ ๆ กับสระว่ายน้ำใหญ่กำลังดี เก๋สุด ๆ เลยมุมนี้ ไม่มีอะไรต้องบรรยายอีกแล้ว

“บีช เรสเตอรองท์” คือมื้อค่ำของวันนี้ อาคารไม้ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมท้องถิ่น หรือบ้านโบราณของชาวบ้านแถบนี้ เป็นบีชบาร์ที่แยกจากส่วนที่พักออกมาอย่างชัดเจน จะจัดเลี้ยง หรือแต่งงานก็เหมาะมาก  ส่วนอาหารก็เป็นแบบนานาชาติ วัตถุดิบดีมีชัยอย่างที่บอกไปแล้ว

คืนแรกที่ “อนันตรา เกาะยาวใหญ่” เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ แม้จะนอนคนเดียวก็รู้สึกสบาย ระเบียงหน้าห้องกว้างมาก เดินออกมาชมจันทร์อย่างฟิน แถมยังมีทั้งโซฟาเบด และชุดโต๊ะเก้าอี้ จะนั่ง จะนอน ระเบียงของเราก็ตอบโจทย์ เป็นความเก๋ที่เจ้าของโครงการคิดมาแล้วเช่นกัน

เช้าวันใหม่เดินไปรับประทานอาหารเช้าที่ “ห้องอาหารปะการัง” ปกติสามารถเรียกรถรับ-ส่งได้ แต่ขอเดินชมบรรยากาศดีกว่า

อาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลาย ไทย จีน ฝรั่ง เดิน ๆ ไปเจอไส้กรอกเนื้อ เลยหยุดตรงนี้ที่เธอ จิบกาแฟหอม ๆ รอเวลาออกทัวร์ชุมชน

ไปดูล็อบสเตอร์กับเราไหม

ประชากรหลักที่เกาะยาวใหญ่เป็นมุสลิม อยู่กันอย่างเงียบสงบ มีอาชีพด้านเกษตรกรรมและประมง อย่างวันนี้เรามุ่งไปที่บ้านแหลมล้าน ท่าเรือหลักของเกาะยาวใหญ่ (ที่เกาะมีหลายท่าเรือมาก)

นั่งเรือไปชั่วอึดใจเพื่อดูการเลี้ยงล็อบสเตอร์ที่กระชัง “อาจารย์ฟาร์ม” มี “บังกิ๊ฟ” เป็นผู้สืบสานกระชังจากคุณพ่อ เลี้ยงล็อบสเตอร์ หรือ กุ้งมังกร 7 สี ใครที่สนใจก็เข้ามาเรียนรู้ ถ่ายรูปกับน้องกุ้งยักษ์ พูดคุยกับบัง หรือจะสั่งซาซิมิล็อบสเตอร์กินกันสด ๆ สนนราคาค่าเข้าชม (ไม่รวมอาหาร) คนละ 100 บาท สำหรับราคาของล็อบสเตอร์ ประมาณ 2,500 บาทต่อกิโลกรัม

นอกจากล็อบสเตอร์สีสวย ๆ แล้ว ในกระชังก็มักจะมีสัตว์ทะเลอื่น ๆ หลงเข้ามาอาศัย วันนี้เจอกับเจ้าปักเป้าน้อย เจ้ากินไม่ได้ แต่น่ารักอยู่นะ

แหลมหาด

ลิ้มรสเสน่ห์ถิ่นเกาะยาวใหญ่

ดูกระชังแล้วไปต่อกันอีกจุดไฮไลต์ของเกาะยาวใหญ่ แต่เสียดายที่วันครึ้มฟ้าครึ้มฝน บริเวณ “แหลมหาด” ซึ่งเป็นสันทรายยามน้ำลด จึงไม่มีแสงมาทอประกายของน้ำสีฟ้า ๆ อย่างที่เคย และเราก็อาจจะมาเร็วไป น้ำยังลดลงไม่มาก จึงเจอสันดอนทรายเป็นทางสั้น ๆ แต่ก็สัมผัสถคงความสงบงาม เป็นเสน่ห์ที่เก๋ในแบบตัวเอง

ออกจากแหลมหาด มุ่งหน้าต่อไปที่ “ร้านอาหารบ้านริมน้ำ” น่าจะเป็นครัวหลักของนักท่องเที่ยวที่มาเกาะยาวใหญ่ เป็นร้านอาหารพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยเมนูท้องถิ่น สด และน่ากิน รสชาติเด็ดแบบชาวใต้ ใครกินรสจัดได้ไม่ผิดหวังแน่นอน ตบท้ายด้วยของหวานสุดเก๋อย่างกล้วยบวชชีมะพร้าวอ่อน ทำสด ๆ ตามออเดอร์ หอมกะทิ และไม่หวานมาก ปิดท้ายความเผ็ดร้อนได้ลงตัว

บริเวณร้านอาหารยังเป็นจุดชมวิววิถีชาวบ้าน ฝั่งตรงข้ามคือเกาะยาวน้อย อาจจะยาวน้อยแต่ความคึกคักมากกว่าเกาะยาวใหญ่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เป็นมุสลิมเหมือนกัน จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงความสงบและรักษาความเป็นธรรมชาติไว้ได้มากพอ ๆ กัน

ขากลับแวะชมการทำผ้าบาติก ซึ่งอยู่ใกล้ร้านอาหาร ใครที่อยากลงมือทำก็เตรียมเวลามาละเลงฝีมือกันได้

ระหว่างที่เดินทางผ่านชุมชน เราได้เห็นวิถีถิ่นที่ดำเนินอย่างเรียบง่าย ร้านค้าบนเกาะมีไม่มากนัก แต่ก็มี 7-11 หนึ่งแห่ง เป็นเซเว่นของมุสลิม ที่ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนั้นยังได้เห็นโรงเรียน และมัสยิด ซึ่งมาจากการบริจาคของ “คุณศรคม กิจประสาน” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรญา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เจ้าของโครงการ อนันตรา เกาะยาวใหญ่  โดยในส่วนของโรงเรียน มี “คุณสุภกิต เจียรวนนท์” ผู้บริหารซีพี ร่วมบริจาคครึ่งหนึ่ง

ที่ฝากเอาไว้ไม่ใช่แค่ความทรงจำ

เราเข้าพักที่ “อนันตรา เกาะยาวใหญ่” 3 วัน 2 คืน ความว้าวในหลาย ๆ จุดทำให้รู้สึกว่ามีเวลาน้อยเหลือเกิน ยามเช้าหน้าหาดซึ่งมีความยาวถึง 1 กิโลเมตร เป็นช่วงที่ไม่อยากให้พลาด น้ำที่ลดลงจะเห็นผืนทรายขนาดใหญ่ ขณะที่ตอนน้ำขึ้นเดินลงไปสัก 200 เมตรความลึกก็ยังไม่เกินเอว จะเล่นน้ำ พายเรือ ก็มีความปลอดภัยสูง

บริเวณชายหาดเป็นชุมชนของปูนับพัน ๆ ตัว แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ เป็นอีกหนึ่งในความตั้งใจของ “อนันตรา เกาะยาวใหญ่” ที่ออกกฎระเบียบไม่ให้นักท่องเที่ยวจับปูเด็ดขาด

นอกจากนั้นยังมีการจัดการเรื่องน้ำและขยะ ด้วยระบบบำบัดและกำจัดอย่างมีมาตรฐาน มีการใช้โซลาเซลล์ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังสะอาดที่น่าชื่นชม

ในอนาคตทางรีสอร์ตยังมีแผนขยายโครงการวิลล่าบนภูเขา อีก 30 หลัง ซึ่งจะอลังการตระหง่านฟ้าไปอีกขั้น และที่อยู่อาศัยสุดหรูริมชายหาด ขนาดพื้นที่กว่า 2,200 ตารางเมตร หลังละ 8 ห้องนอน พร้อมห้องสปาส่วนตัว จะเริ่มเพียง 6 หลัง ราคา 6.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนี้มีเศรษฐีชาวไทยจองไปแล้ว2 ห้อง

ที่นี่ยังได้รับความสนใจจากชาวอินเดีย เลือกเหมาทั้งโรงแรมเพื่อจัดงานแต่งงาน ทราบมาว่าเจ้าภาพไปดูมาหลายที่ แต่มาตกผลึกที่นี่ เพราะมีในสิ่งที่หลายแห่งไม่มี โดยเฉพาะชายหาดที่ยาวมาก บรรยากาศแบบส่วนตัวสุด ๆ กำหนดจัดงานเดือนกุมภาปีหน้า ปิดโรงแรมไปเลย 3-4 วัน ชวนแขก 300คนมางานเลี้ยง ทุ่มสุด ๆ ช่างน่าอิจฉาเจ้าบ่าวจริง ๆ

ช่วงเวลาที่เกาะยาวใหญ่ เต็มไปด้วยเรื่องราวดี ๆ ที่ต้องบันทึกไว้ แม้ฟ้าฝนจะไม่เป็นใจในบางช่วง แต่ก็สร้างอีกมิติของภาพจำที่แสนงดงาม ที่ฝากไว้คือความประทับใจ ที่เก็บกลับไปก็คือความหมายเดียวกัน