การท่องเที่ยวเกาหลี เร่งขับเคลื่อน Smart Tourism ผนึกไทยฟื้นยอดก่อนโควิด

37

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) นำทัพสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยวผนึกความร่วมมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทย และเวนเจอร์แคปิทัลชั้นนำของไทย จัด ฟอรั่มความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเกาหลีไทย KoreaThailand Tourism Startup Cooperation Forum เดินหน้าลงนามข้อตกลงทางธุรกิจผลักดัน Smart Tourism ของเกาหลี เตรียมพร้อมขยายฐานการท่องเที่ยวเกาหลีสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เจมส์ ลี รองประธาน องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเกาหลี-ไทย KTO จึงร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยว  แห่งประเทศไทย (ททท.) และอินโนสเปซ ไทยแลนด์ จัด KoreaThailand Tourism Startup Cooperation Forum เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และสร้างฐาน นวัตกรรมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวผ่านความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยว และสตาร์ตอัป

KoreaThailand Tourism Startup Cooperation Forum นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งหลังจาก KTO ได้ร่วมกับ ททท. กำหนดให้ปี 2566-2567 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวระหว่างเกาหลีและไทย เพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศก้าวเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวระดับโลก และนำไปสู่การส่งเสริมยูนิคอร์นด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมกันจัดงาน Korea Everywhere มหกรรมการท่องเที่ยวเกาหลีครั้งยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทย เพื่อฉลองปีแห่งการท่องเที่ยวเกาหลีไทย โดยชวนคนไทยมาอัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ในเกาหลีผ่านโลก Metaverse ในแอปพลิเคชันZepeto

สำหรับไฮไลต์สำคัญในงาน KoreaThailand Tourism Startup Cooperation Forum คือ การลงนามข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างเกาหลีและไทย ได้แก่ ข้อตกลงทางธุรกิจสำหรับนวัตกรรมดิจิทัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเกาหลี-ไทย ระหว่าง Yanolja ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของเกาหลี และสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว และข้อตกลงทางธุรกิจเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในเกาหลีผ่านช่องทรู และไลฟ์คอมเมิร์ส ระหว่าง LaLa Station และทรู คอร์ปอเรชั่น

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลอย่างรวดเร็ว เราเล็งเห็นว่าการระดมทุน และหาพันธมิตรเป็นสิ่งจำเป็นการจัดทำข้อตกลงทางธุรกิจครั้งนี้นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะผลักดัน   การท่องเที่ยวแบบ Smart Tourism ของเกาหลีให้เติบโต และเรายังวางแผนที่จร่วมมือกับผู้ประกอบ  การท่องเที่ยว และนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก” เจมส์ ลี กล่าว

นอกจากการลงนามข้อตกลงทางธุรกิจแล้ว ภายในงานฟอรั่มยังได้จัดกิจกรรม KTourism Startup IR เพื่อเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปเกาหลีได้เจรจาหาผู้ร่วมทุน สร้างเครือข่ายธุรกิจ ขยายฐานลูกค้าด้าน Smart Tourismโดยมีสตาร์อัปจากเกาหลี และนักลงทุนจากไทย เช่น CP Group และ KBank รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมงาน เช่น ททท. และสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว

“การที่องค์กรยักษ์ใหญ่ของไทยมาร่วมกิจกรรม KTourism Startup IR เป็นบทพิสูจน์ว่าองค์กรด้านเทคโนโลยี และสตาร์ตอัปด้านการท่องเที่ยวของเกาหลี มีความน่าสนใจ ซึ่งสตาร์ตอัปบางรายได้มีการเจรจาเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกันแล้ว งานนี้ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้สตาร์ตอัปเกาหลี จากที่เคยเป็นเพียงธุรกิจในประเทศ ปัจจุบันสามารถขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้ และยังคาดว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยวของเกาหลีจะสามารถเติบโตเป็นบริษัทระดับโลกได้ในอนาคต”

เจมส์ ลี กล่าว

เจมส์ ลี กล่าวเพิ่มเติมถึงการท่องเที่ยวแบบ Smart Tourism ว่า เป็นเทรนด์การท่องเที่ยวมิติใหม่ที่เกาหลีพัฒนาขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้บริการด้านการท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวเกาหลีในปัจจุบันมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลวันที่ 25 กันยายน 2566 พบว่าปีนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกาหลีแล้ว 7.49 ล้านคน เพิ่มขึ้น 60% จากปี 2562 ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในปีนี้ ได้แก่ หอคอยนัมซานในกรุงโซล ป้อมปราการฮวาซองในเมือง    ซู วอน จังหวัดคยองกี เกาะนามิในจังหวัดคังวอน หมู่บ้านฮันอกในจอนจู และสวนสนุกแทจงแดในพูซาน

เรามีแผนที่จะดึงนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเกาหลีให้มากที่สุด เราตั้งเป้าที่จะขยายฐานการท่องเที่ยวเกาหลีสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกำหนดให้ปีนี้และปีหน้าเป็น “ปีแห่งการมาเยือนเกาหลี” และได้จัดแคมเปญ “100 กิจกรรมการท่องเที่ยวเกาหลี” ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมเกาหลี โดยตั้งเป้าว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเกาหลี 10 ล้านคน ส่วนในปี 2567 คาดว่าสถานการณ์จะฟื้นตัวเต็มที่ กลับไปสู่สภาวะก่อนเกิดโควิด ซึ่งมีนักเที่ยวอยู่ที่ 17.5 ล้านคนต่อปีเจมส์ ลี กล่าว