6 ไอเดียสร้าง Passive Income แบบฉบับพ่อรวยสอนลูก

34

โรเบิร์ต โทรุ คิโยซากิ ผู้เขียนหนังสือขายดี “พ่อรวยสอนลูก” แบบฉบับความรู้ทางการเงินส่วนบุคคลยุคใหม่สำหรับคนทั่วโลก หลักการสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งของเขา คือการสร้าง Passive Income หรือรายได้ที่มาโดยไม่ต้องทำงาน และนี่คือ 6 ไอเดียที่ดีที่สุดในการสร้าง Passive Income ของคิโยซากิ คือ

1. ลงทุนอสังหาริมทรัพย์
คิโยซากิสนับสนุนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ให้เงินทำงานเพื่อคุณ เพราะการซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือการให้เช่าจะสร้างรายได้ที่มั่นคง ยิ่งเวลาผ่านไป มูลค่าอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้น ขณะที่หนี้ของคุณจะลดลง จะทำให้คุณมีรายได้จากค่าเช่าและมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่สามารถใช้เงินกู้มาลงทุนได้

ปัจจุบันการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มีหลายรูปแบบ ได้แก่
– การลงทุนแบบเก็งกำไรระยะสั้น ใช้เงินลงทุนน้อย ได้ผลตอบแทนเร็ว เช่น การขายใบจองคอนโด เป็นต้น
– การลงทุนแบบปล่อยเช่ารายเดือน เหมาะสำหรับนักลงทุนแบบเสือนอนกิน โดยใช้เงินเก็บมาลงทุน
– การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว
– การลงทุนรีโนเวท เป็นการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์มือสองมาตกแต่งใหม่ เป็นการลงทุนต่ำ แต่ได้ผลตอบแทนสูง โดยสามารถเลือกซื้อสินทรัพย์ได้จากการประมูลกรมบังคับคดี หรือทรัพย์สินรอการขายจาสถาบันการเงินต่าง ๆ

2. หุ้นปันผล
การซื้อหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ เป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้แบบ Passive Income หากคุณมีการเลือกลงทุนในบริษัทที่มีความมั่นคงและมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอจะทำให้คุณมีรายได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถลงทุนเพิ่มได้ หรือนำเงินมาใช้จ่ายได้

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดัชนี SETHD (SET High Dividend) ดัชนีรวมหุ้น 30 ตัว ที่มีขนาดใหญ่ใน SET 100 อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) จะอยู่ที่ 4.85% ของราคาหุ้น เทียบกับดัชนี SET อยู่ที่ 3.12%

อย่างไรก็ตาม หุ้นปันผลที่ดีต้องไม่ได้มีดีแค่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง แต่จะต้องสูงอย่างต่อเนื่อง และยังต้องมีปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ ที่ดีคอยสนับสนุน เช่น กำไร สภาพคล่อง หนี้ ความเสี่ยง เพื่อปันผลที่มั่นคงในระยะยาว เพราะต้องไม่ลืมว่าเงินปันผลก็คือส่วนแบ่งของกำไรที่มาจากผลประกอบการที่ดีของกิจการ

3. ค่าลิขสิทธิ์จากทรัพย์สินทางปัญญา
หากคุณเป็นศิลปิน นักเขียน นักดนตรี หรือนักประดิษฐ์ เมื่อใดก็ตามที่มีคนใช้สิ่งที่คุณสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เพลง สิทธิบัตร หรือทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบใด รูปแบบหนึ่ง คุณจะได้รับค่าลิขสิทธิ์ เช่น ทุกครั้งที่หนังสือที่คุณเขียนถูกขายหรือสตรีมเพลงที่คุณแต่ง คุณจะได้รับเปอร์เซ็นต์ของยอดขายนั้น แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามเริ่มแรกในการสร้าง แต่รายได้ที่ตามมาสามารถอยู่เฉย ๆ ได้นานหลายปีหรือหลายสิบปี

คิโยซากิ นอกจากเขียหนังสือแล้ว ปัจจุบันยังสร้างเกมความรู้ทางการเงินชื่อ Cashflow ที่พูดถึงวิธีหารายได้จากเกมนี้ เกม Cashflow มีภาษาที่แตกต่างกันถึง 50 ภาษา สำหรับคิโยซากิ การลงทุนในทรัพย์สินทางปัญญา ใช้เงินลงทุนเป็นศูนย์ แต่ได้ผลตอบแทนสูง อย่างการเขียนหนังสือ สร้างรายได้จากค่าลิขสิทธิให้เขาประมาณ 600,000 ดอลลาร์ต่อเดือน

4. สร้างธุรกิจที่อยู่ได้โดยไม่มีคุณ
แนวคิดของคิโยซากิในเรื่องนี้ คือ แทนที่คุณจะทำธุรกิจด้วยตัวเอง แต่คุณจัดหาระบบ หรือผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้โดยอัตโนมัติ และสร้างรายได้แม้ว่าตัวคุณจะไม่อยู่ก็ตาม ซึ่งในที่นี้ อาจจะรวมถึงธุรกิจแฟรนไชส์ หรือธุรกิจขายตรง ที่มีระบบรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ

ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นการสร้าง Passive income ที่มีความเสี่ยงต่ำหากเทียบกับการลงทุนแบบอื่น ๆ เนื่องจากจะมีการกำหนดเป้าหมายและอัตราส่วนแบ่งของกำไรที่ชัดเจน และได้รับการสนับสนุนจาก Franchisesor และธุรกิจแฟรนไชส์สมัยใหม่ มีทางเลือกค่อนข้างมากหากคุณมีพื้นที่เป็นของตัวเองก็สามารถลงทุนในแฟรนไชส์ห้างร้านใหญ่ ๆ ได้ หากคุณไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเองแต่สนใจในธุรกิจแฟรนไชส์แฟรนไชส์ตู้อัตโนมัติ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพราะใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่าและสามารถเลือกทำเลได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาเฝ้าร้านหรือคอยดูแลพนักงาน ธุรกิจแฟรนไชส์จึงเป็นการสร้าง Pasive income อีกทางหนึ่ง

5. การปล่อยกู้
แทนที่จะออมเงินไว้ในธนาคาร ลองให้กู้ยืมเพื่อหาดอกเบี้ย ซึ่งปัจจุบันสามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มที่ให้กู้ยืมแบบ peer-to-peer หรือ P2P Lending ช่วยให้คุณสามารถให้เงินแก่บุคคลหรือธุรกิจขนาดเล็กเพื่อแลกกับการจ่ายดอกเบี้ย เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้เงินของคุณทำงานแทนคุณ แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และเลือกแพลตฟอร์มและโอกาสในการให้ยืมอย่างชาญฉลาด

ปัจจุบัน P2P Lending แพร่หลายทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย มีจำนวน P2P Lending Platform กระจายตัวอยู่มากกว่า 3,000 แพลตฟอร์ม มูลค่าการตลาดทั่วโลกปี 2021 อยู่ที่ 83.79 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 705.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 26.7% ตั้งแต่ปี 2022-2030

ในประเทศไทย P2P Lending ถือเป็นสิ่งใหม่ในตลาด โดยปี 2019 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศข้อกำหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการประกอบธุรกิจระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์สำหรับธุรกรรมสินเชื่อระหว่างบุคคลกับบุคคล (Peer-to-Peer Lending Platform) และอนุญาตให้ผู้ให้บริการทำธุรกรรม P2P Lending ได้ โดยทุกรายจะต้องผ่านการทดสอบใน Regulatory Sandbox กับธนาคารแห่งประเทศไทย

6. เงินรายปี
เงินรายปี เป็นเงินที่ได้จากการทำประกันสังคม หรือประกันภัย ที่ได้รับการชำระเงินเป็นงวดในอนาคต ซึ่งจะทำให้พวกเขามีรายได้ที่สม่ำเสมอในช่วงเกษียณอายุ แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่บ้าง ตามเงื่อนไขของประเภทเงินงวดต่าง ๆ และตัวแปร ที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งรายได้เชิงรับ โดยค่างวดผันแปรสามารถให้ผลตอบแทนที่มากกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าได้ เนื่องจากการจ่ายเงินขึ้นอยู่กับความสำเร็จของสินทรัพย์อ้างอิง

นอกจากนี้ ผลประโยชน์จากการทำประกัน นอกจากจะมี Passive Income หลังเกษียณแล้ว จะยังสิทธินำจำนวนเงินที่จ่ายเบี้ยประกันบำนาญมาใช้ลดหย่อนภาษีในปัจจุบันอีกด้วย ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ 2 ส่วนเลยทีเดียว
นี่เป็นเพียง 6 ไอเดียแนวคิดในการสร้าง Passive Income ฉบับพ่อรวยสอนลูก ที่คนธรรมดาก็สามารถวางแผนการเงิน ให้มีเงินใช้หลังเกษียณได้ง่าย ๆ เพียงต้องมีวินัยการเงิน และนำเงินที่ได้มาใช้จ่ายอย่างเหมาะสม

ข้อมูลอ้างอิง: Robert Kiyosaki’s 6 Passive Income Ideas (msn.com)