Galaxy SmartTag2 โชว์ความง่ายและสมาร์ทในการติดตามของ

51

เปลี่ยนประสบการณ์ในการตามหาข้าวของให้ง่ายและสมาร์ท Galaxy SmartTag2 กับดีไซน์ใหม่ที่พร้อมใช้ในทุกบริบทการใช้งาน และอัปเกรดประสิทธิภาพให้เก่งรอบด้านมากกว่าที่เคย

แจยอน จุง รองประธานบริหารและหัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SmartThing ของซัมซุงกล่าว Galaxy SmartTag2 ตัวนวัตกรรมหาสิ่งของของตนได้พบด้วยวิธีการที่ง่ายและสะดวก และด้วยแบตเตอรี่ที่ทำงานได้ยาวนานขึ้น Galaxy SmartTag2 ก็จะช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกสบายใจไร้กังวลได้มากขึ้น นานขึ้น และในหลากหลายสถานการณ์มากยิ่งขึ้น

คุณสมบัติที่ใครๆ ก็ใช้ได้ ช่วยให้การค้นหาสิ่งของที่สูญหายกลายเป็นเรื่องง่ายและสมาร์ทกว่าที่เคย ด้วยโหมดการใช้งานใหม่ของ Galaxy SmartTag2 โหมดของหาย (Lost Mode) ให้ผู้ใช้สามารถใส่ข้อมูลติดต่อเอาไว้ได้ในรูปแบบข้อความ หากใครพบสิ่งของที่ติด Galaxy SmartTag2 ก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนของตนเองสแกนที่แท็กนั้น และจะเห็นข้อความของเจ้าของพร้อมด้วยข้อมูลติดต่อ หรือจะใช้กับปลอกคอสัตว์เลี้ยงจึงช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะมีข้อมูลติดต่อเจ้าของสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วยเสมอในแทบทุกสถานที่ที่สัตว์เลี้ยงตัวนั้นตะลอนไป

และโหมดของหายสามารถทำงานได้กับอุปกรณ์มือถือเครื่องใดก็ได้ที่มีระบบอ่าน NFC และมีเว็บเบราเซอร์ Galaxy SmartTag2 ยังมอบคุณสมบัติการตามหาด้วยเข็มทิศ (Compass View) โดยการแสดงลูกศรเพื่อชี้บอกทิศทางและระยะทางจากผู้ใช้ไปยัง Galaxy SmartTag2 ที่ตามหา สามารถใช้งานได้บนสมาร์ทโฟน Galaxy เครื่องใดก็ได้ที่รองรับเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ (UWB) เช่น Galaxy S23 Ultra

แอป SmartThings Find ยังได้รับการอัปเกรดขึ้นด้วยเช่นกัน โดยที่ Galaxy SmartTag ที่ลงทะเบียนใหม่จะสร้างทางลัด (Shortcut) ไปยังแอปนี้ไว้บนสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ จึงช่วยให้เปิด SmartThings Find ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในปัจจุบันแอปนี้ยังสามารถดูแผนที่ในแบบเต็มหน้าจอได้ และมีอินเทอร์เฟที่ใช้งานได้ง่าย ให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ราบรื่นไร้รอยต่อได้มากยิ่งขึ้น และเมื่อเปลี่ยนไปใช้สมาร์ทโฟน Galaxy เครื่องใหม่ SmartTag2 ก็สามารถซิงค์กับสมาร์ทโฟน Galaxy ได้โดยอัตโนมัติด้วย Samsung Account

Galaxy SmartTag2 ใช้งานได้นานยิ่งกว่าเดิม ด้วยโหมดประหยัดพลังงานแบบใหม่ ซึ่งมาควบคู่กับโหมดการใช้งานปกติที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้ใช้ที่ต้องพึ่งพา SmartTag ในการติดตามหาสิ่งของอย่างต่อเนื่อง โหมดประหยัดพลังงานสามารช่วยคงระดับพลังงานแบตเตอรี่ให้อยู่ได้นานในขณะที่ยังมั่นใจได้ว่าจะไม่คลาดสายตาไปจากสิ่งของนั้นๆ โหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ของ Galaxy SmartTag2 สามารถอยู่ได้นานสูงสุดถึง 700 วัน ซึ่งนานกว่า Galaxy SmartTag รุ่นก่อนๆ กว่า 2 เท่า

แม้ในโหมดการใช้งานปกติ แบตเตอรี่ก็สามารถให้พลังงานได้นานถึง 500 วัน หรือยาวนานขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ การสลับใช้งานไปมาระหว่างสองโหมดจะช่วยให้คอยติดตามสิ่งของมีค่าต่างๆ ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ตั้งแต่กุญแจรถยนต์ไปจนถึงรถจักรยาน

ดีไซน์สวยทันสมัย ขนาดใหม่ที่เล็กกระทัดรัดและดีไซน์รูปวงแหวนของ Galaxy SmartTag2 ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นโดยคำนึงถึงความง่ายในการใช้งาน ห่วงโลหะขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มความทนทาน และการใช้โลหะที่ขอบด้านในวงแหวนเพื่อให้ความสะดวกในการใช้งาน สามารถรองรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น ตัวหนีบหรือพวงกุญแจ และยังสามารถใช้ยึดติดกับกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเดินทางได้อีกด้วย

ความทนทานของ Galaxy SmartTag2 ยังได้รับการอัปเกรดขึ้นด้วยมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 ให้สามารถติดตามสิ่งของได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายยิ่งกว่าเดิม เช่น ในการเดินทางกลางแจ้ง เจ้าของสัตว์เลี้ยงก็หมดกังวลได้ในเรื่องความทนทานของอุปกรณ์จากกิจกรรมในชีวิตประจำวันของสัตว์เลี้ยง มากไปกว่านั้น Galaxy SmartTag2 ยังรองรับโหมดใหม่ในการพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น เพื่อให้ผู้ใช้เก็บบันทึกข้อมูลการเดินเล่นกับเจ้าเพื่อนขนปุกปุยได้อย่างง่ายดาย

Galaxy SmartTag2 ยังคงเก็บฟีเจอร์ยอดนิยมหลายๆ อย่างของ Galaxy SmartTag1 และ Galaxy SmartTag+ เอาไว้ ทั้งการใช้ความสามารถของบลูทูธพลังงานต่ำ (Bluetooth Low Energy – BLE) และ UWB เพื่อใช้งานเทคโนโลยีการค้นหาแบบเสมือนจริง (Augmented Reality Find หรือ AR Find) ในการนำทางผู้ใช้งานไปยังสิ่งของด้วยกล้องในสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy

โดย Galaxy SmartTag2 สามารถทำงานได้ในระยะใกล้ ผ่านบลูทูธสูงสุดถึง 120 เมตร และ ค้นหาตำแหน่งของ Galaxy SmartTag2 ในระยะไกล ผ่าน SmartThings Find Network นอกจากนี้ Galaxy SmartTag2 ยังสามารถใช้ ควบคุมเครื่องใช้อัจฉริยะในบ้านได้ผ่านแอป SmartThings

ซัมซุงยึดมั่นในเรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ Samsung Galaxy อยู่เสมอ โดยที่ผู้อื่นจะทราบตำแหน่งของอุปกรณ์นี้ได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุญาตจากผู้ใช้เท่านั้น นอกจากนี้ SmartThings Find ยังเข้ารหัสข้อมูลผู้ใช้และรองรับ Samsung Knox เพื่อให้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกชั้น ยิ่งไปกว่านั้นการปิดโหมดของหายจะเป็นการซ่อนข้อมูลการติดต่อของเจ้าของในทันที พร้อมกับลบข้อความที่เจ้าของอาจมีทิ้งค้างเอาไว้ออกจากตัวอุปกรณ์นั้นด้วย

สำหรับผู้ใช้ Samsung Galaxy บริการ SmartThings Find ยังสามารถมอบความปลอดภัยให้ได้ผ่านฟีเจอร์ “Unknown Tag Alert” ซึ่งฟีเจอร์นี้จะแจ้งเตือนหากมีการติดตามโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนหาก SmartThings Find ตรวจพบว่ามี SmartTag ที่ไม่รู้จักกำลังติดตามพวกเขาอยู่ ซึ่งช่วยปกป้องผู้ใช้และป้องกันไม่ให้เกิดการใช้การติดตามตำแหน่งอย่างไม่เหมาะสม

Galaxy SmartTag2 ทำงานร่วมกับ SmartThings Station ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ SmartThings Find โดยเป็นเครื่องสแกนหาอุปกรณ์ประจำบ้านได้ตลอดเวลา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามสิ่งของมีค่าที่ติด SmartTag ไว้ SmartThings Station จะแจ้งตำแหน่งของสิ่งของที่ติดแท็กไว้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของส่วนตัว เช่น รีโมททีวี กระเป๋าสตางค์ กุญแจ ตลอดจนอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต นาฬิกา และหูฟัง ผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงก็จะได้รับการแจ้งเตือนด้วยเช่นกันเมื่อปลอกคอที่ติดแท็กเอาไว้เคลื่อนที่ห่างออกจาก SmartThings Station มากเกินไป ซึ่งมีส่วนช่วยพวกเขาในการคุมเจ้าเพื่อนขนปุกปุยให้อยู่ในระยะใกล้ๆ บ้าน

Galaxy SmartTag2 มีด้วยกันสองสี คือ สี Black และ สี White เริ่มจำหน่ายในวันที่ 4 ตุลาคมเป็นต้นไป ในราคา 990 บาท และมี Promotion ซื้อ 2 ชิ้นในราคา 1,490 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2566