ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประกาศผล DigiFam Awards ปี 4 ภายใต้หัวข้อ “เปิดใจก่อนเปิดจอ Smart Swipe”

33

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดพิธีประกาศผลและมอบรางวัลการประกวดผลิตสื่อคลิปวิดีโอและสื่ออินโฟกราฟิก DigiFam Awards ปี 4 ภายใต้หัวข้อ “เปิดใจก่อนเปิดจอ Smart Swipe” ชิงถ้วยพระราชทานศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอฯ  พร้อมทุนการศึกษารวม 700,000 บาท เพื่อ “รณรงค์เรื่องการใช้สื่อดิจิทัลด้วยทัศนคติที่ดี”

กิจกรรมในครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้เยาวชนระดับปฐมวัยและประถมศึกษา ส่งผลงานสื่ออินโฟกราฟิกเข้าร่วมประกวดเป็นปีแรก หลังการนำร่องให้เยาวชนรุ่นนี้ร่วมส่งผลงานคลิปวิดีโอในครั้งที่ผ่านมา โดยมีผลงานเข้าร่วมการประกวดสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มโครงการ มากกว่า 1,800 ชิ้น

เฉลิมพล ทันจิตต์ รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า “จุดประสงค์ของโครงการ เพื่อรณรงค์เรื่องการใช้สื่อดิจิทัลด้วยทัศนคติที่ดี มีมารยาทในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รู้จักให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตลอดจนมีวิจารณญาณในการเลือกรับและส่งข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงต่อส่วนรวม โดยจากการพิจารณาผลงานที่ส่งเข้ามา แสดงให้เห็นว่ากลุ่มเป้าหมายของโครงการ ค้นพบทางออกที่จะใช้สื่อในทางที่ดี”

การประกวดครั้งนี้ มีจำนวนผลงานสื่ออินโฟกราฟิกทั้งหมด 1,607 ผลงาน และสื่อคลิปวิดีโอทั้งหมด 201 เรื่อง โดยผู้ชนะทุกประเภทและทุกระดับจะได้รับถ้วยพระราชทาน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยฯ พร้อมประกาศนียบัตรและทุนการศึกษาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

นอกเหนือจากการประกวด DigiFam Awards ปี 4 แล้ว ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ยังได้จัดกิจกรรมด้านวิชาการ เผยแพร่แนวคิดการใช้สื่อที่ดี และแนะนำเทคนิคการผลิตสื่ออินโฟกราฟิกและคลิปวิดีโอ ทั้งรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ เพิ่มโอกาสเข้าถึงทางวิชาการให้กับโรงเรียนที่ห่างไกล โดยจัดกิจกรรม “ดิจิแฟมสัญจร” ให้โรงเรียนและสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ รวมทั้งหมด 11 แห่ง

เฉลิมพล ทันจิตต์ กล่าวปิดท้ายว่า “ผมขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของกิจกรรม DigiFam Awards ปี 4 ครั้งนี้ ทั้งผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวด ท่านครูอาจารย์สถาบันการศึกษา และคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองที่เล็งเห็นความสำคัญและร่วมสนับสนุนกิจกรรม รวมถึงท่านกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และท่านสื่อมวลชนที่ช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมนี้อย่างกว้างขวาง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมนี้จะมีส่วนช่วยส่งเสริมทักษะความรู้ในการใช้สื่อดิจิทัลให้ทุกท่านสามารถเป็นแบบอย่าง สร้างสรรค์ประโยชน์สุข และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยของเราอย่างยั่งยืนต่อไป”