“บลูทรี ภูเก็ต” ‘Entertainment Hub’ ปี’67 มุ่งเป็น ‘แหล่งแฮงก์เอ้าท์ใหม่’

60

บลูทรี ภูเก็ต ศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจร ชูกลยุทธ์ผนึกกำลังพาร์ทเนอร์ต่อยอดความแข็งแกร่งธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์และความบันเทิงแบบครบครันในปี 2567 มุ่งเป็น ‘แหล่งแฮงก์เอ้าท์ใหม่’ แห่งภูเก็ต แบบจัดเต็มทั้ง กิน-ดื่ม-ช้อป หรือสายสปอร์ต แฮงก์เอ้าท์ เรียกว่าครบจบที่เดียวทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อยกระดับและรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั้งฐานลูกค้าเดิม ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ในทุกเจเนอเรชั่น ทุกเพศ ทุกวัย ได้อย่างลงตัว

โบ โยฮัน วาเลียน ผู้จัดการทั่วไปบลูทรีภูเก็ต เผยว่า ตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา บลูทรี ภูเก็ต เราเป็น Destination of Phuket ที่พร้อมมอบความสุขและความสนุกแบบไม่จำกัด ทั้งกลางวันและกลางคืนมาโดยตลอด ด้วยกิจกรรมความบันเทิงที่หลากหลายและเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ดั่งสโลแกน ‘Entertainment Hub, Thrill & Chill, Day & Night’ ซึ่งได้รับการตอบรับจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสถิติในช่วง ม.ค.-พ.ย. 2566 (ระยะเวลา 11 เดือน) มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการที่บลูทรีจำนวน 99,179 คน เป็นชาวไทยที่เข้ามาใช้บริการมากสุด รองลงมาเป็นชาวรัสเซีย อันดับ 3 ได้แก่นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส อันดับ 4 นักท่องเที่ยวจากประเทศออสเตรเลีย และอันดับ 5 ได้แก่ สหราชอาณาจักร

“ทั้งนี้ โซนที่ได้รับการตอบรับมากที่สุดคือ โซน Blue Tree Lagoon ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ด้วยคริสตัลลากูนขนาดใหญ่กว่า 17,000 ตร.ม. ที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นและกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กระโดดหน้าผา ซิปไลน์ แพดเดิลบอร์ด เวคบอร์ด สกู๊ตเตอร์ใต้น้ำ สไลเดอร์ต่างๆ รวมถึงซุปเปอร์ ฟลาย (Superfly) ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย รองลงมาคือ โซน Forest พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่สามารถเข้ามาใช้บริการสำหรับกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ฟรี

โซนบลูทรี อารีน่า ที่นอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดงานปาร์ตี้ งานคอนเสิร์ต และกิจกรรมต่างๆ แล้ว ยังเป็นสถานที่สำหรับออกกำลังกาย อาทิ เต้นซุมบ้า ฯลฯ และสุดท้ายคือ ส่วนของ Lifestyle Village ที่ประกอบด้วย ร้านค้าที่มาพร้อมไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ตอบโจทย์ทั้งสายกิน สายช้อป สายสุขภาพ และอีกหนึ่งบริการ Kids Planet ซึ่งเป็น Nursery ที่รองรับการดูแลเด็กเล็กได้ตลอดทั้งวัน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้นักท่องเที่ยวได้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ทั้งวันอย่างไร้กังวล

“ซึ่งในปี 2567 นี้ เรายังคงเดินหน้าตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านความบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Hub) เพื่อมุ่งสู่การเป็น ‘แหล่งแฮงก์เอ้าท์ใหม่’ ของภูเก็ต โดยวางหมัดเด็ดดึงพาร์ทเนอร์ (กลุ่มธุรกิจ B2B) ทั้งด้านไลฟ์สไตล์สาย กิน-ดื่ม-ช้อป และสายสปอร์ต แฮงก์เอ้าท์ เข้ามาร่วมสร้างคอมมูนิตี้ที่สอดรับกับความต้องการของฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย พร้อมชูจุดเด่นด้าน New Activities ที่จะเกิดขึ้นมากมายในปีหน้า (2567)”

ล่าสุด เราได้มีการเซ็นสัญญากับพาร์ทเนอร์แล้วบางส่วน ไม่ว่าจะเป็น LAROME GROUP ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยสุดพรีเมี่ยม ที่รังสรรค์โดยเชฟชื่อดัง Julien BURBAUD ภายใต้ชื่อ L’ArÔme @Blue Tree โดยเปิดให้บริการ ที่ Tree House ซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น พร้อมเสิร์ฟประสบการณ์ความอร่อยชั้นเลิศ และมอบความบันเทิงตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับรองรับกลุ่มลูกค้าทั้งที่มาเป็นครอบครัว และกลุ่มที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวสำหรับปาร์ตี้ นอกจากนี้ยังเนรมิต Sunset Café ซึ่งเป็นคาเฟ่สุดพรีเมี่ยม พร้อมเสิร์ฟกาแฟสตาร์บัคส์ ข้างบริเวณบลูทรี ลากูน ให้ได้จิบเครื่องดื่มแก้วโปรด ไปพร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศแสนวิเศษ และเพลิดเพลินไปกับการชมวิวและการแสดงทางน้ำสุดอลังการ

ทั้งนี้ยังมีในส่วนของการ Renovate บีช บังกะโล ให้เป็น บีชคลับ พื้นที่ระเบิดความมันส์ จากเหล่าดีเจสุดฮิปทั้งไทยและเทศที่สลับผลัดเปลี่ยนมาสร้างความสนุกซึ่งจะเปิดให้บริการประมาณ ม.ค. 2024 และ เกาะรอก อีกหนึ่งพื้นที่สุด Private ที่เหมือนเสกเกาะส่วนตัวมาไว้ให้สายปาร์ตี้ได้เต็มที่กับชีวิต และกิจกรรมอื่นๆ สำหรับรองรับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การจัด Team Building, การฝึกอบรม First Aid / CPR โดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมออกใบ Certificate รองรับ ฯลฯ

“ในอนาคตอันใกล้ เรายังมีแผนที่จะพัฒนาบลูทรี ภูเก็ต ให้เป็นคอมมูนิตี้ที่ครบครันยิ่งขึ้นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นใน พาร์ทของกีฬา อาทิ การเปิด Private Sport ไตรกีฬา, การเปิดหลักสูตรสำหรับเข้าร่วม สปาตัน, การเปิดหลักสูตรสอนดำน้ำ หรือในด้าน F&B อาทิ ร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง BARTELS ร้านเบเกอรี่ชื่อดังของภูเก็ต ที่ยกมาไว้ให้ลิ้มลองความอร่อยที่บลูทรี ซึ่งเรามั่นใจว่าในทุกๆ Part ทุกๆ Activities จะสามารถรองรับความต้องการทั้งกลุ่ม B2B และ B2C ได้อย่างตอบโจทย์” โยฮัน กล่าวปิดท้าย