ผ่านพ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งต้องระมัดระวังการขับขี่ยานพาหนะกันเป็นพิเศษแล้วแต่อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาปกติทั่วไป การขับขี่ที่ปลอดภัยยังคงเป็นเรื่องที่ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องตระหนัก โดยเฉพาะในช่วงที่มีพายุฤดูร้อนเข้ามาเยือนในระยะนี้
ฟ้าฝนหรือลมกรรโชกแรง ทำให้เกิดทัศนวิสัยไม่ดี ถนนที่เปียกลื่นและอาจะมีน้ำขัง สิ่งเหล่านี้อาจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังที่ข่าวคราวได้ปรากฏ หรือท่านอาจจะประสบด้วยตัวเองมาแล้ว
จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในช่วง 16-18 เมษายนนี้ หลายพื้นที่ในประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น ซึ่งจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง มีฟ้าผ่า และมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่
จึงมีข้อแนะนำผู้ขับขี่ควรปฏิบัติ 7 วิธีขับขี่ให้ปลอดภัยในช่วงฝนตกลมแรง ดังนี้
- เปิดไฟหน้ารถเสมอ โดยเปิดไฟต่ำ เพื่อช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้น และให้รถคันอื่นมองเห็นรถได้จากระยะไกล
- เปิดใบปัดน้ำฝน โดยปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณฝนตก
- ลดความเร็ว เพื่อเพิ่มความระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ
- ให้ทิ้งระยะห่างจากคันหน้า เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถเพิ่มขึ้น
- หลีกเลี่ยงการแซง แต่หากจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์ ระยะทางข้างหน้า
- รถลื่นไถลหรือเหินน้ำ ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที เพราะอาจทำให้รถพลิกคว่ำได้ ควรลดความเร็ว ใช้เกียร์ต่ำ จนกว่ารถจะทรงตัวได้ แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ
- เมื่อต้องขับรถผ่านน้ำท่วมขัง ให้หยุดประเมินสถานการณ์ หากระดับน้ำลึกสูงกว่าขอบประตูรถ ไม่ควรขับฝ่าไป ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ทั้งนี้ หากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขอให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพทันที โทร.1669
ทั้งนี้ทางกรมควบคุมโรคแนะนำว่า ช่วงที่มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ มีความเสี่ยงที่จะเกิดฟ้าผ่าได้ สำหรับการป้องกันอันตรายจากการถูกฟ้าผ่า โดยขอให้หลีกเลี่ยงอยู่กลางแจ้ง ควรหลบในตัวอาคารที่ติดตั้งสายล่อฟ้า ไม่ควรใช้โทรศัพท์ เปิดคอมพิวเตอร์ เล่นอินเตอร์เน็ต ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ เป็นต้น และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพราะกระแสไฟจากฟ้าผ่าอาจไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า สำหรับการช่วยเหลือผู้ถูกฟ้าผ่าต้องช่วยอย่างรวดเร็ว โดยประเมินความปลอดภัยของที่เกิดเหตุ และโทรขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669 โดยแจ้งข้อมูลผู้ถูกฟ้าผ่าและสถานที่เกิดเหตุ อาจเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากสถานที่โดนฟ้าผ่าไปยังที่ปลอดภัย
ฝนฟ้าที่ตกลงมาอาจจะทำให้เราคลายร้อนไปได้ระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามยังต้องระมัดระวังเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจะเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้ จึงต้องระมัดกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่เดินทางกลับจากภูมิลำเนาหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งอาจจะต้องเจอฝน น้ำท่วมขัง หรือลมพายุได้ในระหว่างการเดินทาง