เที่ยวใกล้กรุง นครปฐม-ราชบุรี กับมุมมองที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้จัก หรือรู้แล้วก็อยากไปซ้ำ เริ่มต้นจากการเดินสายเสริมสิริมงคล ก่อนจะไปเที่ยวกิน ฟินกับวิถีอันเป็นเอกลักษณ์
ก่อนจะเข้าสู่จังหวัดราชบุรี หากไม่เร่งด่วนรีบร้อน แนะนำให้แวะเที่ยวเล่นในจังหวัดนครปฐมกันก่อน หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ “พระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร” หรือวัดดังอื่น ๆ ที่ติดลิสต์อันดับต้น ๆ ที่มีคนเข้ามากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก แต่นครปฐมยังมีวัดสวย ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง
มูครบ จบจุใจ วัดใหม่สุปดิษฐาราม
เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ในหมู่ที่ 3 บ้านกลาง ต.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2439 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เดิมชื่อ “วัดใหม่ริมจวน” หลังจากนั้น “พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธร” ได้ทรงสร้างอุโบสถ วิหาร สถูป และมณฑปพระอีกคู่หนึ่ง จึงได้ชื่อว่า “วัดใหม่สุปดิษฐาราม”
ความโดดเด่นของวัดคือพระนอนปางเสวยสุขขนาด ความยาว 25 เมตร ใกล้กันคือวิหารสีทอง ซึ่งมีผู้คนมากมายเดินทางมากราบไหว้ขอพรพระสีวลีองค์ใหญ่ความสูง 7 เมตร ในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มูกันอีกหลายมุม อาทิ หลวงพ่อสมปรารถนา ท้าวเวสสุวรรณ พระราหู ช้างเอราวัณ ถ้ำพญานาค รูปปั้นเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายวัด ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของสายมูที่ครบครันอีกแห่งหนึ่ง
แวะเลย! ชิลมากกก วัดดอนขนาก
วัดดอนขนาก ต.ดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม เดิมเป็นที่ดอนมี ต้นป่าขนากขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกขานกันด้วยความคุ้นชิน ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง และครบครัน เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ทำบุญ สายชิล สายมู จึงนิยมมากราบไหว้ และใช้เวลาในการพักผ่อนไปในตัว
บริเวณบึงน้ำขนาดใหญ่ มองเห็นองค์พระนอนขนาดใหญ่สีขาว ที่มีความวิจิตรงดงาม ใกล้กันเป็นที่ประดิษฐานพญานาค 9 ตระกูล ซึ่งถือเป็นประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม ภายในวัดมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร มุมนั่งเล่น เข้ามาแล้วรู้สึกชื่นตาชื่นใจ ด้วยบรรยากาศที่ร่มเย็น สะอาดสะอ้าน เหมาะแก่การแวะมาพักผ่อนหย่อนใจ และกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคราเดียวกัน
ขึ้นเขาแร้ง ชมวิวสุดจัด วัดหนองหอย
เมื่อเข้าเมืองราชบุรี แนะนำให้แวะไปที่เขาแร้ง ขับรถขึ้นไปบนยอดเขาแร้งเพียงเล็กน้อย ก็จะพบกับจุดชมวิวมุมสูงแสนสงบที่ผู้คนนิยมมาเติมพลังใจ กราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ณ พระวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิม ในท่ายืนถึง 2 องค์ มีความงดงาม เปี่ยมด้วยความเมตตา ชาวบ้านนิยมเรียกที่นี่ว่า “เขาเจ้าแม่กวนอิม” จะว่าไปก็มีลักษณะคล้ายกับศาลเจ้าขนาดใหญ่ ที่มีทั้งโรงทานและการจัดงานใหญ่ในช่วงวันตรุษจีน
หากมองไปด้านภูเขาจะอีกยอดเขาประดิษฐานพระพุทธรัตนโกสินทร์มหามุณี (หลวงพ่อใหญ่) หรือ เขาพระใหญ่ ซึ่งสามารถขับรถขึ้นไปได้ แต่ต้องบอกว่าทั้งสองแห่งเป็นพื้นที่ป่า เจ้าบ้านจอมซนจะตั้งท่ารอคอยอยู่ทุกที่ บางตัวก็แอบทำขรึม แต่เผลอเป็นไม่ได้ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังสัมภาระของท่านให้ดี งดเว้นการนำขนมหรืออาหารติดตัวเด็ดขาด ไม่งั้นเจ้าลิงจะเข้ามาทักทายแบบไม่ทันระวังตัวได้
ร้านนี้อร่อยดีนะ มะม่วงคู่-นางยัค
หิวแล้วกินอะไรดี ที่ราชบุรีมีร้านอาหารอร่อยอยู่เยอะพอสมควร ทริปนี้ในมือกลางวันเราฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารมะม่วงคู่ ในตัวเมืองราชบุรี เป็นร้านขนาดใหญ่ รองรับการจัดเลี้ยงและกรุ๊ปทัวร์ได้สบาย ๆ แต่ก็มีมุมส่วนตัวของครอบครัวเล็ก ๆ หรือคู่รักได้แวะเติมพลังกันอย่างสบาย ๆ
ร้านอาหารมะม่วงคู่ เป็นร้านอาหารเก่าแก่แถวหินเขางู มีเมนูท้องถิ่นผสมผสานกับเมนูสมัยใหม่ให้เลือกสรรมากมาย วันนี้ได้ลอง ยำหัวปลี แกงส้มกุ้งชะอมไข่ หมึกผัดไข่เค็ม ทอดมันปลากราย รวม ๆ แล้วรสชาติดีใช้ได้เลย
ส่วนมื้อเย็นที่สวนผึ้ง ขอแนะนำร้าน “ข้าวต้มนางยัค” (NangYak) ร้านอาหารเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ แต่มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนเป็นจำนวนมาก ด้วยรสชาติที่ถูกปาก ราคาก็ไม่แพงมาก ใช้วัตถุดิบดี เมนูแนะนำของทางร้านคือ ยำนางยัค เป็นหมูย่างยำกับก้านคะน้า กระเทียมโทน รสชาติดีทีเดียว แต่ที่ชอบมากจนต้องสั่งซ้ำคือ กุยช่ายขาวผัดเต้าหู้หมูสับ ละมุนมาก ๆ
มุมนี้ดีต่อใจ สวนผึ้งไฮแลนด์
มาถึงสวนผึ้ง หากจะหากิจกรรมเพลิน ๆ สามารถแวะไปที่ “สวนผึ้งไฮแลนด์” เป็นแลนด์มาร์คกลางหุบเขาที่มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก หากมาช่วงเช้าและเย็นจะฟินสุด ๆ ทริปนี้เราแวะมาช่วงบ่าย แดดยังจัดพอสมควร แต่ก็ได้บรรยากาศของการพักผ่อนที่ดี
มาเดินเล่นชมสวนที่โอบล้อมด้วยป่าเขา มีสวนสัตว์ขนาดย่อมไว้ให้เพลินใจ พร้อมทั้งสวนญี่ปุ่น และกิจกรรมแอดเวนเจอร์เบา ๆ เช่นการเล่นซิปไลน์ชมวิวธรรมชาติ หรือจะแวะจิบกาแฟชิล ๆ รับอากาศบริสุทธิ์ก็เพลินไปอีกแบบ
มะระกันบ่อย ๆ ที่ตลาดโอ๊ะป่อย
ค่ำคืนที่สวนผึ้งในช่วงปลายเดือนมกราคม อากาศยังเย็นสบาย นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศดี ๆ ตามแบบฉบับสวนผึ้งที่ทุกคนชอบใจแล้ว เช้าวันใหม่ยังมีเป้าหมายสำคัญ อันเป็นไฮไลต์ของทริปนี้
“ตลาดโอ๊ะป่อย” เป็นตลาดริมธารภาชี เปิดตัวเมื่อปี 2561 เป็นการรวมตัวของชาวบ้านซึ่งมีเชื้อสายกระเหรี่ยงในพื้นที่สวนผึ้ง คำว่า “โอ๊ะป่อย” มาจากภาษากะเหรี่ยง แปลว่า พักผ่อน ดังนั้นเมื่อมาตลาดโอ๊ะป่อยก็จะได้บรรยากาศของการพักผ่อนที่ขอยกให้เป็นที่สุดของทริปนี้เลย
เริ่มจากเช้ามืดของวัน ชาวบ้านจะมาจัดเตรียมร้าน ท่ามกลางสายลมเย็นบาง ๆ พอถึงเวลา 7 โมงเช้า ผู้คนก็จะเริ่มคึกคัก เนื่องจากเวลา 7.45 น. จะมีพระสงฆ์ล่องแพไม้มาตลาดลำน้ำ นำโดยผู้ใหญ่บ้านที่ทำหน้าที่พายและเป่าเครื่องเป่าเขาสัตว์ ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจะรอทำบุญใส่บาตรกันตรงท่าน้ำบริเวณตลาด อาหารส่วนใหญ่ก็ซื้อหาในตลาด บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบง่าย อบอุ่นใจ
เมื่อรับพรจากพระแล้ว นักท่องเที่ยวก็ตระเวนซื้อหาของกิน ของใช้ ของที่ระลึก จากชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่ บ้างก็เลือกมุมริมลำธารนั่งจิบกาแฟในบรรยากาศแสนสดชื่น มองไปทางไหนก็มีแต่คนอารมณ์ดี แม้จะมีผู้คนหนาตาขึ้นในช่วงสาย แต่ก็ยังไม่ถึงกับพลุกพล่านหรืออึดอัดจนเกินไป
ที่น่ารักสุด ๆ คือการจัดการตลาด ที่คำนึงถึงชุมชนและสิ่งแวดล้อม นอกจากการอนุรักษ์วิถีทางวัฒนธรรมอันงดงามแล้ว ยังมีแนวคิด Green Market ลดใช้พลาสติกและโฟมโดยเด็ดขาด เราจะเห็นบรรจุภัณฑ์จากธรรชาติน่ารัก ๆ ทั่วทั้งตลาด มีจุดแยกขยะ พร้อมด้วยจิตอาสาตัวน้อย ซึ่งเป็นลูกหลานชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่คอยถือถังเดินไปเก็บขยะ แล้วนำไปคัดแยกที่ท้ายตลาด
ตลาดโอ๊ะป่อย เปิดตั้งแต่ 7.00-14.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สามารถจอดรถได้ที่วัดป่าท่ามะขามซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ในวัดมีบริการห้องน้ำสะอาดสะอ้าน หากที่จอดรถเต็มจะมีลานจอดรถเตรียมไว้ พร้อมรถรับส่ง เรียกได้ว่ามีการจัดการอย่างมีระบบ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกทุกจุด ประทับใจแบบอยากกลับไปบ่อย ๆ ทุกสัปดาห์เลยยิ่งดี
ขอขอบคุณ: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง
TAT Call Center: 1672.
#สุขทันทีที่เที่ยวไทย
#สุขทันทีที่เที่ยวภาคกลาง