“รอยสัก” บนร่างกายถือเป็นศิลปะที่หลายคนสักด้วยความตั้งใจ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ต้องการลบรอยสัก ออกด้วยความจำเป็น เช่นเดียวกับ “น้องภู” หนุ่มที่มีรอยสักขนาดใหญ่บนใบหน้า ซึ่งรอยสักนี้ส่งผลกระทบ ต่อการหางานทำ การศึกษาต่อ และการใช้ชีวิตประจำวัน
นพ.นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ ประธานบริษัท และแพทย์ผู้ชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ Dr.TATTOF เปิดเผยว่า การลบรอยสักที่ Dr.TATTOF ส่วนมากมาด้วยเรื่องความจำเป็นในการใช้ชีวิต การทำงาน หรือการเรียน เช่นเดียวกับน้องภู ซึ่งทาง Dr.TATTOF ได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือน้องภู ด้วยการลบ รอยสักให้ เพื่อเปิดโอกาสให้น้องภูได้สร้างอนาคตใหม่ได้อย่างมั่นใจ
“รอยสักของน้องภูอยู่บริเวณใบหน้าซึ่งเป็นบริเวณที่บอบบาง แต่ Dr.TATTOF สามารถลบได้ โดยใช้นวัตกรรมเลเซอร์โปรแกรม PicoWay ซึ่งพลังงานเลเซอร์จำเพาะทำลายเฉพาะเม็ดสี ไม่ทำลายเนื้อเยื่อ รอบข้าง ส่งผลให้หลังลบรอยสัก ผิวจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ และไม่ทำให้เกิดแผลเป็น” นพ.นัทธพงศ์ กล่าว
ด้าน พงศยา ตราชูนิตย์ ผู้บริหาร Dr.TATTOF กล่าวเสริมว่า การลบรอยสักไม่ได้แปลว่า รอยสักนั้นไม่มีคุณค่า แต่เป็นเรื่องของความจำเป็น อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจ และเปิดโอกาส สร้างอนาคตใหม่อีกด้วย
“ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ Dr.TATTOF กว่า 9 ปี เรามีความรู้และเทคนิคที่เหมาะสม กับการลบรอยสักทุกประเภท ทีมบุคลากรทางการแพทย์ผ่านการฝึกอบรม มีประสบการณ์และมีมาตรฐาน ในการลบรอยสัก ทำให้เราสามารถให้บริการที่มีคุณภาพและปลอดภัยแก่ผู้รับบริการทุกคน”พงศยา กล่าวปิดท้าย