หน้าแรกRelease hubคปภ.เปิดตัวโครงการ “Training for the Trainers” ประจำปี 2561

คปภ.เปิดตัวโครงการ “Training for the Trainers” ประจำปี 2561

Published on

คปภ. เร่งบูรณาการเชิงรุกผลักดันชาวนาไทยบริหารความเสี่ยงด้วยประกันภัยข้าวนาปี เปิดตัวโครงการ “Training for the Trainers” ประจำปี 2561 ประเดิมครั้งแรกของปี ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมยกพลบูรณาการลงพื้นที่รับฟังข้อเสนอแนะจากเกษตรกร

สำนักงาน คปภ. เดินหน้าขับเคลื่อนกลไกการประกันภัยพืชผล สร้างเครือข่ายกระจายความรู้ ด้านการประกันภัย เพื่อผลักดันให้เกษตรกรไทยบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยการประกันภัยข้าวนาปี ผ่านโครงการอบรมความรู้ประกันภัย “Training for the Trainers” ปี 2561 ยกพลลงพื้นที่แห่งแรกจังหวัดเชียงใหม่ก่อนกระจายตัวลงพื้นที่อีก 9 จังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกรไทยในประเทศ ต่อยอดความสำเร็จเมื่อปีที่แล้ว

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนประชาชนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรถึงร้อยละ 30 ของจำนวน ผู้ประกอบอาชีพทั้งหมด ในขณะเดียวกันอาชีพทำนามีความเสี่ยงสูงจากภัยทางธรรมชาติอย่างมาก เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ แมลงศัตรูพืช ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงมีรายได้ค่อนข้างต่ำ ดังนั้น “การประกันภัยข้าวนาปี” จึงเป็นหนึ่งในมาตรการที่มีความสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อคุ้มครองต้นทุนการผลิตเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ  ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพทางรายได้และความมั่นคงในอาชีพของเกษตรกร โดยภายหลังจากที่ ครม. มีมติเห็นชอบการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 สำนักงาน คปภ. ได้เร่งขับเคลื่อนโครงการ “อบรมความรู้ประกันภัย (Training for the Trainers)” ประจำปี 2561 ในทันที โดยกำหนดพื้นที่กลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั่วประเทศ และเพิ่มเติมจากปี 2560 เป็น 10 จังหวัดในทุกภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านประกันภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปถ่ายทอดให้แก่เกษตรกร

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ

ปี 2560 ที่ผ่านมาถือได้ว่าสำนักงาน คปภ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปการประกันภัยพืชผลประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง ส่งผลให้มีพื้นที่เอาประกันภัย จำนวนถึง 26.12 ล้านไร่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนเกษตรกรทำประกันภัยถึง 1.76 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึงร้อยละ 16.56 สำหรับในปี 2561 นี้ สำนักงาน คปภ. ได้มีแผนขับเคลื่อนการประกันภัยข้าวนาปีที่พิเศษกว่าปีที่ผ่านมา โดยจะมีการลงพื้นที่ไปยังศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิจัยเกี่ยวกับการเพาะปลูกข้าวในจังหวัด และพบปะกับชุมชนในพื้นที่เพื่อให้ได้รับทราบสภาพปัญหาและวิธีการที่เกษตรกรใช้ในการแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ การจัดโครงการอบรมความรู้ประกันภัยในปีนี้ได้ประเดิมการลงพื้นที่ครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 29 – 30 เมษายน 2561 โดยได้เลือกจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นจังหวัดเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศ มีพื้นที่ปลูกข้าวถึง 405,986 ไร่ ทั้งยังมีศูนย์เรียนรู้โดยเกษตรต้นแบบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้าวโดยตรง และครบวงจรตั้งแต่การผลิตจนถึงการจำหน่าย  โดยได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย บริษัทรับประกันภัยต่อ (Reinsurers) ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อำเภอหางดง และได้ลงพื้นที่พบปะกับเกษตรกรและผู้นำชุมชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วม จากอำเภอสันป่าตอง และอำเภอแม่วาง กว่า 300 ราย รวมทั้งได้รับการรายงานจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พายุฤดูร้อน เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา (15 – 17 เมษายน 2561) มี 3 อำเภอที่ได้รับความเสียหาย คือ อำเภอแม่แตง อำเภอฝาง และอำเภอหางดง กว่า 500 ไร่ นอกจากนี้ยังพบว่าจังหวัดเชียงใหม่ต้องประสบกับภัยธรรมชาติทั้งศัตรูพืช และภัยแล้งอยู่เป็นประจำ ทั้งยังต้องประสบกับลมพายุ ลูกเห็บ และน้ำท่วม บ่อยครั้งและทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจากการลงพื้นที่ครั้งนี้มาปรับปรุงพัฒนาเพื่อให้การประกันภัยมีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกรไทยต่อไป

ดังนั้น เพื่อให้เกษตรกรมีความเข้าใจและเห็นถึงความจำเป็นในการที่จะนำระบบประกันภัยมาเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง จึงได้อบรมความรู้การประกันภัยข้าวนาปี “Training for the Trainers” ประจำปี 2561 ขึ้นโดย นายปวิณ ชำนิศาสตร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้การต้อนรับ กล่าวชื่นชมและขอบคุณสำนักงาน คปภ. ที่เลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นสถานที่จัดการอบรมเป็นจังหวัดแรกและเปิดตัวโครงการในปีนี้ สำหรับทิศทางการพัฒนาของจังหวัดคือ การเป็นเมืองเกษตรปลอดภัยและมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมูลค่าสูงสามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก ซึ่งการลงพื้นที่และการอบรมความรู้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเกษตรกรชาวนาในจังหวัดเชียงใหม่ สามารถเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้กับเกษตรกรในจังหวัด อันจะช่วยนำพาอุตสาหกรรมอาหารของจังหวัดเชียงใหม่ไปสู่การเป็นครัวโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป

เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 สำนักงาน คปภ. โดยนายทะเบียนได้ให้ความเห็นชอบแบบและข้อความ และอัตราเบี้ยประกันภัย ของกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 แล้วตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2561 ซึ่งมีบริษัทประกันภัยเข้าร่วมโครงการจำนวน 22 บริษัท และสามารถรับประกันภัยได้แล้ว ทั้งนี้ รูปแบบการรับประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายการรับประกันภัยสูงสุดไว้ไม่เกิน 30 ล้านไร่ มีเงื่อนไขการรับประกันภัยคือ เกษตรกร ผู้เพาะปลูกข้าวนาปีที่ขึ้นทะเบียน (ทบก.) กับกรมส่งเสริมการเกษตร ในปีการผลิต 2561/62 โดยแบ่งกลุ่มผู้เอาประกันภัยเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรก คือกลุ่มเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 ของ ธ.ก.ส. ทุกราย มีพื้นที่เป้าหมาย จำนวนไม่เกิน 29 ล้านไร่ กลุ่มที่สอง คือกลุ่มเกษตรกรทั่วไปที่เพาะปลูกข้าวนาปี ที่ไม่ใช่ลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. มีพื้นที่เป้าหมาย จำนวนไม่เกิน 1 ล้านไร่สำหรับอัตราเบี้ยประกันภัยยังคงเดิม คือ 90 บาทต่อไร่ ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะได้รับวงเงินความคุ้มครองสูงสุด 1,260 บาทต่อไร่ สำหรับภัยธรรมชาติทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บและไฟไหม้ และวงเงินคุ้มครองสูงสุด 630 บาทต่อไร่ สำหรับภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด ทั้งนี้ในส่วนค่าเบี้ยประกันภัย 90 บาทต่อไร่นั้น รัฐบาลจะอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้กับเกษตรกรผู้ทำประกันภัย 54 บาทต่อไร่ และธ.ก.ส.อุดหนุนส่วนที่เหลือ 36 บาทต่อไร่ โดยภาครัฐยังอุดหนุนค่าอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่มอีกด้วย ดังนั้น เกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อของธ.ก.ส.จะไม่เสียค่าเบี้ยประกันภัยเลย แต่ถ้าไม่ได้เป็นลูกค้าธ.ก.ส.จะจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเองเพียง 36 บาทต่อไร่ โดยมีระยะเวลาโครงการเริ่มตั้งแต่ฤดูกาลเพาะปลูก ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ยกเว้นภาคใต้ไม่เกินวันที่ 15 ธันวาคม 2561

“สำนักงาน คปภ. มุ่งมั่นการทำงานทั้งในเชิงบูรณาการทำงานเชิงรุกกับหน่วยงานเครือข่าย โดยเปิดตัวโครงการฯ ได้เร็วกว่าในปีที่แล้ว ก่อนเข้าหน้าฝนซึ่งมีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะเกิดภัยธรรมชาติขึ้น และสำนักงาน คปภ. คาดหวังว่าผู้เข้าอบรมจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน และขยายผลไปถึงเกษตรกรชาวนาไทย ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนในการปฏิรูปประกันภัยพืชผล รวมถึงสร้างความมั่นคงในชีวิต และยกระดับรายได้ของเกษตรกรในประเทศต่อไป ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวยังมีการขับเคลื่อนต่อเนื่องอีก 9 ครั้ง เพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดพะเยา จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดพัทลุง ตามลำดับ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

Latest articles

ทีทีบี ปิดโรงหนัง เอาใจแฟนคลับ “สติทช์”

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี สร้างปรากฏการณ์แห่งความสุขอย่างต่อเนื่องให้กับเหล่าผู้ถือบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ทีทีบี ดิสนีย์ กับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟต้อนรับการมาของเพื่อนรักจากต่างดาวตัวสีฟ้าสุดแสบ “สติทช์” (Stitch) เหมาโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ให้ผู้ถือบัตร ทีทีบี ดิสนีย์ ได้ชมภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันฟอร์มยักษ์แห่งปี Disney’s Lilo & Stitch ฟรี รอบพิเศษก่อนใคร

Maxim ร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกระดับความสะดวกชายหาด จ.ภูเก็ต

Maxim ประเทศไทย ร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกระดับพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกชายหาด จังหวัดภูเก็ต Maxim แอปพลิเคชันเรียกรถและบริการขนส่งยอดนิยม เดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหาดป่าตอง ผ่านกิจกรรมส่งมอบเก้าอี้ม้านั่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่อำนวยความสะดวก และสนับสนุนการใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะบริเวณชายหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

คาร์เทียร์ และ Expo 2025 โอซาก้า คันไซ ญี่ปุ่น เปิด Women’s Pavilion อย่างเป็นทางการ

คาร์เทียร์ และ Expo 2025 โอซาก้า คันไซ ญี่ปุ่น เปิด Women’s Pavilion อย่างเป็นทางการ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคณะรัฐมนตรี กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น คาร์เทียร์ และสมาคมผู้จัดงานมหกรรมโลกญี่ปุ่น ในฐานะเวทีระดับโลกที่อุทิศเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อย่างสร้างสรรค์ และเชิดชูบทบาทสำคัญของผู้หญิงในการร่วมสร้างสังคมที่เปิดกว้าง เข้มแข็ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น

กรมวิชาการเกษตร เดินหน้าอบรมผู้ควบคุมการใช้โดรนพ่นสาร ตั้งเป้า 5,000 รายทั่วประเทศภายในปี 2570

กรมวิชาการเกษตร โดยสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช เดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการควบคุมการใช้โดรนพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตร จัดอบรมหลักสูตร “ผู้ควบคุมการพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตรด้วยอากาศยาน” เตรียมความพร้อมบังคับใช้กฎหมายควบคุมผู้รับจ้างพ่นสารฯ อย่างเป็นทางการ ภายในปี 2570 ตั้งเป้าครอบคลุมผู้ปฏิบัติงานกว่า 5,000 รายทั่วประเทศ

More like this