เปิด 3 เหตุผล  ที่ควรรักษาโรคกระดูกสันหลังที่โรงพยาบาลเฉพาะทาง

6
MRI แบบยืน

โรคกระดูกสันหลัง เป็นโรคที่สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศและทุกวัย โดยมีปัจจัยมากจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาการของโรคสามารถรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี และเนื่องจากกระดูกสันหลัง เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับร่างกายคนเรา เพราะกระดูกสันหลังเปรียบเสมือนเป็นโครงสร้างหลักที่ช่วยค้ำยันร่างกาย เป็นศูนย์รวมของระบบประสาทที่สำคัญ เมื่อใดที่เกิดปัญหาสุขภาพกับอวัยวะสำคัญนี้ ย่อมมีผลกระทบอย่างมากกับการใช้ชีวิต

นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอส สไปน์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง และศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า 3 เหตุผลหลักที่อยากให้ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลัง รักษาโรคกระดูกสันหลังที่โรงพยาบาลเฉพาะทางเพราะ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่ได้รับการอบรมแนวทางการรักษาตามมาตรฐานของโรงพยาบาล ทำให้แพทย์ทุกคนสามารถดูแลผู้ป่วยแทนกันได้ ทีมผู้ช่วยที่มีความชำนาญเฉพาะทางจึงมีความเข้าใจถึงวิธีการรักษาโรค และประสานงานร่วมกับแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเวลาการรักษาผู้ป่วยลง อัตราการแทรกซ้อนของโรคต่ำ ฟื้นตัวไว ซึ่งเราทำเรื่องเดียวซ้ำๆ มาเป็นเวลากว่า 7 ปี

การรักษาที่ต้นเหตุ การรักษาคนไข้ที่ตรงต้นเหตุ เป็นหัวใจสำคัญในการค้นหาโรค หากขาดสิ่งนี้ไปก็ไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่าอาการที่เป็นนั้นต้นเหตุอยู่ที่ตรงไหน อย่างที่โรงพยาบาลเอสสไปน์ สำหรับใครที่มีปัญหากลัวที่แคบ ส่งผลให้การค้นหาสาเหตุของโรคที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลังเป็นไปได้ยาก เราตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ด้วยเครื่อง MRI แบบยืน เนื่องจากลักษณะตัวเครื่องจะเปิดโล่งด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งต่างจาก MRI แบบอุโมงค์ จึงช่วยให้ผู้ป่วยที่รู้สึกกลัวที่แคบสามารถเข้ารับการตรวจได้แบบไร้กังวล เนื่องจากเครื่อง MRI ให้รายละเอียดและความคมชัดสูงระดับ 3 มิติ (3D) ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยความผิดปกติในร่างกายได้อย่างแม่นยำ

ที่สำคัญการตรวจด้วยเครื่องมือชนิดนี้ ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใดๆ แก่ร่างกายและไม่มีอันตรายจากรังสี ขณะที่การ X-ray ช่วยให้เห็นภาพรวมของกระดูกในร่างกายได้ชัดเจน และช่วยตรวจสอบการเคลื่อนของกระดูกสันหลัง ข้อกระดูกสันหลัง และการเกิดกระดูกงอกที่อาจกดทับเส้นประสาท ซึ่งการทำ X-ray ควบคู่ไปกับ MRI จะช่วยให้แพทย์มีข้อมูลที่ครบถ้วนในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง จะมีความพร้อมกว่าโรงพยาบาลทั่วไปทั้งในเรื่องเครื่องมือ อุปกรณ์ อย่างที่เอสสไปน์เป็นผู้นำเทคนิค MIS Spine (Minimally Invasive Spine Surgery) ซึ่งโดยปกติแล้วในการผ่าตัดเปิดกระดูกสันหลังแบบดั้งเดิม จะเป็นการเปิดแผลขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถมองเห็นบริเวณที่จะทำการผ่าตัดได้ชัดเจน แต่ก็ทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อใกล้เคียงได้รับความเสียหาย ผู้ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลนาน

นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล

แต่สำหรับ MIS Spine (Minimally Invasive Spine Surgery) ที่นำให้บริการนั้น เป็นการผ่าตัดแบบแผลเล็กและใช้เครื่องมือและเทคนิคแบบใหม่ ทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อได้รับความเสียหายน้อยกว่า ผู้ป่วยเสียเลือดน้อย แผลเล็ก ความเจ็บปวดหลังการรักษาลดลง การนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลสั้นลง ฟื้นตัวเร็ว ในขณะที่ผลการรักษาเท่ากัน

นพ.ดิตถพงษ์ ยังเผยว่า มาตรฐาน S Quality ของโรงพยาบาลเอส สไปน์ เปรียบเสมือนทีมนักแข่ง Formula 1 ที่ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์โดยเฉพาะ หัวใจของความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยให้หายอย่างยั่งยืน เราต้องมุ่งหาการรักษาที่ต้นเหตุ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้การหายที่เร็วขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น และเพื่อการหายอย่างยั่งยืนสำหรับผู้ป่วย เช่น เราจะเจอคนไข้หลายคนที่มาจากหลายๆ ที่ซึ่งบอกว่า มีปัญหาปวดหลัง กินยาแก้ปวด พอหมดฤทธิ์แล้วก็จะเป็นอีก ซึ่งเราพบว่า เขาไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ แต่ไปรักษาโดยกินยาแก้ปวด ซึ่งเป็นยาระงับอาการ ไม่ได้รักษาที่สาเหตุของโรค