แอร์เมส รังสรรค์ชิ้นงานมากมายที่ล้วนกลั่นกรองจากฝีมือของช่างผู้ชำนาญ ที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยอย่างที่เป็นอยู่ ภายใต้แรงขับเคลื่อน องค์ความรู้ที่ผ่านการเคี่ยวกรำ ผสานอิสรภาพแห่งการสร้างสรรค์ นอกเหนือจากฟังก์ชั่นการใช้งาน เรือนเวลาแอร์เมสยังเปลี่ยนชีวิตทุกวันให้เป็นดังสนามเด็กเล่น และทุกจังหวะให้เป็นห้วงเวลาสุดพิเศษ และเปลี่ยนสัมผัสเบาสบายให้เป็นดั่งคุณธรรมพื้นฐาน
สำหรับแอร์เมสแล้ว เวลาก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เป็นเพื่อนคู่ใจของผู้สวมใส่ แอร์เมสยังกล้าที่จะมองหาเวลาแบบใหม่ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อเว้นจังหวะและเปิดพื้นที่สำหรับการผ่อนคลาย
เรือนเวลา Carré H, Arceau Casaque และ Arceau Pocket Millefiori ได้ถ่ายทอดแรงกดดันตามธรรมชาติเอาไว้ภายในตัวมันเอง ในฐานะชิ้นงานของแอร์เมส
CARRÉ H
ในปี 2010 แอร์เมสเปิดตัวเรือนเวลา รุ่นการ์เร่ อาช (Carré H) ประดิษฐกรรมเรือนเวลาทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ออกแบบโดยมาร์ค แบร์ติเย่ร์ (Marc Berthier) ในรูปลักษณ์ที่งดงามทันสมัย ดีไซน์คมชัดสะกดตา
ปีนี้แอร์เมสได้นำ การ์เร่ อาช มาปรับโฉมใหม่ ให้ตัวเรือนมีขนาดใหญ่ขึ้นสองถึงสามมิลลิเมตร ผสานลูกเล่นแสงด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีลขัดเงาและขัดแต่งด้วยเทคนิคไมโครบีดบลาส (Microbead blasting) หน้าปัดลายกิโยเช่ทำมุมฉาก และเข็มนาฬิกาและตัวเลขที่มีเหลี่ยมมุม ทฤษฎีแสงที่ลงตัวช่วยเน้นรายละเอียดของดีไซน์ให้ฉายชัด ขอบตัวเรือนสี่เหลี่ยมจัตุรัสดูนุ่มนวลขึ้นด้วยมุมและตัวเรือนดีไซน์โค้ง พร้อมกระจกหน้าปัดนูน
ปิดท้ายด้วยตัวเลขบอกชั่วโมงที่เติมความเก๋ไก๋ด้วยเลขศูนย์ลงไปข้างหน้า กลายเป็นมิติใหม่ของความงามที่ลงตัวสำหรับเรือนเวลานี้
CARRÉ H
ดีไซเนอร์: มาร์ค แบร์ติเย่ร์ (2010)
ตัวเรือนขัดเงา สเตนเลสสตีล 316L แต่งด้วยเทคนิคไมโครบีดบลาส
ขนาด: 38 x 38 มม. ความกว้างระหว่างหูสาย 21 มม.
กระจกแซฟไฟร์และตัวเรือนด้านหลัง ตัดแสงสะท้อน กันน้ำลึก 3 บาร์
หน้าปัด สีเทาทึบและสีดำ กลางหน้าปัดลายกิโยเช่สีมุก ขอบสเกลบอกเวลา (Chapter Ring) ลายเกรนประณีต ขีดบอกนาทีแบบ Sunburst หรือมุก เครื่องหมายบอกชั่วโมงและตัวเลขอารบิคทำด้วยแผ่นโรเดียม ชุบสารเรืองแสง Super-LumiNova® หน้าปัดย่อยบอกนาทีสีขาวสลับสี เข็มนาฬิกาบอกชั่วโมงและนาทีทำด้วยแผ่นโรเดียม ชุบสารเรืองแสง Super-LumiNova® เข็มวินาทีสีเหลืองหรือสีแดง
ARCEAU CASAQUE
ในปี 1978 เมื่ออองรี ดอริญี ได้รังสรรค์คอลเลกชั่นอาร์โซขึ้นมา เขาได้ถอดรหัสแห่งสุนทรียศาสตร์ของเรือนเวลาทรงกลมนี้ให้ปรากฏออกมาอีกครั้ง แต่ด้วยความต้องการที่จะหลีกหนีจากกรอบเกณฑ์สไตล์คลาสสิกแบบเดิม เขาจึงออกแบบหูตัวเรือนให้เป็นแบบอสมมาตรอันได้แรงบันดาลใจจากโกลนม้า
สี่ทศวรรษต่อมา เรื่องราวของเวลายังดำเนินต่อไป ตัวเรือนคอลเลกชั่น อาร์โซ กาซาค กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงศิลปะการขี่ม้า เปรียบเหมือนรอยเท้าม้าที่ประทับอยู่บนผืนทราย ลายเส้นรูปม้าขับเน้นพื้นหลังของเรือนเวลาให้โดดเด่นยิ่งขึ้น หน้าปัดผ่านการสลักเสลาโดยใช้เทคนิคการแกะลายนูน ลงรักและไล่เฉดสี เริ่มจากการเซาะฐานหน้าปัดนาฬิกาให้เป็นร่อง แล้วจึงทำการลงรัก จากนั้นเป็นการประทับลายหน้าจั่วสลับโทนสีเนื้อแมตต์เพื่อสร้างผิวสัมผัสในขั้นสุดท้ายให้กับชิ้นงานที่มีสีสันสะดุดตานี้ สีที่สว่างสดใสชวนให้นึกถึงม้าหมากรุกบนเกมกระดานสุดคลาสสิกของฝรั่งเศสในสมัยเด็ก สีเหลือง สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน สีไหนกันที่จะเผยความพยศและทะยานเข้าสู่เส้นชัยได้รวดเร็วที่สุด
ดีไซเนอร์: อองรี ดอริญี (1978)
ตัวเรือนสเตนเลสสตีล 316L ขนาด 36 มม. ความกว้างระหว่างหูสาย 18 มม. รุ่นขนาดกลาง
คริสตัลแซฟไฟร์แบบตัดแสงสะท้อน กันน้ำลึก 3 บาร์ หน้าปัด แผ่นเพลทชุบโรเดียม แกะลายนูนรูปม้า เคลือบลงรักสีแดง เหลือง เขียว หรือน้ำเงิน ประทับลายหน้าจั่วไล่โทนสี สลับสี เนื้อแมตต์
ARCEAU POCKET MILLEFIORI
เรือนเวลารุ่น Arceau Pocket Millefiori (อาร์โซ พ็อกเก็ต มิลลิฟิโอรี) ร่ายมนต์เสน่ห์ชวนหลงใหล อวดโฉมลวดลายบนหน้าปัดคริสตัล ที่ชวนให้จินตนาการถึงลวดลายบนหนังจระเข้ที่ล้อไปกับตัวเรือนด้านหลัง ซึ่งยึดเกี่ยวประสานไปกับผืนหนังอันเลอค่า นี่คือ ภาพในจินตนาการหรือความจริงกันแน่?
เทคนิคนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากที่ทับกระดาษสมัยศตวรรษที่ 19 รังสรรค์โดยโรงงานผลิตเครื่องแก้วคริสตัล แซงต์-ลูอิส ลวดลายที่เป็นสีดำเกิดจากแร่ต่างๆ ซึ่งส่วนผสมถูกเก็บไว้เป็นความลับสุดยอด หลอมผสานเป็นเนื้อเดียวกับคริสตัลที่ร้อนระอุ เมื่อนำออกมาจากถังในเตาหลอม วัสดุที่หลอมละลายจะเปลี่ยนรูปเป็นแท่งแก้วด้วยกรรมวิธีการเป่าของช่างทำเครื่องแก้ว แท่งแก้วเนื้อขาวที่กำลังระอุจะถูกดึงให้ยืดออกจากปลายท่อนเหล็กและตัดออกเป็นส่วนๆ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนของการนำชิ้นส่วนต่างๆ มาจัดเรียงกันให้เป็นรูปเป็นร่าง นี่มันคือลวดลายบนผิวหนังของสัตว์หรือลวดลายของแก้วคริสตัลกันแน่ การตีความลวดลายหน้าปัดขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่คุณพินิจพิเคราะห์นาฬิการุ่นนี้ที่ผลิตออกมาเพียงสองเรือนเท่านั้น
ดีไซเนอร์: อองรี ดอริญนี (1978)
ทำจากทองขาว 750 ขนาด 48 มม. ความกว้างระหว่างหูสาย 26มม. ขนาดใหญ่มาก กระจกคริสตัลแซฟไฟร์และตัวเรือนด้านหลังตัดแสงสะท้อน ตัวเรือนด้านหลังหุ้มด้วยหนังจระเข้สีดำเนื้อด้าน กันน้ำลึก 3 บาร์ หน้าปัด
คริสตัลทำด้วยเทคนิคมิลลิฟิโอรี โดยโรงงานผลิตเครื่องแก้วคริสตัลแซงต์-หลุยส์ ก