ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดงานแสดงนวัตกรรมระดับโลก

40

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น จัดงานแสดงนวัตกรรมระดับโลก (Innovation Summit 2018) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีลูกค้า คู่ค้า และผู้ทรงอิทธิพลในวงการต่างๆ กว่า 5,000 ราย เข้าร่วมงานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง โดยกิจกรรมในครั้งนี้มีบรรดาผู้เชี่ยวชาญจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค พร้อมด้วยนักคิดในวงการอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก ร่วมกันแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก พร้อมนำเสนอ Bold Idea ขานรับความท้าทาย และโอกาสในการเพิ่มขุมพลังให้กับเศรษฐกิจดิจิทัล

งาน Innovation Summit World Tour ปีนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยครอบคลุมอีก 20 งานที่จัดขึ้นในทั่วโลก นับเป็นโปรแกรมการจัดงานที่มากกว่าปี 2017 ถึง 2 เท่า โดยงานที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีสนี้ นับเป็นงานใหญ่ที่สุดที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเคยจัดมา ซึ่งมีการโชว์เคส ถึงการพัฒนาล่าสุดของ EcoStruxure ที่เป็นสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์มระบบเปิด ให้ศักยภาพด้าน IoT รองรับการใช้งานในลักษณะ plug and play สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นได้ ซึ่ง EcoStruxure มอบคุณค่าที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น ในเรื่องของ IoT โมบิลิตี้ การตรวจจับ คลาวด์ การวิเคราะห์ และระบบรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ เพื่อมอบนวัตกรรมในทุกระดับ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อ ระบบควบคุมปลายทางไปยังแอปพลิเคชั่น (Edge Control) การวิเคราะห์ และการบริการต่างๆ โดยที่ผ่านมา EcoStruxure ได้มีการติดตั้งใช้งานมากกว่า 480,000 ครั้ง โดยผู้วางระบบกว่า 20,000 รายที่ให้การสนับสนุนในการติดตั้ง ซึ่งมีการเชื่อมต่อสินทรัพย์หรืออุปกรณ์มากกว่า 1.5 ล้านรายการ

ทั้งนี้ได้อัพเดต 3 นวัตกรรมหลักภายใต้ EcoStruxure ดังนี้

EcoStruxure Power เพิ่มความเหนือชั้นอีกขั้นของสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์มแห่งอนาคตของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ให้ศักยภาพด้าน IoT  สำหรับการจ่ายไฟฟ้า ที่ให้ขีดความสามารถมหาศาลในการจัดการพลังงานสำหรับลูกค้า ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและให้ความน่าเชื่อถือสูง ครั้งนี้มาพร้อมกับ EcoStruxure Power Advisor ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นใหม่สำหรับผู้ใช้งาน รวมถึง EcoStruxure Power Monitoring Expert 9.0 และ Power Scada Operation 9.0 เป็นซอฟต์แวร์จัดการการควบคุมที่ปลายทาง (edge control management software) พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อ ได้แก่ Prologic ION9000 Meter และ Easergy P3 Protection Relay

EcoStruxure Building ที่เป็นทั้งสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์มอัจฉริยะ ถูกออกแบบมาสำหรับอาคารเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินการด้านอาคาร และเพิ่มความสะดวกสบาย ให้ผลลัพธ์ในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ซึ่ง EcoStruxure Building ยัง ให้ช่วยให้ได้รับประโยชน์จาก EcoStruxure Building Advisor แอปพลิเคชันใหม่สำหรับผู้ใช้ รวมถึงระบบควบคุมการทำงานปลายทาง EcoStruxure Building Operation 2.0 พร้อมผลิตภัณฑ์การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์ SmartX IP Controller MPx และ SmartX Room Sensors อีกด้วย

EcoStruxure Asset Advisor แอปพลิเคชั่นที่ให้บริการตรวจสอบอุปกรณ์ ซึ่งเป็นบริการที่จำเป็นอย่างมากช่วยในการคาดการณ์ปัญหาล่วงหน้า โดยทำงานผ่านคลาวด์ ด้วยการอาศัยข้อมูลในแบบ 24/7 เพื่อช่วยสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจ ในส่วนสินทรัพย์สำคัญของดาต้าเซ็นเตอร์ รวมถึงการจ่ายไฟฟ้า

ฌอง ปาสคาล ตริคัวร์

นายฌอง ปาสคาล ตริคัวร์ ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า โลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในประวัติการณ์ เนื่องจากความเฟื่องฟูของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเทคโนโลยีอย่างเช่น อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง หรือ Internet of things (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) และการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า ช่วยให้บริษัทต่างๆ สร้างนวัตกรรมได้มากขึ้น ทำธุรกิจได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยส่งเสริมความสามารถด้านการแข่งขัน

“ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบ เราต้องการสาธิตให้เห็นว่านวัตกรรมของเราสามารถช่วยลูกค้าและคู่ค้า ก้าวสู่การปฏิรูปทางดิจิทัลได้สำเร็จ ทั้งในระบบออโตเมชัน และการจัดการพลังงาน  เทคโนโลยีของเราสร้างบนฐานของ EcoStruxure™ ที่ช่วยควบคุมอำนาจในการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล ช่วยให้ลูกค้าของเรากลายเป็นผู้นำในเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่มีทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น การเชื่อมต่อที่ดีขึ้น และยั่งยืนมากขึ้น”

โดยตลอด 2 วันของการจัดงาน ลูกค้าต่างเข้าร่วมฟังการพูดคุยเชิงกลยุทธ์ (Strategy Talks) หลากหลายหัวข้อด้วยกัน เช่น ‘นิยามใหม่ของการกระจายพลังงาน’ ‘การผลิตอย่างชาญฉลาด, เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล’ และ ‘รูปแบบใหม่ของอาคาร’ โดยบริษัทได้จัดการประชุมเพื่อมอบการเรียนรู้ด้านความเชี่ยวชาญกว่า 15 เรื่อง สำหรับทั้งลูกค้าและคู่ค้า เพื่อแสดงให้เห็นถึงกรณีความสำเร็จของลูกค้าที่เป็นรูปธรรม รวมถึงโซลูชั่น พร้อมการอภิปรายที่เปิดให้มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้เข้าร่วมประชุมในลักษณะอินเตอร์แอกทีฟ นอกจากนี้ยังมี ศูนย์กลางนวัตกรรมหรือ Innovation Hub ในพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร ไว้คอยสาธิตความหลากหลายของซอฟต์แวร์ โซลูชัน และการบริการของชไนเดอร์ อิเล็คทริค  โดยศูนย์แห่งนี้ ยังมีการจัดเป็น หมู่บ้านสำหรับคู่ค้า (Partner Village) ที่เป็นเครือข่ายเทคโนโลยีคู่ค้าและสตาร์ทอัพของชไนเดอร์ อิเล็คทริค อีกด้วย