‘บมจ.โรงพยาบาลนครธน’ หรือ NKT เตรียมเสนอขายหุ้น IPO หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง

12
รศ.ญาณเดช ทองสิมา

“บมจ.โรงพยาบาลนครธน” หรือ NKT เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 135,000,000 หุ้น หลังสำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง ชูความโดดเด่นเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก สามารถให้บริการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน และศักยภาพของทำเล “พระราม 2” ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลที่มีศักยภาพเป็น “เขตเมืองใหม่” ของกรุงเทพฯ ในอนาคต เผยผลงานงวด 9 เดือน 2567 ทำกำไรสุทธิ 190.83 ล้านบาท วางแผนนำเงินที่ได้รับจากการ IPO ไปใช้ลงทุนโครงการโรงพยาบาลนครธน 2 โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ และโครงการขยายจำนวนเตียงให้บริการของโรงพยาบาลนครธน รวมถึงชำระเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัท บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) หรือ NKT เปิดเผยว่า โรงพยาบาลนครธน ถือเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ปัจจุบันเปิดให้บริการมากว่า 28 ปี โดยเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิที่สามารถให้บริการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรทางการแพทย์ในสาขาอายุรศาสตร์เฉพาะทางและสาขาเฉพาะทางอื่นๆ รวมถึงมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อให้บริการแก่ประชาชน นอกจากนี้ โรงพยาบาลฯ ยังมีโยบายกำหนดค่ารักษาพยาบาลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและสามารถแข่งขันได้

ทั้งนี้ โรงพยาบาลนครธน ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มุ่งสู่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ และภาคใต้ของประเทศ มีทางด่วนเชื่อมต่อการเดินทางสู่ย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ และมีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง รวมถึงแวดล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และสถานที่สำคัญอื่นๆ อาทิ เซ็นทรัลพระราม 2 โรงเรียนนานาชาติ BASIS International School Bangkok คอมมูนิตี้มอลล์ และสำนักงานเขตบางขุนเทียน เป็นต้น นอกจากนี้ ถนนพระราม 2 ยังมีการขยายตัวของที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงเป็นทำเลที่มีศักยภาพจะเป็น “เขตเมืองใหม่” (New Urbanized District) ของกรุงเทพฯ ในอนาคต

ดร.วิศาล สายเพ็ชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงพยาบาลนครธน เป็นอาคาร 12 ชั้น มีจำนวนเตียงที่จดทะเบียน 150 เตียง และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาต่างๆ รวมถึงมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย โดยมีศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง 20 ศูนย์ อาทิ ศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์หัวใจ ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ ศูนย์กระดูกสันหลัง ศูนย์มะเร็ง ศูนย์ทันตกรรม เป็นต้น อีกทั้งมีแผนกการรักษาผู้ป่วย 1 แผนก ได้แก่ แผนกไตเทียม จึงสามารถตอบสนองการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและการรักษาแบบองค์รวม
โรงพยาบาลนครธนมีจุดเด่นหลากหลาย

ได้แก่ 1) เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญและมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยในกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก สามารถให้การรักษาแบบครบวงจร (One Stop Service) ซึ่งโรงพยาบาลระดับตติยภูมิที่มีความสามารถรักษาโรคที่มีความซับซ้อนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก 2) อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพเป็นเมืองใหม่ของกรุงเทพฯ ในอนาคต 3) มีฐานลูกค้าเดิมจำนวนมากและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยที่มีประวัติการรักษาจากฐานข้อมูลของโรงพยาบาลนครธน ณ สิ้นปี 2566 มีจำนวน 133,719 ราย เพิ่มขึ้น 37,270 ราย จาก ณ สิ้นปี 2562

ซึ่งมีจำนวน 96,449 ราย คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 8.51% ต่อปี 4) การร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำจัดตั้งศูนย์การแพทย์รักษาโรคซับซ้อนและโรคทั่วไปเพื่อขยายฐานผู้ใช้บริการ เช่น ร่วมกับกลุ่มโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จัดตั้งศูนย์กระดูกสันหลัง และศูนย์มะเร็ง เป็นต้น 5) มีความพร้อมในการให้บริการดูแลและรักษาสุขภาพแก่ผู้ใช้บริการทุกช่วงวัย 6) ให้บริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล และ 7) มีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำโรงพยาบาลประกันสังคม โดยมีโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลนครธน 2 ขนาด 151 เตียง เพื่อมุ่งเน้นให้บริการแก่ผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานที่ผ่านมาปี 2564 – 2566 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 1,551.67 ล้านบาท เป็น 2,036.89 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 14.57% ต่อปี และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 183.24 ล้านบาท เป็น 282.29 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 24.12% ต่อปี ซึ่งมีปัจจัยมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลซึ่งเป็นสัดส่วนหลักของรายได้รวมและการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน 2567 มีรายได้รวม 1,521.34 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 190.83 ล้านบาท

นายยศวีร์ สุทธิกุลพานิช Head of Primary Markets Distribution Division ผู้บริหารสายงาน Investment Banking and Capital Markets ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า หลังจาก บมจ.โรงพยาบาลนครธน ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 135,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 25.23 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งนี้

ปัจจุบันสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO และเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยวัตถุประสงค์การเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ บมจ.โรงพยาบาลนครธน จะนำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนโครงการโรงพยาบาลนครธน 2 โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ และโครงการขยายจำนวนเตียงให้บริการของโรงพยาบาลนครธน รวมถึงชำระเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

นางสาวสุธางค์ คนศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานวาณิชธนกิจ 1 บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า บมจ.โรงพยาบาลนครธน ถือเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง จากทำเลที่ตั้งในย่านพระราม 2 ที่มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และโครงข่ายคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีจำนวนประชากรและความต้องการด้านการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทฯ มีแผนการลงทุนพัฒนาโครงการโรงพยาบาลนครธน 2 บนถนนเอกชัย โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ ซึ่งจะเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม ในบริเวณใกล้กับโรงพยาบาลนครธน และโครงการขยายจำนวนเตียงให้บริการของโรงพยาบาลนครธน ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพการเติบโตที่ดีในระยะยาว