หากจะบอกว่า หนึ่งในการลงทุนที่หลายๆ คนให้ความสนใจ การลงทุนในตราสารหนี้ก็คงอยู่ในลิสต์ด้วยเช่นกัน ซึ่งการลงทุนตราสารหนี้นั้นก็เปรียบเสมือนสัญญาที่รัฐบาลหรือบริษัทเอกชนออกเพื่อระดมทุนจากประชาชน โดยผู้ซื้อตราสารหนี้จะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยเป็นระยะ และเมื่อครบกำหนดอายุของตราสารจะได้รับเงินต้นคืน แต่หากใครที่ยังนึกภาพไม่ออก ให้ลองคิดง่ายๆ อย่างการที่เราให้เพื่อนยืมเงิน แล้วเพื่อนคนนั้นต้องจ่ายดอกเบี้ยให้เราทุกเดือน พร้อมกับคืนเงินก้อนที่เราให้ยืมไปเมื่อครบตามกำหนด
ทำไมต้องลงทุนในตราสารหนี้?
- ผลตอบแทนสม่ำเสมอ: ดอกเบี้ยที่ได้รับจากตราสารหนี้มักจะมีอัตราที่แน่นอน ทำให้สามารถวางแผนทางการเงินได้ง่าย
- ลดความเสี่ยง: เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้น การลงทุนตราสารหนี้มีความเสี่ยงน้อยกว่า เพราะผลตอบแทนไม่ได้ผันผวนตามภาวะตลาดมากนัก
- กระจายความเสี่ยงในพอร์ต: การลงทุนในตราสารหนี้ช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ทำให้พอร์ตมีความเสถียรมากขึ้น
- ป้องกันเงินเฟ้อ: สำหรับตราสารหนี้บางประเภท เช่น ตราสารหนี้ที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวตามอัตราเงินเฟ้อ (Inflation-linked Bonds) สามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้
การลงทุนตราสารหนี้เหมาะกับใคร?
สำหรับใครที่อยากวางแผนเก็บเงินในอนาคต แล้วคิดว่าตราสารหนี้อาจเป็นการลงทุนกับตนเองที่สุด ลองไปดูกันว่าการลงทุนประเภทนี้เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่ต้องการความมั่นคง: ผู้ที่ต้องการผลตอบแทนที่แน่นอนและมีความเสี่ยงต่ำ
- ผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง: ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
- ผู้ที่ต้องการเงินทุนในระยะยาว: ตราสารหนี้บางประเภทมีอายุยาวหลายปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนในระยะยาว
- นักลงทุนมือใหม่: การลงทุนในตราสารหนี้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เพราะเข้าใจง่ายและมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น
เทคนิคการลงทุนตราสารหนี้ให้คุ้มค่า
- ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ: ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตราสารหนี้แต่ละประเภท อายุของตราสารหนี้ อัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
- กระจายความเสี่ยง: ไม่ควรลงทุนในตราสารหนี้ประเภทเดียว ควรกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้ที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่อายุของตราสารหนี้ ผู้ออกตราสารหนี้ และอัตราดอกเบี้ย
- พิจารณาภาวะเศรษฐกิจ: ภาวะเศรษฐกิจมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยและราคาของตราสารหนี้ การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้ตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม
- เลือกผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์: หากต้องการลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ ควรเลือกกองทุนที่บริหารโดยผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์และผลการดำเนินงานที่ดี
- ระยะเวลาถือครอง: ตราสารหนี้บางประเภทอาจมีค่าธรรมเนียมในการขายก่อนกำหนด ดังนั้นควรพิจารณาระยะเวลาในการถือครองให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงิน
การลงทุนในตราสารหนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุน แต่ถึงแม้ว่าจะให้ผลตอบแทนที่อาจจะไม่สูงเท่ากับการลงทุนในหุ้นก็ตาม แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า และมีความสม่ำเสมอของรายได้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนกันด้วย