
เส้นทางสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวหรูแห่งเอเชียในปี 2568 ของประเทศไทย ต้องอาศัยการ ‘เจาะลึก’ ผ่านการยกระดับที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์ชั้นนำ ส่งเสริมสุขภาพเชิงฟื้นฟู และสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวด้านอาหาร ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งในภูมิภาค
แบรนด์ระดับโลกเดินหน้าผลักดันกรุงเทพฯ สู่การเป็น ‘เมืองแห่งความสนุกระดับโลก’ พร้อมสร้างนิยามใหม่ของการท่องเที่ยวสายลักซ์ชัวรี ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับการท่องเที่ยวหรูในไทย โดยในงาน Thailand Tourism Forum (TTF) 2025 มีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน เพื่อสัมผัสวิสัยทัศน์และเทรนด์อนาคตของอุตสหากรรมนี้
โดยงานจัดขึ้นที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ พร้อมเปิดตัวแนวคิดใหม่ JOMO (Joy of Missing Out) ที่เข้ามาแทนที่ FOMO (Fear of Missing Out) ซึ่งเปลี่ยนการท่องเที่ยวตามกระแสนิยมสู่การเดินทางที่เน้นการพักผ่อนใจ หลีกหนีความวุ่นวาย ดูแลตัวเอง และค้นหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
บิลล์ บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้จัดการ C9 Hotelworks กล่าวว่า “กระแสใหม่ในตลาดลักซ์ชัวรีขับเคลื่อนโดยกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านบาทต่อปี (5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เปรียบเทียบกับกลุ่มที่พักอาศัยแบรนด์หรูที่มีมูลค่าสูงถึง 191 พันล้านบาท (34.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เท่านั้น นอกจากนี้ ธุรกิจสุขภาพนั้นได้ก้าวข้ามขอบเขตของสปา สู่การใช้ชีวิตกลางแจ้งและการสร้างไลฟ์สไตล์ที่ส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน โดยนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะอยู่ต่อนานขึ้น และปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย โดยแนวคิดเรื่องการดูแลสุขภาพเพื่ออายุยืนกำลังก้าวขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดลักซ์ชัวรียุคใหม่”

นอกจากนี้ เจสเปอร์ ปาล์มควิสต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลการบริการและรองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ STR เผยว่า ทำเลในกรุงเทพฯ มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทำผลงานได้โดดเด่นในปี 2024 ซึ่งสอดรับกับแนวคิด ‘ลักซ์ชัวรียุคใหม่’ ที่เน้นเสน่ห์ของธรรมชาติและเอกลักษณ์ด้านอาหารในย่านต่าง ๆ ซึ่งกลายเป็นจุดดึงดูดสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์
งานสัมมนาในหัวข้อ ‘การบริหารแบรนด์ไลฟ์สไตล์และแบรนด์ดั้งเดิม’ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแบรนด์อย่างสร้างสรรค์ โดย ศิรเดช โทณวณิก รองประธานฝ่ายพัฒนาของโรงแรมดุสิต โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า โรงแรมดุสิตธานีแห่งใหม่สะท้อนถึงทิศทางใหม่ของกลุ่มได้อย่างชัดเจน ขณะที่แพททริค ฟินน์ รองประธานฝ่ายพัฒนาของ IHG Hotels & Resorts ได้นำเสนอเทรนด์ ‘The Hot List – Top Luxury Travel Trends in Thailand’ โดยเน้นว่าในปี 2025 ประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มที่แท้จริงและเต้มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ จะเป็นจุดเด่นสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว โดย IHG Hotels & Resorts ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการบริการกลุ่มโรงแรมหรูในประเทศไทยด้วยแบรนด์ อินเตอร์คอนติเนนตัล และ คิมป์ตัน โดยเฉพาะ อินเตอร์คอนติเนนตัล เขาใหญ่ รีสอร์ต ที่คว้ารางวัลมาแล้วมากมาย
การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพและอายุยืน หรือ ‘longevity tourism’ กำลังกลายเป็นเทรนด์สำคัญในตลาดท่องเที่ยวหรูยุคใหม่ของไทย โดยมีสถานที่ล้ำสมัย เช่น VitalLife Scientific Wellness Center Phuket เป็นตัวอย่างที่โดดเด่น โดย ดร.วรรณวิพุธ สรรพสิทธิ์วงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก VitalLife Scientific Wellness Center และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้กล่าวในหัวข้อ ‘นิยามใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทย’ ว่าการดูแลสุขภาพเพื่ออายุยืนกำลังเป็น ‘พรมแดนใหม่’ ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

งาน Thailand Tourism Forum 2025 จัดขึ้นโดย C9 Hotelworks ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ เช่น IHG Hotels & Resorts, STR, Horwath HTL, JLL Hotels and Hospitality, QUO, AMCHAM Thailand, Delivering Asia, VitaLife, Lighthouse, Phuket Hotels Association, Thaiger โดยมีโรงแรม InterContinental Bangkok เป็นสถานที่จัดงาน