การได้มาเยือน Praya Palazzo ก็เหมือนหลุดกลับเข้าไปในอดีต เพราะเรื่องราวกว่า 100 ปีของสถานที่อันทรงคุณค่าแห่งนี้ พาเราย้อนไปพบกับความทรงจำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความงดงาม
จากจุดจอดรถวัดราชาธิวาส โทรเรียกเรือของโรงแรมเพียงไม่นานก็มาถึง ในยุคที่เราข้ามฟ้าไปหากันได้แล้ว แต่การเดินทางมาที่ “พระยาพาลาซโซ” (Praya Palazzo) ยังรู้สึกถึงความผูกพันกับสายน้ำเหมือนครั้งเก่าก่อน
ย้อนไปในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเรือนหอให้กับ “อำมาตย์เอก พระยาชลภูมิพานิช” ซึ่งเป็นขุนนางที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาทพระพุทธเจ้าหลวง โดย “พระยาชลภูมิพานิช” ได้แต่งงานกับ คุณหญิงส่วน” ซึ่งเป็นข้าหลวงใกล้ชิดในพระยุคลบาทในสมเด็จฯ พระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 5 และได้รับพระราชทานนามสกุลว่า “อเนกวณิช”
บ้านหลังใหญ่สไตล์ยุโรปตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเรียกขานกันว่า “บ้านบางยี่ขัน” ท่ามกลางความรักความอบอุ่นจนขยายเป็นครอบครัวใหญ่สืบทายาทอีก 10 คน
หลังจาก “พระยาชลภูมิพานิช” ถึงแก่อนิจกรรม ในปี 2481 ผู้รับสืบทอดในการดูแลบ้านหลังนี้คือ“นายปานจิตติ์ อเนกวณิช” บุตรชายคนที่ 7
เดิมทีการสัญจรทางน้ำคือเส้นทางหลักของผู้คน แต่เมื่อถึงยุคที่มีการใช้รถยนต์แทนเรือกันมากขึ้น เป็นเหตุให้สมาชิกบ้านอเนกวาณิชตัดสินใจย้ายไปอยู่ฝั่งพระนคร ในปี 2489 และได้มอบกรรมสิทธิ์บ้านบางยี่ขันให้กับกลุ่มมุสลิมบางกอกน้อย (ปัจจุบันคือมูลนิธิมุสลิมกรุงเทพวิทยาทาน) เพื่อใช้เป็นอาคารเรียนของ “โรงเรียนราชการุญ” แทนอาคารหลังเดิมในชุมชนบางกอกน้อยที่ถูกระเบิดทำลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ปิดตัวลงในปี 2521 เนื่องจากปัญหาด้านเงินทุน จากนั้นทางมูลนิธิก็ปล่อยให้เอกชนเช่าโดยเปิดเป็น “โรงเรียนอินทรอาชีวศึกษา” แต่ภายหลังก็ต้องปิดตัวไปในปี 2537
อาคารหลังนี้จึงถูกทิ้งร้างไปนาน เหลือไว้เพียงความสงสัยของผู้ที่ผ่านไปมา จนเข้าไปอยู่ในสายตาแห่งความหวังของ “ผศ. วิชัย พิทักษ์วรรัตน์” สถาปนิกหนุ่มที่ริเริ่มโครงการฟื้นฟูอาคารหลังนี้ขึ้นมา ผ่านความพยายามในการบูรณะจนแล้วเสร็จอย่างสวยงามดังเดิม ในปี 2552 และได้ตั้งชื่อใหม่ว่า“พระยาพาลาซโซ” ซึ่งคำว่า “Palazzo” เป็นภาษาอิตาลี แปลว่า “คฤหาสน์” อันหมายถึง “คฤหาสน์แห่งพระยาชลภูมิพานิช”
ปัจจุบัน “พระยาพาลาซโซ” เป็นโรงแรมขนาด 15 ห้อง ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บวกกับทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่น บรรยากาศเงียบสงบกับกลิ่นอายแบบย้อนยุค เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้ที่หลงรักในศิลปะและประวัติศาสตร์เข้ามาชื่นชมไม่ขาดสาย
และที่กลายเป็นเป้าหมายลึกลับของนักชิม คือห้องอาหาร “พระยาไดนิ่ง” ที่อยู่ภายในโรงแรม ที่นี่เสิร์ฟตำรับอาหารชาววังระดับมิชลินไกด์ถึง 7 ปีซ้อน
ความพิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียดคือเสน่ห์ของอาหารไทย รวมไปถึงหัวใจของงานบริการ เมื่อเข้ามาแล้วจะพบกับบรรยากาศร้านที่มีมนต์ขลัง เมนูที่ได้ชื่อว่าพิเศษไม่เหมือนใคร เป็นอาหารโบราณหายากอย่าง “หมูผัดส้มเสี้ยว” หน้าตาอาจจะดูธรรมดา แต่ลองชิมแล้วต้องซ้ำ ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม แปลกใหม่ แอบสดชื่นอยู่ปลายลิ้น จากรสเฉพาะของส้มเสี้ยวที่มาจากทางเหนือและอีสาน
เมนูของทางร้านมีให้เลือกหลากหลาย เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็น แสร้งว่ากุ้ง, กระทงทอง, ล่าเตียง, ยำส้มโอกุ้งสด, แกงมัสมั่น, แกงรัญจวน, ปลากะพงเจี๋ยนมะขาม, ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ ฯลฯ หน้าตาสวย รสชาติดี ด้านของหวานและเครื่องดื่มก็คัดสรรมาอย่างตั้งใจ
ในโรงแรมยังมีห้องโถงสำหรับการจัดงานพิธี คือ “ห้องร่มโพธิ์” ซึ่งอยู่ตรงกลางบนชั้นสองของอาคาร มีคู่รักมากมายเลือกมาจัดพิธีแต่งงาน ยิ่งทำให้ความทรงจำดี ๆ เพิ่มมากขึ้นต่อไป
วันนี้บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเงียบสงบ เรือที่แล่นผ่านย้อนให้คิดถึงวันเก่า ๆ จินตนาการไปถึงยุคที่การสัญจรและการค้าขายทางน้ำเฟื่องฟู ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของบ้านหลังนี้
ปัจจุบันทางโรงแรมยังคงใช้เรือเพื่อรับส่งแขกผู้เข้าพักหรือมารับประทานอาหาร เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางมายังพระยาพาลาซโซ ถือเป็นการเติมเต็มบรรยากาศก่อนจะเข้าสู่อาณาจักรที่งดงามและทรงคุณค่า เชื่อว่าใครที่ได้มาเยือนแล้ว คงมีภาพความทรงจำดี ๆ เช่นกัน
Praya Palazzo
การเดินทาง
- หากเป็นการเดินทางโดยแท็กซี่ เรือโรงแรม จะไปรับที่ท่าเรือพระอาทิตย์ (โรงแรมอยู่ฝั่งตรงข้าม)
- หากนำรถมาเอง สามารถจอดรถได้ที่ วัดราชาธิวาส สามเสน ซอย 9 เมื่อมาถึงท่าเรือ สามารถโทรเรียกเรือได้ที่ 0814028118 ใช้เวลานั่งเรือชมวิวประมาณ 5 นาทีก็ถึงโรงแรม
Phone number: +6681 4028118 or +66 28 832 998
Website: https://www.prayapalazzo.com/
E-mail: reservation@prayapalazzo.com
Address: 757/1 Somdej Prapinklao Soi 2, Bangyeekhan Bangplad, Bangkok 10700 Thailand
