“บางกอกเคเบิ้ล” จับมือ “มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง” เข้าร่วมโครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สนับสนุนงบประมาณกว่า 17 ล้าน ดูแลพื้นที่ป่า 6,000 ไร่ ป้องกันป่าเสื่อมโทรม–เพิ่มพูนการกักเก็บคาร์บอน หวังลดคาร์บอนมากกว่า 5,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า พร้อมมอบเงินพิเศษเพิ่มอีก 1 ล้าน ตะลุยอีก 4 โครงการย่อย ติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงเรียน–จัดนิทรรศการวิทยาศาสตร์–พัฒนาศูนย์เด็กใฝ่ดี–รับรองปริมาณคาร์บอนเครดิตจากป่าชุมชน ตอกย้ำแนวคิดเซฟคน–เซฟเมือง–เซฟสิ่งแวดล้อม

พงศภัค นครศรี ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) ผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาสายไฟฟ้าและสายเคเบิลชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยร่วมสนับสนุนงบประมาณกว่า 17 ล้านบาท สำหรับการดูแลพื้นที่ป่ากว่า 6,000 ไร่ เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ลดปัญหาการเกิดไฟป่า และเพิ่มพูนการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) บรรเทาปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
“เราเป็นองค์กรที่มีความมุ่งมั่นในการเซฟคน เซฟเมือง เซฟสิ่งแวดล้อม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และโครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ถือเป็นตัวกลางที่ช่วยเชื่อมเราให้เข้าถึงชุมชนที่ใช้ชีวิตอยู่กับป่า เป็นผู้ดูแลป่า เชื่อมให้เราสามารถร่วมสนับสนุนบุคลากรที่มีส่วนสำคัญตั้งแต่รากฐานในการดูแล ป้องกัน และบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น เรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะช่วยให้ประเทศไทยมีผืนป่าที่ได้รับการดูแลอย่างยั่งยืน มีส่วนร่วมในการบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนต่อไป” พงศภัค กล่าว
สำหรับโครงการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และภาคีภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรับมือกับภาวะโลกร้อนหรือโลกรวน รวมทั้งไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากการเผาไหม้เครื่องจักร โดยเฉพาะเครื่องยนต์ และฝุ่นควันจากไฟป่า ปัจจุบัน มีพื้นที่ป่าภายใต้ความดูแลของโครงการครอบคลุมพื้นที่ 10 จังหวัด รวม 147,037 ไร่ 120 ชุมชน โดย บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด ถือเป็นสมาชิกรายล่าสุดภายใต้ความร่วมมือนี้ และคาดว่าจะมีส่วนช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์อย่างน้อย 5,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ในช่วง 3 ปี
พงศภัค กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการสนับสนุนมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯภายใต้โครงการดังกล่าวแล้ว บริษัทยังได้บริจาคเงินเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาทให้แก่มูลนิธิ เพื่อดำเนินงานในอีก 4 โครงการย่อย ได้แก่ 1.โครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์สำหรับโรงเรียนบ้านขาแหย่งพัฒนา จ.เชียงราย เพื่อช่วยส่งเสริมการเข้าถึงพลังงานสะอาดในพื้นที่ชนบท 2.โครงการ Science Fair ให้เยาวชนดอยตุงได้เรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และแรงบันดาลใจในการเติบโตสู่อนาคต 3.โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงราย สนับสนุน “ศูนย์เด็กใฝ่ดี” เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กและเยาวชน และ 4.โครงการสนับสนุนการรับรองปริมาณ Carbon Credit จากป่าชุมชน เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

“บางกอกเคเบิ้ล เป็นองค์กรของคนสายวิทย์ พนักงานจำนวนมากของเราเป็นวิศวกร เป็นนักเคมี เป็นช่าง และวันนี้เราไม่ได้ทำแค่สายไฟฟ้า แต่เราพยายามขับเคลื่อนทิศทางองค์กรไปสู่การใช้พลังงานสะอาด ทั้งโซลาร์เซลล์ EV Charger เราจึงอยากเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด การพัฒนาเด็กและเยาวชนด้านวิทยาศาสตร์ ตลอดจนการดูแลสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างยั่งยืน ผ่านการนำร่องสนับสนุนใน 4 โครงการนี้” นายพงศภัค กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงมุ่งหน้าขับเคลื่อนองค์กรภายใต้แนวคิด เซฟคน เซฟเมือง เซฟสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง รวมถึงอาจพิจารณาสร้างความร่วมมือกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯและองค์กรอื่นๆ ในโครงการที่มีส่วนสำคัญในการเซฟคน เซฟเมือง เซฟสิ่งแวดล้อม เพิ่มเติมในอนาคต
สำหรับ บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) เป็นผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาสายไฟฟ้าและสายเคเบิลชั้นนำของประเทศไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ.2507 ให้บริการครอบคลุม 7 กลุ่มการใช้งาน ได้แก่ 1.ระบบผลิตและส่งพลังงานไฟฟ้า (Transmission) 2.ระบบจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า (Distribution) 3.ระบบไฟฟ้าภายในบ้านพักและอาคาร (Construction and Building) 4.ระบบขนส่งและคมนาคม (Transportation and Mobility) 5.ระบบไฟฟ้าในโรงงาน และภาคอุตสาหกรรม (Industrial) 6.พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy)
และ7.ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ (Automotive) เพื่อสร้างความปลอดภัยและขับเคลื่อนเมืองสู่อนาคต ปัจจุบัน มีลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวนมากที่ใช้สายไฟฟ้าของบางกอกเคเบิ้ล อาทิ โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 โครงการสายไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าสายสีชมพู โครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออก และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ เขื่อนอุบลรัตน์ นอกจากนี้ บริษัท มีส่วนสนับสนุนโครงการ ASEAN Power Grid โดยเฉพาะโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง (Luang Prabang Hydropower Project) ในประเทศลาว