12 มุมฟิน สายอาร์ต สายเฟ่ สายมู สายกรีน เที่ยวปราจีนบุรี-นครนายก

1

แค่ได้ออกเดินทางก็สุขใจ ไม่ว่าเป้าหมายจะอยู่ที่ไหนก็ตาม สำหรับคนที่รักการท่องโลกกว้าง ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ก็มีประสบการณ์ใหม่ ๆ รอเราอยู่เสมอ

ไม่ว่าจะเป็นที่เดิมที่เคยไปมาแล้ว ก็อาจจะเจออีกหลากมุมมองที่เพิ่มเข้ามา เพราะการเคลื่อนไหวของวันเวลา ย่อมนำพาให้เราได้เจอกับเรื่องราวใหม่ ๆ อีกมากมายนัก

เส้นทางท่องเที่ยวในครั้งนี้ ปักหมุดที่สองจังหวัดบ้านใกล้เรือนเคียงในฝั่งตะวันออก ปราจีนบุรี และนครนายก ด้วยระยะเวลาการเดินทาง 2 วัน 1 คืน ถือเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่ากับการได้พบเจอประสบการณ์อันน่าประทับใจถึง 12 จุด และหวังว่าทุกคนจะมีโอกาสได้ไปพิสูจน์ความอิ่มเอมอบอุ่นใจแบบเดียวกันนี้

ปราจีนบุรี

1.ล่องเรือ ไหว้พระ ลอยดอกบัวบูชาอธิษฐาน

เริ่มจากท่าเรือหน้าวัดหลวงปรีชากูล ในตัวเมืองปราจีนบุรี เราใช้บริการของวิสาหกิจท่องเที่ยวเสื่อกกบ้านบางพลวง ใช้นัดแนะกับเรือลำเล็กสำหรับกรุ๊ปเพียง 7 คน ล่องออกไปในแม่น้ำปราจีนบุรี จากจุดลงเรือ ไปถึงจุดนัดหมายที่วิสาหกิจฯ นับเป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร แต่ทางเรือจะใช้เวลาชื่นชมชิลราว 1.30 ชั่วโมง

เมื่อเรือเริ่มออกจากท่า ภาพที่ค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาคือวิถีชาวบ้านที่ยังพึ่งพาสายน้ำ บ้างก็มีการทำกระชังปลา บ้างก็ออกมาลอยเรือตกกุ้ง

เป้าหมายของการล่องเรือชมธรรมชาติ อยู่ที่ “วัดโบสถ์” ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ริมแม่น้ำ ประกอบด้วย พระพุทธรูปปางลีลา-พระสิริมงคลนิมิต, พระพุทธรูปปางประทับนั่งห้อยพระบาท-พระสรรพสิทธินาวา และพระพุทธรูปปางประทับนอน-พระมหาชินไสยาสน์

เมื่อเรือเข้าใกล้วัด เราจะได้รับดอกบัวเพื่อทำการอธิษฐานขอพร ก่อนจะวางดอกไม้ให้ไหลไปตามสายน้ำ เป็นกิจกรรมที่สื่อถึงความงดงาม นอบน้อม ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ


2.คาเฟ่สายเขียว จะเลี้ยวหรือเทียบท่า

หากขับรถก็เลี้ยวเข้ามา ถ้าทางเรือก็ต้องเทียบท่า นี่คืออีกจุดแวะชิลระหว่างการล่องเรือ ที่ “เลอกรีนคาเฟ่” (Le’ Green Cafe & Bistro) คาเฟ่สไตล์ Glass House วิวแจ่มศรีริมน้ำปราจีนบุรี

ที่นี่เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาการใช้ประโยชน์จากกัญชา โดยมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหลากหลายรายการ พร้อมด้วยการนำเสนอหารและเครื่องดื่มในบรรยากาศแห่งการพักผ่อน มาแล้วก็ต้องไม่พลาดเมนูซิกเนเจอร์ซึ่งมีส่วนผสมของ Cannabis Sativa L

ตัวร้านมีความโปร่งโล่งสบาย วันนี้สั่ง “มัทฉะน้ำผึ้งมะนาว” แล้วออกไปนั่งเล่นที่โต๊ะริมแม่น้ำ มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเย็นสบาย นับเป็นอีกมุมที่ไม่อยากให้พลาดเมื่อมาเยือนเมืองปราจีนฯ

Le Green Cafe & Bistro

เปิดให้บริการ 10.00 – 18.00 น.

หยุดทุกวันจันทร์

โทร. 02 026 6909

Facebook/ Le Green Cafe & Bistro


3.นั่งล้อมวง กินกุ้ง กินปลา อาหารพื้นบ้าน

มื้อเที่ยงวันนี้อยู่ในราคาเหมาของการล่องเรือ ทางวิสาหกิจชุมชนบ้านบางพลวง จะเป็นผู้เตรียมอาหารเอาไว้หลากหลายรายการ ที่ขาดได้คือปลาเผา และกุ้งเผา ผลผลิตจากแม่น้ำปราจีนบุรี ซึ่งรับซื้อจากชาวบ้านโดยตรง

นอกจากนั้นยังมีเมนูพื้นบ้านจากวัตถุดิบในพื้นที่ อาทิ แกงจืดหน่อไผ่ตง ลาบปลาดุก น้ำพริกกะปิ ขนมจีนปลาทอด ห่อหมก ฯลฯ

อิ่มแล้วนั่งพักผ่อนริมน้ำกันนิดหน่อย ก่อนจะไปช้อปของดีบ้านบางพลวง เป็นผลิตภัณฑ์จากกกฝีมือชาวบ้านที่มีความประณีตสวยงาม มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์หลากหลาย น่าซื้อหา

วิสาหกิจท่องเที่ยวเสื่อกกบ้านบางพลวง

ป้าชุ่ม โทร.0814348203


4.เยือนหมู่บ้านค้างคาว วัดเทวบุตร

ระหว่างที่ล่องเรือในแม่น้ำปราจีนบุรี เราจะได้เห็นฝูงค้างคาวแม่ไก่กลุ่มใหญ่แฝงกายเป็นเงามืดบริเวณป่าริมน้ำของวัดเทวบุตร เมื่อรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว เราก็จะไปที่นี่กั

ในเส้นทาง “นั่งรถตุ๊ก ลงเรือไหว้พระ กินกุ้ง ชมแม่น้ำปราจีนบุรี” โดย ททท.สำนักงานนครนายก จะมีกิมมิคเล็ก ๆ เพิ่มสีสันของการเดินทางด้วยบริการรถตุ๊ก ๆ ซึ่งจะมารับทุกคนจากวิสาหกิจชุมชนฯ ไปยัง“วัดเทวบุตร” ซึ่งเป็นวัดเล็ก ๆ ที่อาจจะไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก

เมื่อถึงตัววัดซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ก็เหมือนเดินเข้ามาในอาณาจักรของหมู่บ้านค้างคาว ไม่อาจรู้ได้ว่าเหตุใดเจ้าเงามืดหลายพันตัวจึงมารวมตัวกันที่นี่ อาจจะด้วยสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ และสงบเงียบก็เป็นได้

ภายในวัดเทวบุตรมีสิ่งที่น่าสนใจหลายจุด เช่น โบสถ์โบราณ ที่มีลักษณะของ “โบสถ์มหาอุตม์” ซึ่งมีประตูทางเข้าเพียงทางเดียว แต่ก็มีหน้าต่างสองฝั่ง, พระพุทธไสยาสน์ และการสักการะรูปเหมือน “หลวงพ่อจวง เขมโก” อันเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน

วัดเทวบุตร

ต.รอบเมือง อ.เมือง ปราจีนบุรี


นครนายก
5.เยือนปราสาทแห่งเลมอน 16 Brix Melon Farm

เมล่อนลูกใหญ่ขนาดสูงกว่าตัวคน ตั้งเด่นเป็นสัญลักษณ์อยู่หน้าปราสาทสีขาว ราวกับมีเจ้าชายน้อยอาศัยอยู่ ที่นี่คือ 16 Brix Melon Farmฟาร์มเลมอนนครนายก แหล่งเช็คอินแห่งใหม่ ที่ถูกใจสายมินิมอลสุด ๆ

ที่นี่ปลูกผักและเลมอนหลากหลายสายพันธุ์ ด้วยฟาร์มเมลอนระบบไฮโดรโปนิกส์ (ไร้ดิน) ไร้สารเคมี และนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นเมลอนสด ๆ หรือเครื่องดื่มจากเมลอน สลัดเมลอน พิซซ่าเมลอน เมลอนพานาคอตต้า วุ้นเมลอน เมลอนครีมชีส ฯลฯ ยกขบวนความอร่อย สดชื่นแบบจัดเต็ม

สำหรับคำว่า “16 Brix ก็มาจากหน่วยวัดความหวานของผลไม้ ซึ่งระดับ 16 Brix ถือว่าหวานมาก เช่นเดียวกับเมลอนของทางฟาร์มที่ต้องไปพิสูจน์กัน

16 Brix Melon Farm

ต.สาริกา อำเภอเมืองนครนายก

เปิดให้บริการ เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 17.00 น.

Facebook/ 16 Brix Melon Farm

โทร. 086 520 2212


6.ปราสาทแห่งความรัก Café Luara Bar & Restaurant

การออกแบบสไตล์ร้านรวมทั้งอาหาร ที่ Café Luara Bar & Restaurant นครนายก ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความรักของชายไทยกับหญิงสาวลูกครึ่งอังกฤษ-ญี่ปุ่น ซึ่งพบรักกันที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทั้งคู่ได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ นานา จนสร้างครอบครัว และร้านนี้ขึ้นมา โดยใช้ประสบการณ์จากการเปิดร้านอาหารไทยในประเทศอังกฤษมากว่า 15 ปี

Café Luara Bar & Restaurant นครนายก เป็นสาขาที่ 3 โดยสาขาที่ 1 อยู่ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี สาขาที่ 2 ต.หินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี

เมื่อเข้าไปถึงตัวร้าน ภาพแรกที่จะได้เห็นคือความงดงามอลังการของอาคารสไตล์ยุโรป ตกแต่งอย่างพิถีพิถันทุกมุม ทั้งในโซนห้องแอร์ที่มีความเข้มขลัง และโอเพนแอร์ทั้งชั้นล่างและชั้นสองแบบเปิดโล่ง แต่ละมุมมองเห็นรายละเอียดของการออกแบบตกแต่งที่สร้างบรรยากาศอันน่าประทับใจ โดยเฉพาะธารน้ำตกไหลที่ให้ความรู้สึกชื่นใจตลอดเวลา

 

ทางร้านมีเมนูให้เลือกหลากหลายทั้งไทยและยุโรป คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี อยากจะบอกว่าอร่อยทุกเมนู แต่อยากให้ไปลองดูกันเองจะดีกว่า ที่ชอบมากคือ สเต็กเนื้อนุ่ม ๆ สปาเก็ตตี้มีทบอลรสเข้มข้น ยำวุ้นเส้นโบราณสำราญใจสุด ๆ เป็นต้น

Cafe Laura Bar & Restaurant นครนายก

ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก,

เปิดทุกวัน 09.00 -21.00 น.

โทร. 061 902 0918

Facebook/ ร้านอาหาร Cafe Laura Bar & Restaurant สาขา 3 นครนายก


7.Sreet Art นครนายก

นครนายกยามเย็น ต้องพากันไปเดินเล่นชม Street Art ในตัวเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีผลงานสวย ๆ อยู่บริเวณถนนเสนาพินิจ ซอย 1 ใกล้กับ “Monkey Art” ที่พักของเราในค่ำคืนนี้

ล่าสุดยังมีการรวมตัวของเหล่าศิลปินท้องถิ่น ทั้งหน้าเก๋าและหน้าใหม่ ร่วมใจกันสร้างผลงาน Street Art บริเวณ ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ ร9 เทศบาลนครนายก ทั้งบนกำแพงเลียบแม่น้ำ และบริเวณใกล้เคียง


8.สวนนพรัตน์ มะยงชิด มะปรางหวาน

เมื่อฤดูร้อนมาถึง นครนายกก็มีเรื่องให้คิดถึงกันอีกแล้ว กับความหอมสดชื่นของผลไม้ประจำถิ่น สินค้า GI นครนายก นั่นคือมะปรางหวาน และมะยงชิด

ทริปนี้เรามุ่งไปที่ “สวนนพรัตน์”​(ดาบนวย) ซึ่งเป็นสวนมะปรางและมะยงชิดขนาด 40 ไร่ ใช้เวลาปลูกมาแล้วกว่า 30 ปี และมีเคล็ดลับจากการใช้หลอดไฟให้แสงสว่างบำรุงผลผลิตให้ออกลูกดกงดงาม

ในสวนนพรัตน์มีการปลูกมะปรางและมะยงชิดอย่างเป็นระเบียบ เป็นอีกสถานที่ถ่ายรูปสวยในโทนสีธรรมชาติ วันนี้ยังได้ชมการปีนบันไดขึ้นไปเก็บมะยงชิด ใครอยากลองก็ต้องรับฟังคำแนะนำอย่างใกล้ชิด จากนั้นก็ชิมมะปรางหวาน และมะยงชิดสด ๆ กัน ก่อนจะอุดหนุนของดีเมืองนครนายกไปฝากคนที่บ้าน


9.จิบกาแฟบ้านเพื่อน รฤก โฮม คาเฟ่

“ร้านกาแฟที่จะมอบความอบอุ่น และยังคงจะอยู่ในความทรงจำให้ รฤก (ระลึก) ถึงกันตลอดไป” เป็นคอนเซ็ปต์อบอุ่นใจจากโฮมคาเฟ่น่ารักใจกลางเมืองนครนายก

รฤก Home Cafe ร.ศ.๒๔๒ – Ra Luek. (Ra Luek Home Cafe) เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ในบรรยากาศเป็นกันเอง จะเรียกว่าคาเฟ่หน้าบ้าน หรือคาเฟ่บ้านเพื่อนก็ไม่ผิดเพี้ยน

เมนูเครื่องดื่มของทางร้านจะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ มีการผสมผสานเสน่ห์แห่งท้องถิ่น พร้อมการสร้างสรรค์เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เช่น กับ “มัทฉะอู่หลงมะยงชิด” ซึ่งใช้มัทฉะไทยแท้จากจังหวัดเชียงราย กับมะยงชิด GI นครนายก “หอมรัญจวน” หรือลาเต้ขนมไทย “มัลลิกาโน่” หรืออเมริกาโน่น้ำลอยดอกมะลิ เป็นต้น

วันนี้ขอเลือกเติมความสดชื่นด้วย “มัทฉะฮันนี่เลมอน” ถูกใจสุด ๆในวันที่แดดจ้า ทางร้านยังมีแปลงเกษตรเล็ก ๆ สำหรับปลูกดอกไม้สำหรับการตกแต่ง สวยด้วย กินได้ ไร้สารเคมี

เห็นเป็นร้านเล็ก ๆ แต่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยอย่างพิถีพิถันกับเมนูขนมโฮมเมด อย่าง “ปานีปุรี”ของกินเล่นสไตล์อินเดีย “ขนมพระพาย” ขนมไทยชาววังโบราณ หาทานยาก เป็นขนมคู่งานมงคล ไส้ถั่วกวน หยอดด้วยกะทิราดหน้าก่อนรับประทาน รวมทั้งทองม้วนแม่พยุง(เจ้าเก่า) หอมกรอบอร่อย

รฤก โฮม คาเฟ่

ต.บ้านใหญ่ อ.เมืองนครนายก

(อยู่ในหมู่บ้านศิลาทอง เลี้ยวซ้ายปากซอย 1/2 ขับตรงเข้ามาเลยสนามกลางหมู่บ้านร้านอยู่เกือบท้ายซอย บ้านอยู่ตรงทางแยก หลังขวามือจะมีป้ายไม้ติดอยู่หน้ารั้วบ้าน)

เปิดให้บริการ 07.30 – 16.00 น.

หยุดทุกวันพฤหัสบดี

โทร. 061 268 9986


10.ครัวไฮโดร อาหารเพื่อสุขภาพ

แค่เห็นชื่อก็วางใจได้ สำหรับวัตถุดิบอาหารปลอดภัยจากฟาร์มไฮโดรปลอดสารพิษ นับเป็นร้านอาหารที่เน้นความสดสะอาดของวัตถุดิบ เน้นการกินผักกินปลาเพื่อสุขภาพ แต่ละเมนูเสิร์ฟมาแบบจานโตพร้อมผักสด ๆ

วันนี้ได้ลอง “เมี่ยงหมูหยอง” รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ห่อผักสด ๆ กรอบอร่อยมาก “ทอดมันปลากราย” เนื้อเหนียวแน่นหนุบหนับ “แกงป่าลูกชิ้นปลากราย” รสเข้มข้นกำลังดี “โครงแก้วสับคั่วกลิ้ง”หอมกรุ่นสมุนไพร “ป่นปลาทู” เมนูสุขภาพที่กินคู่กับผักสดได้อย่างลงตัว

ทางร้านยังมีผลผลิตต่าง ๆ วางจำหน่าย ทั้งผัดสด ๆ ผลไม้ตามฤดูกาล และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ

ครัวไฮโดร

ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก

เปิดทุกวัน เวลา 09.00 -21.00 น.

โทร. 037-615-469, 081-864-2995

(กรุณาโทรจองล่วงหน้า)


11.พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์

ออกจากครัวไฮโดรไปไม่ไกล แวะไปกันที่ “พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์” เป็นสวนธรรมจำลองบนพื้นที่ 84,800 ตารางเมตร ประดิษฐานพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาติโมกข์ตั้งเด่นเป็นสง่า ขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 13.5 เมตร บริเวณโดยรอบมีพระพุทธรูปจำนวน 1,250 องค์ ขนาดหน้าตัก 90 เซนติเมตร แสดงถึงวันจาตุรงคสันนิบาตหรือการชุมนุมใหญ่ในวันมาฆบูชา

พุทธอุทยานแห่งนี้สร้างขึ้นในโอกาสพุทธชยันตีครบ 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายในสวนพุทธชยันตีเป็นพื้นที่ที่โอบล้อมด้วยภูเขา และบริเวณใกล้เคียงยังมีศาลาปฏิบัติธรรม ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปของพระพุทธเจ้าอีก 28 องค์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครนายก

พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์

เปิดทุกวัน เวลา 08.00–18.00 น.

โทร. 08 0033 4488


12.ประตูแห่งกาลเวลา วัดเลขธรรมกิตติ์

ก่อนจะกลับเข้ากรุงเทพ แนะนำให้แวะไปที่ “วัดเลขธรรมกิตติ์” (เล-ขะ-ทำ-มะ-กิด) เดิมชื่อว่า “วัดบางอ้อนอก” จุดไฮไลต์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคนอยู่ที่ พระอุโบสถเก่าแก่ร้อยกว่าปี ที่ถูกปรกไปด้วยรากของต้นโพธิ์ ซึ่งอยู่ภายในตัววัด

พระอุโบสถแห่งนี้สร้างสมัยที่หลวงปู่นุชเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งที่ยังมีความสมบูรณ์ที่ซุ้มประตูกำแพงแก้วมีข้อความระบุไว้ว่า ร.ศ.127 ปัจจุบันโครงสร้างอิฐมีความทรุดโทรม เหลือเพียงซุ้มประตูและผนังด้านข้าง โดยมีรากไม้โอบรัดไว้เกิดเป็นภาพที่สวยงาม และซุ้มประตูด้านหน้ายังได้รับการขนานนามว่า “ประตูแห่งกาลเวลา”​

วัดเลขธรรมกิตติ์

ต.บางอ้อ อ.บ้านนา จ.นครนายก


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ททท. สำนักงานนครนายก (นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว)

โทร. 037 312 282

https://www.facebook.com/tatnayokfans