เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในเมียนมา โดยมีขนาด 7.4 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 21.682 องศาเหนือ และลองจิจูด 96.121 องศาตะวันออก ความลึกประมาณ 10 กิโลเมตร แผ่นดินไหวครั้งนี้สร้างความเสียหายรุนแรงในพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงมีการสั่นสะเทือนที่รับรู้ได้ถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร
ในเมียนมา แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวส่งผลให้อาคารหลายหลังในพื้นที่ใกล้ศูนย์กลางพังถล่ม มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตเมืองและชุมชนที่อยู่ใกล้ศูนย์กลาง ผู้คนจำนวนมากต้องอพยพออกจากบ้านเนื่องจากความไม่ปลอดภัย อาคารสำคัญและโครงสร้างพื้นฐานได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงระบบสาธารณูปโภคที่ถูกขัดขวาง เช่น ไฟฟ้าและน้ำประปา
ในกรุงเทพมหานครซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวหลายร้อยกิโลเมตร ก็ยังได้รับแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนส่งผลกระทบต่ออาคารสูงและโครงสร้างก่อสร้าง รายงานจากเขตจตุจักรระบุว่าอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้พังถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และมีผู้สูญหายถึง 43 คน นอกจากนี้ อาคารสูงหลายแห่งมีความเสี่ยงต่อการแตกร้าวหรือเสียหายเพิ่มเติม
ผลกระทบจากแผ่นดินไหวนี้ทำให้รัฐบาลของประเทศที่ได้รับผลกระทบต้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยทีมกู้ภัยได้เร่งค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่ยังติดอยู่ในอาคารที่ถล่มลงมา รวมถึงการจัดเตรียมที่พักชั่วคราวและการส่งเสบียงอาหารและน้ำให้แก่ผู้ประสบภัย ในประเทศไทย มีการเฝ้าระวังอาคารสูงอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม และให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการเตรียมตัวรับมือกรณีแผ่นดินไหวในอนาคต
แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่การมีมาตรการป้องกันที่ดีและการเตรียมความพร้อมสามารถลดผลกระทบจากเหตุการณ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารให้มีความแข็งแรงเพียงพอต่อแรงสั่นสะเทือน การให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีการเอาตัวรอดเมื่อเกิดเหตุ และการพัฒนาระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมต่อภัยธรรมชาติ และความจำเป็นในการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศในการรับมือกับวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยและสามารถฟื้นฟูชีวิตหลังเกิดเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ.