อย่าให้ความเคยชินมาทำลายโลก CHANGE!  เราเลิกกันเถอะ! พลาสติก   

187

แต่ละปีมีปริมาณขยะพลาสติกพบเป็นขยะอยู่ในทะเลมากถึง 13 ล้านตัน ซึ่งประเทศไทยทิ้งขยะลงทะเลสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ทำให้สัตว์น้ำตายมากถึงปีละ 1 ล้านตัว ดังนั้นขยะประเภทพลาสติกจึงเป็นปัญหาใหญ่ระดับสากล เพราะเป็นขยะที่มีปริมาณต้นๆ ของโลก จึงเป็นประเด็นที่ทุกคนกำลังจับตามอง อีกทั้งยังเป็นแนวคิดของงานสัปดาห์สิ่งแวดล้อมโลก 2018  “Beat Plastic Pollution” ที่มุ่งเน้นรณรงค์ลดการใช้พลาสติก จากความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งตัวผู้บริโภคเอง

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มเซ็นทรัล ได้ผนึกกำลังร่วมกับ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สหภาพยุโรป ประกาศเจตนารมณ์เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน  ด้วยแนวคิด Beat Plastic Pollution รักษ์โลก ลดพลาสติก” ในงานสัปดาห์สิ่งแวดล้อมโลก 2018  World Environment Day 2018 ด้วยเป้าหมายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ภายใต้โครงการ CHANGE!: Change your behavior, Change your mind   พร้อมเครือข่ายความร่วมมือจากหลายภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมงาน

ฯพณฯ เพิร์คกา ทาปิโอลา เอกอัครราชทูต ผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย กล่าวในงานนี้ว่า “สหภาพยุโรปได้ดำเนินการตามขั้นตอนสำคัญ ในการลดการปล่อยกากพลาสติกจนกลายเป็นเศษขยะทางทะเล และได้ลดการใช้ถุงพลาสติกในประเทศสมาชิกหลายแห่งด้วยข้อกำหนดด้านถุงพลาสติก นอกจากนี้ เราต้องการรวมพลาสติกรีไซเคิลจำนวน 10 ล้านตัน มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายในปี พ.ศ. 2565  เราได้ร่วมมือกับหน่วยงานในระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่น ที่สามารถมีบทบาทในการจัดการของเสียเพื่อให้การรีไซเคิลมีประสิทธิภาพสูงขึ้น”

ด้าน ดร.อิสซาเบล ลูอิส รองผู้อำนวยการและผู้แทนโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ แห่งเอเชียและแปซิฟิก กล่าวในโอกาสเดียวกันว่า  “พลาสติกมีประโยชน์ในชีวิตประจำวันมาก  เราจึงมีการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งมากตามไปด้วย เรามีความต้องการให้ทุกคนตระหนักว่า เราต่างมีส่วนร่วมในการสร้างปัญหามลภาวะพลาสติก และเราก็สามารถแก้ไขปัญหามลภาวะพลาสติกได้ ดั่งคำวลีที่กล่าวว่า ถ้าคุณไม่สามารถนำมันกลับมาใช้ใหม่ คุณควรปฎิเสธการใช้มัน (If you can’t reuse it, refuse it)”

ขณะที่ ศ.กิตติคุณ ดร.สุทธิพันธ์ จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ได้ใช้โอกาสนี้เปิดเผยถึงรายละเอียดของโครงการ CHANGE! ว่า “กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญกับการมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด 70 กว่าปี  ได้จดทะเบียนมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ปี 2545  มีการลงนามบันทึกความร่วมมือ ยกเลิกการใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำ เมื่อต้นปีนี้ และลงนามบันทึกความร่วมมือสนับสนุนการขับเคลื่อน โครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เพื่อการจัดการปัญหาขยะ และพลาสติกอย่างยั่งยืน ในงานสัปดาห์วันสิ่งแวดล้อมโลกปีนี้ด้วย

อุโมงค์ทางเข้าเพื่อสื่อถึงโลกใต้ทะเลที่มีขยะพลาสติกอยู่แทนหมู่ปลา

ส่วนนโยบายการลดปริมาณพลาสติกในปีนี้ ด้วยแนวคิดของงานสัปดาห์สิ่งแวดล้อมโลก 2018 คือ Beat Plastic Pollution เน้นรณรงค์ลดการใช้พลาสติก โดยเฉพาะพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง (single use plastic) เช่น หลอดพลาสติก, ถุงพลาสติก และขวดน้ำ ซึ่งพบว่าทั่วโลกมีการใช้ถุงพลาสติก 500,000 ล้านใบต่อปี โดยคนไทยใช้ถุงพลาติก 8 ใบต่อวัน ขณะที่ชาวยุโรปใช้เพียง 5 ใบต่อเดือน แต่ละปีมีปริมาณขยะพลาสติกพบเป็นขยะอยู่ในทะเลมากถึง 13 ล้านตัน ซึ่งประเทศไทยทิ้งขยะลงทะเลสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ทำให้สัตว์น้ำตายมากถึงปีละ 1 ล้านตัว

ผลิตภัณฑ์ที่มาจำหน่ายภายในงาน

กลุ่มเซ็นทรัล จึงมีเป้าหมายในการสร้างความตระหนักรู้ให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ภายใต้แนวคิด CHANGE ! : Change your behavior, Change your mind ด้วยการเริ่มต้นจากบุคลากรภายในองค์กร  ขยายสู่สังคมส่วนรวม  ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัล เป็นองค์กรค้าปลีกแห่งแรกของไทย  ที่ริเริ่มแคมเปญลดการใช้ถุงพลาสติก-ถุงกระดาษ “NO BAG NO BAHT” อย่างจริงจัง ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี  2551 จนถึงปัจจุบัน มีอัตราการใช้ถุงพลาสติก ลดลงถึง 13 ล้านใบ  คิดเป็น 31 % อีกทั้งยังใช้ถุงพลาสติกชีวภาพ หรือ Bio Degradable Bag ที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติภายใน 1 ปีแทนถุงพลาสติกแบบเดิม มาตั้งแต่ปี 2557 และมีนโยบายจะประกาศรณรงค์ยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกภายในห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัลต่อไป

นอกจากนั้น กลุ่มเซ็นทรัล ยังริเริ่มโครงการนำขวดพลาสติกที่ใช้แล้วมาเพิ่มมูลค่า ผ่านเครื่องรับซื้อขวดอัตโนมัติ Goes Green รับแต้มนำไปใช้เป็นส่วนลดจากร้านค้าในเครือเซ็นทรัล  ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มติดตั้งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีจำนวนขวดพลาสติกที่นำมาแลกคูปองถึง  21,843 ขวด ซึ่งในงานสัปดาห์สิ่งแวดล้อมโลกปีนี้   ได้นำเครื่องนี้มาจัดแสดงและให้ใช้งานได้ที่บูธ เซ็นทรัลทำ”

ส่วนกลุ่มธุรกิจโรงแรมในเครือเซ็นทารานั้น มีการเปลี่ยน Laundry Bag, Shopping bag และ  Beach bag จากถุงพลาสติกเป็นถุงผ้าและถุงสปันบอล เปลี่ยนขวดน้ำพลาสติกเป็นขวดแก้วในห้องพักแขก ไม่ใช้ถุงขยะดำในห้องพักแขก ลดการใช้หลอดพลาสติกจะเปลี่ยนเป็นหลอดกระดาษแทน  ติดตั้งที่กดแชมพูและสบู่ในรีสอร์ทแทนขวดพลาสติก

ภายในงาน  ยังมีการเสวนาเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อม หัวข้อ เลิกพลาสติกแล้วใช้อะไรแทน” โดย คุณอเล็กซ์ เรนเดลล์ ดารารักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้ร่วมก่อตั้ง EEC Thailand, คุณสินชัย เทียนศิริ ผอ.สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรม คุณเอกดนัย วงษ์วัฒนะ ผู้ประสานงานโครงการมหาวิทยาลัยยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณวีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ www.gracz.co.th

พลาสติกที่ถูกทิ้ง และทุ่นลอยน้ำ ขยะจากทะเล (เกาะอาดังราวี เกาหลีเป๊ะ จ.สตูล) ที่นำมาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปรรูปให้มีสีสัน สะท้อนปัญหาว่าขยะในโลกนี้มีมากแค่ไหน

สำหรับกิจกรรมในงานสัปดาห์สิ่งแวดล้อมโลก World Environment Day 2018 ระหว่างวันที่ 5 – 7 มิถุนายน ที่ลานอีเดน 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นั้น ประกอบด้วยนิทรรศการและกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด Beat Plastic Pollution เน้นรณรงค์ลดการใช้พลาสติก โดยเฉพาะพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง (single use plastic) เช่น หลอดพลาสติก, ถุงพลาสติก และขวดน้ำ เพื่อให้เห็นถึงผลกระทบของขยะในทะเล มีการติดตั้งอุโมงค์ทางเข้าเพื่อสื่อถึงโลกใต้ทะเลที่มีขยะพลาสติกอยู่แทนหมู่ปลา และ VR วีดีโอจำลองความรู้สึกให้เหมือนอยู่ในเรือดำน้ำและสำรวจสภาพใต้มหาสมุทรที่เต็มไปด้วยขยะพลาสติก

อีกทั้งยังมีบูธนิทรรศการด้านสิ่งแวดล้อมจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ การกำจัดขยะของ กทม., การสนับสนุนดื่มน้ำประปา ของการประปานครหลวง, การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากวัสดุพลาสติกเหลือใช้และกล่องนมยูเอชที, โครงการความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกและจัดการทรัพยากรพลาสติกเหลือใช้ และมีการทำเวิร์คช้อป Workshop การทำสิ่งประดิษฐ์กระเป๋าถือ,ผ้าพันคอ จากเชือกอวนใช้แล้ว

กรุงเทพ ณ เวลานี้

ทั้งนี้ยังมีงานผลงานศิลปะขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชื่อผลงานว่า กรุงเทพ ณ เวลานี้”   (A BANGKOK MINUTE) ผลงานสร้างสรรค์โดยนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (INDA) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  สรรสร้างจากจากถุงพลาสติกใช้แล้ว กว่า 50,000 ชิ้น ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทย สะท้อนถึงปริมาณการใช้ถุงพลาสติกภายในเวลาเพียง 1 นาทีของคนในกรุงเทพ ซึ่งทั่วโลกก็ได้จัดทำประติมากรรม ภายใต้แนวคิด Beat Plastic Pollution “รักษ์โลก เลิกพลาสติก” เพื่อรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเช่นกัน

ด้านในของ กรุงเทพ ณ เวลานี้

นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการเริ่มต้นว่า ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการลดและเลิกการใช้พลาสติก ด้วยการใช้วัสดุทดแทนได้อีกหลายอย่าง เช่น การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก ใช้หลอดซิลิโคนที่ใช้แล้วสามารถล้างทำความสะอาดแล้วนำกลับใช้อีกได้แทนหลอดพลาสติก การชงชาจากใบชาโดยตรง การใช้แก้วกาแฟแทนแก้วพลาสติก การมีกล่องอาหารส่วนตัวแทนการใช้กล่องโฟม ฯลฯ

ข้อมูลจากองค์การอนุรักษท้องทะเล (Ocean Conservancy) ได้จัดอันดับขยะที่พบปริมาณมากที่สุดในรอบ 25 ปี ซึ่งทั้งหมดรวมกันเป็น 80% จากขยะทั่วโลก พบว่า ที่มีมากที่สุดคือ ก้นบุหรี่ 32% ห่อและซองพลาสติก 9% ฝาขวดพลาสติก 8% ขวดพลาสติก 6% ภาชนะบรรจุอาหาร 6% ถุงพลาสติก 5% ขวดแก้ว 4% กระป๋อง 4%  หลอดดูดน้ำ 4% และ เชือก 2% จะเห็นได้ว่า พลาสติกคือกลุ่มขยะหลักๆ ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของโลก

เราอาจจะมองไม่เห็นถึงปัญหาของขยะพลาสติกได้อย่างชัดเจน หลายคนอาจจะรู้เพียงว่า มันคือขยะที่ต้องใช้เวลาและงบประมาณในการกำจัด แต่รู้ไหมว่า ขยะพลาสติกที่ออกสู่ท้องทะเล เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาต่างๆ เพราะเมื่อพลาสติกเหล่านี้ถูกกระแสคลื่นกระแสน้ำนานวันเข้า ก็จะกลายเป็น พลาสติกชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือ “ไมโครพลาสติก” (Microplastic) ที่สิ่งมีชีวิตในน้ำกลืนลงไปและทำให้เสียชีวิตได้ ท้ายสุด พวกกุ้งหอย ปู ปลา ที่เรานำมาบริโภค ก็จะมีส่วนไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายด้วย

หากมองกันจริงๆ แล้วเราใช้พลาสติกกันแบบสิ้นเปลืองโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว วันๆ หนึ่งเราเข้าออกร้านสะดวกซื้อ ซื้อกาแฟ กินข้าวกล่องร้านตามสั่ง  โดยไม่ได้นึกถึงปัญหาหรือผลกระทบที่จะตามมา ดังนั้นก็อยากจะเชิญชวนกันตั้งแต่วันนี้ ร่วมกันเปลี่ยน CHANGE!  ลด ละ เลิก การใช้พลาสติก เพื่อลดผลกระทบอีกมหาศาลที่จะตามมา และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีในวันข้างหน้าของลูกหลานเราเอง