สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล ได้รับรางวัลระบบมาตรฐานการจัดการด้านอาชีว อนามัย และความปลอดภัย (OHSAS 18001:2007) ประเภทธุรกิจสวนสนุกและสวนน้ำ ประจำปี 2561 เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย
สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน ที่สุดของสวนน้ำระดับโลก ที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด “วอเตอร์ จังเกิ้ล” แห่งแรกในเอเชีย บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ใจกลางหัวหิน ที่รวบรวมสุดยอดความบันเทิงสำหรับครอบครัวและกิจกรรมไลฟ์สไตล์นานาชนิดไว้อย่างครบครัน พร้อมเครื่องเล่นมาตรฐานระดับโลกกว่า 20 ชนิด ล่าสุดได้รับรางวัล OHSAS 18001:2007 หรือ รางวัลระบบมาตรฐานการจัดการด้านชีวอนามัย และความปลอดภัย ในประเภทธุรกิจสวนสนุกและสวนน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ประจำปี 2561 จากบริษัท UIC Certification Service ผู้ให้บริการตรวจประเมินมาตรฐานสากล ISO และให้การรับรองระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากล
นายนฐา ชมเสวี ผู้จัดการทั่วไป สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน กล่าวว่า “เราดำเนินธุรกิจภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด ซึ่งมีความมุ่งมั่น และให้ความสำคัญอย่างจริงจังที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือข้อกำหนดอื่นๆที่องค์กรเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย การให้บริการ และมาตรฐานของเครื่องเล่นทุกชนิดที่อยู่ภายในสวนน้ำเป็นอันดับแรก ภายใต้สโลแกนที่ว่า “BE VANA, BE SAFE” อีกทั้งยังเป็นสวนน้ำแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้หลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยตามแบบสากล ด้วยการมีเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดมากถึง 160 คน ที่ผ่านการรับรองโดยบริษัท เอลลิส แอนด์ แอสโซซิเอท (Ellis & Associates) จากสหรัฐอเมริกา คอยประจำดูแลลูกค้าอยู่ทุกโซน ซึ่งที่ผ่านมา สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน ได้ดำเนินการตามระบบ ระเบียบและมาตรฐานต่างๆตามข้อกำหนดของ OSASH 18001 โดยใช้ระยะเวลาในการประเมิน ตรวจสอบในทุกๆมิติตั้งแต่ปี 2560 เป็นระยะเวลารวม 1 ปีเต็ม ดังนั้นรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยตอกย้ำว่าสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน มีมาตรฐานเรื่องความปลอดภัยอย่างสูงสุดแล้ว ยังถือเป็นการช่วยสร้างภาพลักษณ์ และเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เข้าใช้บริการที่สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยรางวัลดังกล่าวจะถูกประเมินอีกครั้งภายในระยะเวลา 3 ปี”
OHSAS ย่อมาจาก “Occupational Health and Safety Assessment Series” เป็นข้อกำหนดเฉพาะสำหรับระบบการจัดการทางด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยมีการร่วมมือพัฒนาระบบการจัดการดังกล่าวระหว่างหน่วยงานตรวจรับรองระบบงาน และองค์การมาตรฐาน
ระดับประเทศ รวมถึงองค์การอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อที่จะทำให้องค์การที่นำข้อกำหนดไปปฏิบัติสามารถจัดการทางด้านความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และปรับปรุงการปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยข้อกำหนดดังกล่าวยังถือเป็นแนวทางการดำเนินงานซึ่งครอบคลุมถึงปัญหาทางด้านสุขภาพและความปลอดภัยของกิจกรรมการทำงาน รวมทั้งมีการกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ การลดความเสี่ยง และชีวิตการทำงานของพนักงานและลูกค้าที่มาใช้บริการ ให้ได้รับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย