ด้วยความละเมียดละไม ความงามอันทรงคุณค่าของศิลปะชั้นสูงอย่างเบญจรงค์ ทำให้ที่ผ่านมา งานศิลปะหัตถกรรมประเภทนี้ นิยมใช้ในโอกาสสำคัญ หรือเพื่อการสะสม ของขวัญ และการตั้งโชว์ แต่วันนี้แนวคิดของเบญจรงค์ไทย ที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ได้เกิดขึ้นแล้ว ด้วยภารกิจของ SACICT ในการสืบสาน ต่อยอด และพัฒนา งานศิลปหัตถกรรมไทย ให้คงอยู่ พร้อมการขยายตลาดในเชิงพาณิชย์
ล่าสุด ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT จัดกิจกรรมเปิดตัวผลงานเบญจรงค์ไทยในมุมมองใหม่ ปีที่ 2 (SACICT Signature Collection 2018) เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เบญจรงค์ของไทยสามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันในแบบ Today’s Life Crafts และเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ – 9 กันยายน 2561 ที่อาคารดูจิตแล้วอะไรก็ช่าง/ ช่างชุ่ย
คุณแสงระวี สิงหวิบูลย์ รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า “เบญจรงค์” เป็นงานศิลปหัตถกรรมไทยชั้นสูงที่เปี่ยมด้วยเรื่องราวและคติความเชื่อที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยในแต่ละยุคสมัยมายาวนาน และจากความสำเร็จของ SACICT Signature Collection ในปีที่ผ่านมา ที่มุ่งเน้นการนำแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์ควบคู่กับการต่อยอดเชิงพาณิชย์ เพื่อให้เบญจรงค์ของไทยสามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันในแบบ Today’s Life Crafts
ในปีนี้ SACICT ได้ดำเนินโครงการโดยเน้น 3 หัวข้อหลัก คือ การสร้างความตระหนักในคุณค่าของเบญจรงค์ การพัฒนารูปแบบเบญจรงค์เพื่อตอบสนองการใช้งานในวิถีชีวิตปัจจุบัน และการเชื่อมโยงเครือข่ายเบญจรงค์ไทยสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ เรายังมุ่งเน้นสร้างความภูมิใจในการพัฒนาเบญจรงค์ไทยให้มีความยั่งยืน ทั้งยังคงรักษาเอกลักษณ์บนความประณีตงดงามผสมผสานความร่วมสมัย เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตปัจจุบันได้อย่างลงตัว
SACICT Signature Collection 2018 เป็นการทำงานร่วมกันของ 11 ชุมชนช่างเบญจรงค์และทายาทช่างศิลปหัตถกรรมเครื่องเบญจรงค์ชื่อดังจากทั่วประเทศ ได้แก่ อุไร แตงเอี่ยม จาก อุไร เบญจรงค์ บ้านดอนไก่ดี (สมุทรสาคร) แดงเบญจรงค์ บ้านดอนไก่ดี (สมุทรสาคร) บ้านเบญจรงค์ แกลเลอรี (มหาสารคาม) ศ.หลังสวนเบญรงค์ (ชุมพร) กันตะเบญจรงค์ (สมุทรสาคร) ศรีกุญชรเบญจรงค์ (สมุทรสงคราม) บ้านเบญจรงค์บางช้าง (สมุทรสงคราม) บุญญารัตน์เบญจรงค์ (กรุงเทพฯ) และไทยเบญจรงค์ (ชลบุรี) ภายใต้การออกแบบของ 6 ดีไซเนอร์ไทย ได้แก่ เอ็มโซเฟียน เบญจเมธา, ธนวัฒน์ คล่องวิชา, ประพันธ์พงษ์ สุขแสวง, กมลชนก ภาณุเวศย์, วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ และ กรกต อารมณ์ดี โดยผลงานทั้ง 11 คอลเล็กชั่นจะนำมาจัดแสดงใน 6 แนวคิด ดังนี้
- Memoires: ผลงานของคุณพนิดา แต้มจันทร์ กลุ่ม ศ.หลังสวนเบญจรงค์ (ครูช่างศิลปหัตถกรรมปี 2557) ออกแบบโดยคุณเอ็มโซเฟียน เบญจเมธา ภายใต้แนวคิด “บทสนทนาระหว่างหน่วยทรงจำในรากเหง้า” การโคจรมาพบกันระหว่างรากแห่งวิถีศิลปหัตถกรรมและวัฒนธรรมต่างถิ่น อย่างการนำดินปั้นเบญจเมธาจากปัตตานีมาผสมผสานเข้ากับเบญจรงค์ไทยสายเลือดชุมพร ก่อเกิดสัมพันธภาพ ความงามระหว่างเส้นสายรูปทรง และจารีตที่กลมกลืน
- To be continued: ผลงานของคุณรัชนี ทองเพ็ญ (แดงเบญจรงค์) และคุณวิรัช ทะไตรเนตร (บ้านเบญจรงค์แกลเลอรี) ออกแบบโดยคุณธนวัฒน์ คล่องวิชา ภายใต้แนวคิด “โปรดติดตามตอนต่อไป” ผ่านเรื่องเล่าจากรุ่นสู่รุ่น เปรียบเทียบเบญจรงค์ไทยเป็นของที่ระลึกและของแต่งบ้าน ผ่านบทสนทนาของคนในแต่ละยุคสมัย เชื่อมโยงเข้าสู่วิถีชีวิตปัจจุบันที่เบญจรงค์สอดประสานเข้ากับวิถีชีวิตประจำวันอย่างไม่ขัดเขิน
- Blooming : ผลงานของคุณบุญญารัตน์ ลิ้มวัชราวงศ์ (บุญญารัตน์เบญจรงค์) ออกแบบโดยคุณประพันธ์พงษ์ สุขแสวง ภายใต้แนวคิดในการนำเสนอความหลงใหลที่มีต่อลวดลายไทยที่มี “ดอกไม้” เป็นองค์ประกอบ เช่น ลายจักรี ลายพิกุล และลายบัวสวรรค์ หยิบยกมาตีความใหม่ให้เป็นลวดลายที่มีความร่วมสมัย เพื่อให้เกิดมุมมองที่แตกต่างในการนำเสนอเบญจรงค์ไทยสู่ความเป็นสากล
- The new experiment : ผลงานของคุณนุชสรา-สิทธิพงษ์ อ่อนเทศ (กันตะเบญจรงค์) ออกแบบโดยคุณกมลชนก ภาณุเวศย์ ภายใต้แนวคิดที่เกิดจากการศึกษาประวัติศาสตร์และรูปแบบของเบญจรงค์ไทย ไม่ว่าจะเป็น แพทเทิร์น จังหวะ และการซ้ำในลวดลาย นำมาปรับใช้กับการออกแบบที่เชื่อมโยงสู่วิถีชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่มากขึ้น
- Tableware: ผลงานของคุณณัฐภาวรรณย์ แตงเอี่ยม (ทายาทช่างศิลปหัตถกรรมปี 2558) คุณธนวรรธน์ ชยุทวาณิชกุล (บ้านเบญจรงค์บางช้าง) เครื่องเคลือบศิลาดล และ คุณจิระพงษ์ เดชรัตน์ (เบญจรงค์เซราพอน) ออกแบบโดยคุณกรกต อารมณ์ดี ภายใต้แนวคิดในการเปลี่ยนบริบทของเบญจรงค์จากที่เคยเป็นของขวัญและของชำร่วย นำมาออกแบบเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีความแปลกใหม่และร่วมสมัย
- จุดเริ่มของเบญจรงค์ : ผลงานของคุณหัสยา ปรีชารัตน์ (ไทยเบญจรงค์) ทายาทช่างศิลปหัตถกรรมปี 2560 คุณสรัญญา สายศรี ทายาทช่างศิลปหัตถกรรมปี 2557 และคุณพิษณุ แก้วกุญชร (ศรีกุญชรเบญจรงค์) ภายใต้แนวคิดจุดเริ่มของ “เบญจรงค์” ที่ได้รับการบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของเมืองไทย ผ่านการจำลองการเดินทางขอเบญจรงค์ในสมัยอยุธยา เพื่อนำเสนอเป็นผลงานหลากชุดที่เล่นสนุกกับการทำงานดินเผาที่แตกต่างจากวัสดุอื่นๆ กรรมวิธีการทำ และนำไปสู่เบญจรงค์ไทยยุคใหม่ที่น่าสนใจมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก ‘คุณเพ็ญศิริ ปันยารชุน’ ผู้จัดการสายงานยุทธศาสตร์ SACICT ‘คุณสมชัย ส่งวัฒนา’ Imaginator ช่างชุ่ย ครีเอทีฟ ปาร์ค ‘คุณศักดิ์ชัย กาย’ ประธานกรรมการบริหาร/ บรรณาธิการอำนวยการนิตยสารลิปส์ ‘คุณณภาภรณ์ โพธิรัตนังกูร’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมบัติเลิศ จำกัด ร่วมชมนิทรรศการ
ภายในงานยังจัดให้มีกิจกรรมเชื่อมโยงสู่วิถีชีวิตของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 ช่วง เริ่มต้นด้วยกิจกรรม “Cooking with Craft” ตื่นตาเพลินใจไปกับการตกแต่งอาหารด้วยเบญจรงค์ไทยในแบบ Eat meet Art โดย ‘คุณก้อง’ โกสินธุ์ วัฒกีเจริญ เจ้าของร้าน “Dijaras” (ดิษจรัส) ที่ร่วมครีเอตเมนูให้เข้ากับเครื่องเบญจรงค์ของไทย ผ่านฝีมือการปรุงอาหารของ ‘คุณวอร์ม’ กฤตพรต ก๋าแก้ว และ ‘ก้อย’ จันทร์รัตน์ ตั้งกุลพานิชย์ เชฟชื่อดังจากร้าน “หย่อนญาณ” ปิดท้ายด้วยบรรยากาศผ่อนคลายไปกับการจิบกาแฟยามบ่ายในแบบศิลปะลาเต้ (Latte Art) ในเบญจรงค์ โดยคุณสุเมธ พัฒนเกรียงไกร ณ ร้าน The’ Tea House
SACICT Signature Collection 2018 พร้อมให้คนไทยได้สัมผัสกับนิยามใหม่ของเบญจรงค์ไทยได้ตั้งแต่วันที่ 6-9 กันยายน 2561 ณ อาคารดูจิตแล้ว อะไรก็ช่าง ช่างชุ่ย ถ.สิริธรกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น. (หยุดทำการทุกวันพุธ) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1289 หรือ www.facebook.com/sacict