เป๊ปซี่โค ชวนคนไทยดูแลสุขภาพหัวใจเนื่องในวันหัวใจโลก

52

เป๊ปซี่โค ชวนคนไทยดูแลสุขภาพหัวใจเนื่องในวันหัวใจโลก พร้อมส่งเสริมการบริโภค “ข้าวโอ๊ตเควกเกอร์” ธัญพืชมากคุณประโยชน์ที่ดีต่อหัวใจ

“หัวใจ” ถือเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ เนื่องจากคอยทำหน้าที่สูบฉีดเลือดเพื่อไปหล่อเลี้ยงระบบต่างๆ ทั่วทั้งร่างกาย โดยนำออกซิเจนจากปอดไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ และนำคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งหัวใจจะทำหน้าที่เช่นนี้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีหยุดพักแม้ยามหลับ ดังนั้น การดูแลรักษาสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีส่วนช่วยทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ซึ่งจะยืดอายุให้กับพวกเราทุกคน

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดกลายเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของคนทั่วโลก* โดยปี พ.ศ. 2558 มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดประมาณ 17.7 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 31 ของอัตราการตายทั่วโลก ขณะที่ในประเทศไทยเอง สถิติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2559 มีอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดถึง 32.3 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน อันมีสาเหตุมาจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อาทิ การมีภาวะความดันโลหิตสูง การมีภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ การไม่ออกกำลังกาย การไม่บริโภคผักและผลไม้ การสูบบุหรี่ รวมไปถึงภาวะความเครียด

เนื่องในโอกาสวันหัวใจโลก (World Heart Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 29 กันยายนของทุกปี ในปีนี้ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือเป๊ปซี่โค เจ้าของแบรนด์ “เควกเกอร์” (Quaker) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวโอ๊ตอันดับหนึ่งของโลก จึงได้จัดงาน “PepsiCo: Happy Healthy Heart #ดีต่อใจคนไทยแข็งแรง” ขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในเรื่อง หัวใจและส่งเสริมให้คนไทยหันมาใส่ใจกับการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้ห่างไกลจากโรคหัวใจและหลอดเลือด พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ข้าวโอ๊ตซึ่งเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

นายเคิร์ท พรีชอว์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “การจัดงาน PepsiCo: Happy Healthy Heart ในวันนี้ถือเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ของบริษัทเป๊ปซี่โคที่มุ่งดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้นโยบายที่เรียกว่า Performance with Purpose โดยหนึ่งในพันธกิจหลักของเรา คือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างผลิตภัณฑ์ข้าวโอ๊ตเควกเกอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ข้าวโอ๊ตอันดับหนึ่งของโลก ด้วยคุณประโยชน์มากมายที่มาจากสารอาหารประเภทต่างๆ รวมถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นในการช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ทำให้แบรนด์เควกเกอร์ได้รับความนิยมและไว้วางใจไปทั่วโลกมากว่า 140 ปี และเราเชื่อว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการนี้จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงให้กับคนไทยได้”

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป๊ปซี่โคได้รับความร่วมมือจาก มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมี พ.ญ. ปิยะนุช รักพาณิชย์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูหัวใจ ที่มาร่วมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์โรคหัวใจในปัจจุบัน ตลอดจนสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งยังได้แนะนำวิธีการดูแลสุขภาพหัวใจภายใต้ “หลัก 3 อ. ดีต่อใจ” โดยได้อธิบายว่า “เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยฯ จึงได้รณรงค์ให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำรงชีวิตโดยยึดหลัก 3 อ. อันได้แก่ 1) อาหาร โดยควรรับประทานอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ ลดความหวานมันเค็มลง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวหรือไขมันทรานส์ และเพิ่มการรับประทานผักและผลไม้อย่างสม่ำเสมอ 2) ออกกำลังกาย ครั้งละ 25 – 30 นาที อย่างน้อย 3 – 5 วันต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและสร้างภูมิคุ้มกันโรค และ 3) อารมณ์ ด้วยการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็น งานอดิเรก ดนตรีบำบัด การทำสมาธิ หรือแม้แต่การหัวเราะ ซึ่งช่วยลดฮอร์โมนความเครียด ลดภาวะการอักเสบในหลอดเลือด ทั้งยังทำให้จิตใจผ่องใสเบิกบานและมีอายุยืนยาว”

ภายใต้หลัก 3 อ. ดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอย่าง ดร. กิตติพร พันธุ์วิจิตรศิริ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและโภชนาการ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ยังได้กล่าวเสริมถึงการรับประทานข้าวโอ๊ตซึ่งเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจว่า “ข้าวโอ๊ต ถือเป็นธัญพืชชนิดไม่ขัดสีที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน วิตามินบี 1 ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม สังกะสี และเหล็ก ซึ่งมีปริมาณมากกว่าเมื่อเทียบกับธัญพืชชนิดอื่นๆ อย่างข้าวกล้อง ข้าวสาลี หรือข้าวขาว ข้าวโอ๊ตยังมีส่วนประกอบของไฟเบอร์หรือไยอาหาร เมื่อรับประทานแล้วจะอยู่ท้อง อิ่มนาน และมีส่วนช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ที่สำคัญที่สุด คือ ข้าวโอ๊ตเป็นแหล่งของไฟเบอร์ประเภทละลายน้ำได้ที่ชื่อว่า เบต้ากลูแคน ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย อันเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น หากรับประทานข้าวโอ๊ตทุกวันๆ ละ 1 – 2 มื้อ อย่างน้อย 6 – 12 สัปดาห์ต่อเนื่อง ก็จะช่วยทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลดลงได้”