ANYTIME FITNESS ขยายสาขาสู่อัมรินทร์พลาซ่า

65

Anytime Fitness กำลังเติบโตและขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศไทย จากจุดเริ่มต้นในกรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้มีสาขาที่เปิดให้บริการทั้งหมด 4 สาขาและกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในเร็วๆ นี้ ด้วยความตั้งใจของ Anytime Fitness ที่พร้อมจะทลายทุกข้อจำกัดเพื่อนำทุกคนไปสู่การมีสุขภาพที่ดี

ด้วยภารกิจแน่วแน่ที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมการออกกำลังกายในประเทศไทยด้วยรูปแบบธุรกิจฟิตเนสที่ทันสมัย มีความสะดวกสบาย และเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคหลักของคนส่วนใหญ่ที่ไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย และด้วยเป้าหมายในการสร้างฟิตเนสที่พร้อมให้บริการในทุกๆ แห่ง ทำให้ปัจจุบัน Anytime Fitness มีข้อได้เปรียบจากการเข้าถึงในทุกพื้นที่ชุมชนของกรุงเทพมหานคร รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศไทยเร็วๆ นี้

4 คลับในปัจจุบัน และกำลังเปิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ด้วยจำนวนคลับที่เปิดให้บริการในขณะนี้ ทั้งหมด 4 สาขาได้แก่ ลุมพินี (Lumphini), เควิลเลจ (K Village), ปากเกร็ด (Pakkred) และ นางลิ้นจี่ (Nanglinchee Market Place Mall) และเร็วๆ นี้จะเปิดให้บริการเพิ่มที่ อัมรินทร์พลาซ่า (Amarin Plaza) นอกจากนี้ Anytime Fitness ยังช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการนำทุกคนไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ซึ่งแตกต่างกับยิมทั่วไป Anytime Fitness ให้ประสบการณ์ที่คุ้มค่าและเรียบง่ายแก่สมาชิกทุกคน โดยในแต่ละยิมจะมีอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดพร้อมกับการให้ความช่วยเหลือโดยที่ลูกค้าไม่ต้องเผชิญความกดดันในการถูกขายคอร์สหรืออัพเกรดราคาสมาชิกเพิ่มเติมเพื่อใช้บริการพิเศษต่างๆ รวมไปถึงการออกกำลังกายแบบคลาสเป็นกลุ่มที่สมาชิกทุกคนสามารถเข้ามาใช้บริการได้ฟรีอีกด้วย

Anytime Fitness เป็นสถานที่ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมทุกด้านโดยมุ่งเน้นการสนับสนุนให้คนไทยบรรลุเป้าหมายในด้านการออกกำลังกายของแต่ละคน ด้วยอุปกรณ์ที่มีคุณภาพระดับโลก ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของบุคลากร และการต้อนรับด้วยบรรยากาศที่แสนอบอุ่นแบบไทยๆ ในราคาย่อมเยาสบายกระเป๋า

พร้อมกันนี้ทั้ง 4 สโมสรมีพนักงานที่เป็นมิตรคอยให้การช่วยเหลือและคำแนะนำแก่เหล่าสมาชิกทุกคน ทำให้พวกเขารู้สึกดีกับสังคมหรือชุมชนที่เกิดขึ้นภายในยิม ซึ่งสมาชิกแต่ละคนจะสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่ดีและความเป็นหนึ่งเดียวได้ตั้งแต่เริ่มก้าวเท้าเข้ามาที่ประตูของ Anytime Fitness

ในขณะที่กรุงเทพมหานครมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง การขยายธุรกิจไปยังเขตปริมณฑลและนอกเมืองย่อมที่จะเป็นไปได้ในอนาคต เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้การดูแลของ Anytime Fitness Asia (เอเชีย) เป้าหมายของเราคือการขยายธุรกิจไปทั่วประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่คนส่วนใหญ่คาดไม่ถึง

อนาคตของ ANYTIME FITNESS

เว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Inc.com ได้ยกย่องให้ Anytime Fitness เป็น “แฟรนไชส์ฟิตเนสที่เติบโตเร็วที่สุด” ซึ่งหลังการก่อตั้งในปี 2002 ที่ผ่านมา Anytime Fitness ใช้เวลาเพียง 16 ปี สู่การมีโรงยิมมากถึง 4,000 แห่งทั่วโลก มีบริษัทอื่นเพียงแห่งเดียวที่สามารถมีจำนวนหน่วยแฟรนไชส์ได้ถึง 4,000 หน่วยโดยใช้เวลาที่เร็วกว่า แต่ก็น้อยกว่าสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ (.005%) ของแฟรนไชส์ทั้งหมดมี 4,000 หน่วย นอกจากนี้ตามข้อมูลของบริษัทวิจัยอิสระ (FRANData) Anytime Fitness เป็น 1 ใน 15 แฟรนไชส์ที่มีสาขาตั้งอยู่มากกว่า 30 ประเทศ

Anytime Fitness สาขาแรกของประเทศไทยเปิดตัวขึ้นที่กรุงเทพมหานครในปีที่ผ่านมาด้วยมุมมองการขยายตัวในเอเชีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามีโรงยิมกว่า 500 แห่งที่เปิดให้บริการทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2020

ด้วยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากทั่วโลก คลับที่มีการออกแบบใหม่ล่าสุดกำลังจะเปิดตัวขึ้นที่สาขา อัมรินทร์พลาซ่า(Amarin Plaza) โดย Anytime Fitness มีจุดมุ่งหมายในการสร้างความมั่นคงให้กับแบรนด์และมีชื่อเสียงทั่วโลกโลกในอุตสาหกรรมฟิตเนสและเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับสมาชิก

คลับที่จะเปิดขึ้นต่อไปในอนาคตทั้งหมดในประเทศไทยจะใช้การออกแบบรูปแบบใหม่ ซึ่งถือเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ของ Anytime Fitness

สมัครที่บาเซโลน่า แต่มาออกกำลังที่กรุงเทพฯ

หนึ่งในประโยชน์ของสมาชิก Anytime Fitness และผู้สนับสนุนที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว คือนโยบาย “เข้าใช้ที่ไหนก็ได้ (Anywhere Access)” ของแฟรนไชส์ ซึ่งสมาชิกสามารถเข้าใช้บริการห้องออกกำลังกาย Anytime Fitness โดยการสมัครสมาชิกเพียงครั้งเดียว แต่คุณสามารถใช้บริการได้ทุกสาขาทั่วโลกมากกว่า 4,000 สาขาโดยไม่ต้องเพิ่มราคา ซึ่งทำให้สมาชิกมีทางเลือกในการออกกำลังกายไม่เพียงแต่เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเลือก (Anytime Fitness เปิดให้บริการทุกวัน/ตลอด 24 ชั่วโมง) แต่เป็นที่ใดก็ได้ที่พวกเขารู้สึกอยากออกกำลัง และด้วยสาขากว่า 50 รัฐในสหรัฐอเมริกาและกว่า 30 ประเทศทั่วโลก นโยบาย “เข้าใช้ที่ไหนก็ได้ (Anywhere Access)” นี้จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งในการลดต้นทุนและประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยๆ หรือเดินทางอยู่เป็นประจำ