การเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งเกิดจากกิจวัตรประจำวัน เช่น การนั่งหรือนอนผิดท่า ก้มหน้าทำงานหรือเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน เป็นสาเหตุหลักของอาการปวดต้นคอในวัยรุ่นหนุ่มสาว แต่ยังมีอีกสาเหตุที่ถือว่าพบบ่อยที่สุดคือ ”การนอน” ซึ่งเป็นปัญหาของใครหลายคนว่า เมื่อตื่นนอนขึ้นมาก็จะปวดคอ เพราะหมอนหรือที่นอนที่ไม่ได้คุณภาพ
คนส่วนใหญ่เปลี่ยนท่านอนโดยเฉลี่ยแล้วชั่วโมงละครั้ง ดังนั้นการนอนหมอนที่นิ่มเกินไปหรือแข็งเกินไป สามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะและคอในระยะยาวได้ เนื่องจากหมอนเหล่านั้นไม่ได้รองรับศีรษะและคอของเราอย่างแท้จริง
พญ. Ana C. Krieger ผู้อำนวยการทางการแพทย์ของ Center for Sleep ที่ New York-Presbyterian/Weill Cornell Medical Center กล่าวว่า หมอนที่รองรับช่องว่างระหว่างศีรษะกับที่นอน เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญต่อสุขภาพของเรามาก เพราะหมอนที่ถูกต้องจะจัดให้สะโพก หลังและคอของเราเข้าที่และทำให้กระดูกสันหลังของเรารักษาระดับตรงได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ และแม้หมอนสมัยนี้จะมีให้เลือกอย่างหลากหลาย คุณหมอ Ana จัดหมอนไว้สองประเภทใหญ่ คือหมอนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่นขนนุ่มละเอียดของสัตว์ปีก และที่เป็นวัสดุสังเคราะห์ เช่นโฟม และยาง Latex
หลายคนอาจจะเคยรู้จัก “หมอนขนเป็ด” ซึ่งเป็นหมอนอีกแบบที่ได้รับความนิยมมากในโรงแรมหรูทั้งในประเทศและต่างประเทศคือ หมอนขนเป็ด ที่จะมีความฟู นุ่ม แบบพิเศษกว่าวัสดุในการทำหมอนทั่วไป
ทำไม “ขนเป็ด” ถึงมีความนุ่มกว่าวัสดุในการทำหมอนทั่วไป?
หลายคนคงเคยเจอปัญหากับการซื้อหมอน มีคนแนะนำว่าดี นอนสบาย แต่ความรู้สึกเวลานอนไม่เหมือนกัน เรากลับรู้สึกว่าหมอนเตี้ยไป สูงไป นุ่มไป แข็งไป แน่นไป อาจเพราะหมอนแต่ละชนิดออกแบบตามขนาดมาตรฐานของคนส่วนใหญ่ โดยลืมไปว่านิยามความสบายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะสรีระของแต่ละคนต่างกัน
คำแนะนำจาก “PAUSE” หมอนเพื่อสุขภาพที่ทำจาก “ขนเป็ด” อธิบายว่า เป็ดเป็นสัตว์ปีกที่มีลักษณะขนจับตัวเป็นกลุ่ม ซึ่งการจับตัวเป็นกลุ่ม จะให้สัมผัสที่เบาสบายและคืนรูปได้ดีเยี่ยม เมื่อเรานอนและมีแรงกดทับลงไปตรงหมอน ขนเป็ดจะช่วยลดระดับแรงกดทับ เวลาพลิกข้างเส้นขนเป็ดรอบๆหมอน จะช่วยลดน้ำหนักกดทับและไม่ดันขึ้นมาให้อึดอัด ทำให้นอนแล้วไม่ปวดคอ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนหมอนนุ่มๆ ช่วยลดอาการปวดต้นคอ อันเนื่องมาจากการนอนได้
หมอนของ “PAUSE” ให้สัมผัสนุ่มจากขนเป็ดส่วนอกและยังมีความแข็งแรงของขนส่วนปีกมาเป็นตัวเสริม ทำให้ไม่ยุบตัวง่ายเหมือนใยชนิดอื่น ในขณะที่เรานอนหลับผิวสัมผัสของขนเป็ดจะโอบกระชับและกระจายแรงกดทับ ทำให้ช่วยลดแรงกดทับต่อจุดได้มากกว่า โดยเฉพาะการรองรับน้ำหนักของศีรษะถึงบริเวณลำคอและช่วงไหล่ บ่า ช่วยให้บรรเทาความเมื่อยล้า ช่วยลดอาการปวดคอ ปวดหลัง ลดปัญหาอาการออฟฟิศซินโดรมในระยะยาว
นอกจากนั้น “PAUSE” ยังได้แนะนำวิธีการดูแลรักษาหมอนขนเป็ด
วิธีการซักหมอน
ซักแบบใช้ผงซักฟอกสำหรับผ้าขนสัตว์ แนะนำให้ใช้กับเครื่องซักผ้าที่ไม่มีแกนตรงกลาง เพราะส่วนแกนจะทำให้หมอนงอพับเข้าหาศูนย์กลาง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรวางหมอนในแนวตั้งหรือใส่หมอน 2 ใบต่อการซัก 1 ครั้ง
วิธีการอบแห้ง
หลังจากทำการซักหมอน ควรทำการอบให้แห้ง โดยใส่หมอนลงในเครื่องและใส่ลูกบอลยางสำหรับช่วยอบแห้งเข้าไป 2-3 ลูก เพื่อช่วยให้ขนเป็ดไม่จับตัวเป็นก้อน ระหว่างการอบให้เอาหมอนออกมาตบเป็นระยะๆเพื่อกระจายก้อนขนเป็ดและช่วยให้ขนด้านในพองฟู หากยังมีกลิ่นอับชื้นอยู่ให้นำไปตากแดดอีกครั้งอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
“PAUSE” ต่างจากหมอนขนเป็ดทั่วไปอย่างไร?
โดยปกติแล้วหมอนขนเป็ดโดยทั่วไปจะใช้ขนส่วนปีก (feather) ลักษณะขนส่วนปีกจะมีก้านโค้งอ่อนๆอยู่ตรงกลางและมีขนอยู่บริเวณรอบๆ ซึ่งก้านนั้นอาจทำให้ผิวสัมผัสของเราเกิดการระคายเคืองในเวลานอน
สำหรับโรงแรมหรือรีสอร์ทหรู 5-6 ดาวนิยมนำตัวขนอีกส่วนของเป็ดมาทำหมอนเรียกว่า “Down” ซึ่งเป็นขนที่ได้จากส่วนอกและหน้าท้องเป็ด ลักษณะเป็นขนฟูๆ ปุยๆ นุ่มๆ ไม่มีก้านอยู่ตรงกลาง เวลาที่นำมาทำหมอน จะทำให้หมอนมีความแน่น ฟู นุ่ม แต่ไม่ยวบเวลานอน ช่วยในการรองรับสรีระที่นุ่มนวลเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าเราจะนอนหรือพลิกตัวไปทางไหนก็ตาม หมอนจะคอยช่วยซัพพอร์ตส่วนศรีษะและส่วนกระดูกบริเวณท้ายทอยได้เป็นอย่างดี
แต่เนื่องด้วยขนส่วนอกของเป็ด (Down) ที่นำมาใช้นั้นเป็นส่วนขนมีราคาค่อนข้างสูง ถ้านำมาทำหมอนทั้งใบจะราคาหลักหมื่น ทางทีมงานของ “PAUSE” จึงทำการพัฒนาและปรับโครงสร้างของหมอนโดยการแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนบน ส่วนกลาง และส่วนล่าง
- ส่วนบนกับส่วนล่างที่มีการสัมผัสกับสรีระส่วนต้นคอ, บ่า และศรีษะของเราโดยตรง จะใส่ Down เพื่อให้ความหนาและนุ่ม ตัวหมอนจะค่อยๆ ยุบตัวลงอย่างช้าๆ เพื่อรองรับน้ำหนักจากศีรษะ
- ส่วนชั้นกลางจะใส่ขนที่เป็นขนส่วนปีก ให้ความแน่น ไม่ยวบเวลานอน ช่วยรองรับความยืดหยุ่นของคอและศีรษะผู้นอน และทำให้หมอนมีความแข็งแรง
หมอนของ “PAUSE” นำทั้งส่วนของขนอกและขนปีกมาร่วมกัน จึงได้ทั้งหมอนที่มีสัมผัสนุ่ม และยังมีความแข็งแรง คุณภาพและความสบายเหมือนเดิมทุกอย่าง 100% ต่างแค่ราคาที่ลดลงจากหลักหมื่นมาเหลือแค่ไม่กี่พันบาท
ใน 24 ชั่วโมง เราใช้เวลากับการนอนไป 8 ชั่วโมง นั่นหมายความว่า 1 ใน 3 ของชีวิตเราอยู่กับการนอน การลงทุนเพื่อสุขภาพ ด้วยการเลือกหมอนที่มีคุณภาพ นอกจากจะช่วยให้นอนหลับสบายแล้วยังส่งผลดีต่อสุขภาพ ทั้งร่างกายและจิตใจ ให้เราตื่นมาพบเจอวันใหม่อย่างมีชีวิตชีวาอีกด้วย