เมื่อพูดถึงรถยนต์สมัยใหม่เรามักจะให้ความสำคัญกับอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มความสะดวกสบาย (gadgets) หรืออุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มเติม (built-in devices) แต่คุณทราบหรือไม่ว่ามียานพาหนะจำนวนไม่น้อยที่มาพร้อมกับนวัตกรรมที่เรามองไม่เห็น อาทิ กาวยึดโครงสร้าง (structural adhesives) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับรถยนต์และรถบรรทุก เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อีกทั้งยังทำให้รถมีน้ำหนักเบาลง และสร้างความยั่งยืนอีกด้วย
คนส่วนใหญ่ล้วนแต่มุ่งเน้นเรื่องวัสดุผิวมันเงาและอุปกรณ์เสริมอันชาญฉลาด ทำให้เทคโนโลยีที่ซ่อนอยู่ระหว่างโครงสร้างภายนอกและภายในของรถยนต์สมัยใหม่มักถูกมองข้ามไป อย่างไรก็ตามนวัตกรรมกาวยึดโครงสร้างที่สามารถเชื่อมต่อประตู หลังคา กระจกหน้ารถ และส่วนประกอบของตัวถังรถยนต์เข้าด้วยกันนั้นมีบทบาทสำคัญมากในการปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตลอดจนสภาพแวดล้อม
ด้วยประสิทธิภาพในการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกได้นำกาวยึดโครงสร้าง (structural adhesives) มาใช้แทนเทคโนโลยีการยึดชิ้นส่วนประกอบแบบเดิมที่เน้นการใช้ตะปูควง (screws) และสลัก (bolts) เป็นหลัก กาวยึดโครงสร้างจะทำให้การเชื่อมต่อระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวถังรถยนต์มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นโดยการประสานชิ้นส่วนเข้าด้วยกันอย่างต่อเนื่องเป็นแนวยาวตลอดทั้งข้อต่อแทนที่จะเชื่อมต่อแค่จุดใดจุดหนึ่งโดยการใช้ตะปูควง ด้วยเหตุนี้กาวยึดโครงสร้างจึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับรถยนต์ ทำให้ยานพาหนะมีแรงต้านต่อการกระแทกเพิ่มขึ้นในกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน ทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย
สมรรถนะด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ยังเอื้อประโยชน์ให้ผู้ผลิตยานยนต์สามารถผลิตรถยนต์ได้ตรงตามข้อกำหนดมาตรฐานด้านการผลิตที่เข้มงวดขึ้น นอกจากนี้ กาวยึดโครงสร้างยังสามารถตอบสนองต่อเทรนด์การผลิตรถยนต์น้ำหนักเบาซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าและยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าอีกด้วย มีผลการวิจัยของแม็คคินซีแอนด์คอมพานี แสดงให้เห็นว่าหากน้ำหนักรถยนต์โดยรวมลดลง 1 กิโลกรัม รถยนต์จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง 8 กรัมต่อระยะทางที่รถยนต์วิ่ง 100 กิโลเมตร
ผู้ผลิตยานพาหนะสามารถผลิตรถยนต์และรถบรรทุกให้มีน้ำหนักเบาโดยใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาลง อาทิ การใช้อลูมิเนียมแทนชิ้นส่วนประกอบที่ทำจากเหล็ก หรือเลือกใช้วัสดุสำเร็จรูปที่ทันสมัย (composite materials) อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์มักประสบกับปัญหาการผลิตตัวถังรถยนต์ที่ต้องใช้ส่วนประกอบของวัสดุหลายชนิดเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน และจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อตอบโจทย์การเชื่อมชิ้นส่วนประกอบที่มีพื้นผิวต่างกัน ซึ่งในส่วนนี้เฮงเค็ลสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมกาวยึดโครงสร้างในรูปแบบต่างๆ ที่สร้างคุณค่าและตอบโจทย์การใช้งานของผู้ผลิตรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากการใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาแล้ว ผู้ผลิตรถยนต์ยังสามารถทำให้ยานพาหนะมีน้ำหนักลดลงได้โดยการใช้วัสดุมีขนาดบางลง อย่างไรก็ตามประตูรถยนต์และหลังคาที่บางลงจะมีแรงต้านน้อยลงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เฮงเค็ลจึงได้ผลิตวัสดุเสริมความแข็งแกร่งโครงสร้าง (structural reinforcements) และแผ่นปะรอยต่อ (patches) ขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิตรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบาลงได้ แต่ยังคงมาตรฐานความปลอดภัยของผู้บขี่และผู้โดยสารไว้เช่นเดิม
กาวยึดโครงสร้างของเฮงเค็ล ได้ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมยานยนต์สำหรับงานผลิตตัวถังรถยนต์ โดยพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีอีพ็อกซี่ ซึ่งใช้ในแบรนด์กาวชั้นชั้นนำอย่าง Loctite (ล็อคไทท์) และ Teroson (เทอโรซอล) ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับรถพลังงานไฟฟ้า กาวยึดโครงสร้างสามารถทำให้การประกอบแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนเข้าด้วยกันและการเชื่อมต่อแบตเตอรี่เข้ากับตัวถังรถยนต์ทำได้ดียิ่งขึ้นและส่งผลให้รภยนต์มีน้ำหนักเบาลงอีกด้วย
“ไม่ว่านักออกแบบจะออกแบบรถยนต์อย่างไร เราสามารถที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์พร้อมทั้งกระบวนการที่สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะแบบของรถยนต์แต่ละรุ่นและการใช้งานที่แตกต่างกัน” เดวิด คาร์โก หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับโลกซึ่งดูแลด้านผลิตภัณฑ์กาวยึดโครงสร้าง การขนส่งและเหล็ก กล่าว “ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นในอุตสาหกรรมการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถบรรทุก เครื่องบินและยานอวกาศ เทคโนโลยีกาวที่ใช้ในการผลิตเพื่อยึดเกาะโครงสร้างช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง และยังได้เปรียบคู่แข่งอีกด้วย”
###
เกี่ยวกับเฮงเค็ล
เฮงเค็ล ดำเนินธุรกิจทั่วโลกด้วยพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่สมดุลและหลากหลาย บริษัทฯ เป็นผู้นำในสามกลุ่มธุรกิจทั้งในธุรกิจเพื่ออุตสาหกรรมและธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค อันเป็นผลมาจากแบรนด์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ธุรกิจเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ล (Adhesive Technologies) เป็นผู้นำในตลาดกาวในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ (Laundry & Home Care and Beauty Care businesses) เฮงเค็ลเป็นผู้นำในหลายตลาดและประเภทผลิตภัณฑ์ทั่วโลก เฮงเค็ลก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2419 และมีประวัติความสำเร็จอันยาวนานกว่า 140 ปี ในปี พ.ศ. 2560 เฮงเค็ลมียอดขายมากกว่า 2 หมื่นล้านยูโร และมีผลกำไรดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว 3,500 ล้านยูโร แบรนด์ชั้นนำ 3 อันดับแรกของเฮงเค็ล คือ ล็อคไทท์ (กาว) ชวาร์สคอฟ (ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม) และเพอร์ซิล (ผงซักฟอก) มียอดขายรวมกัน 6,400 ล้านยูโร เฮงเค็ลมีพนักงานมากกว่า 53,000 คนทั่วโลก ซึ่งมีความหลากหลายมีความมุ่งมั่น รวมกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยวัฒนธรรมขององค์กรที่แข็งแกร่ง มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน และมีคุณค่าร่วมกัน ในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนซึ่งเป็นที่ยอมรับ เฮงเค็ลได้รับการยกย่องจากดัชนีและการจัดอันดับระหว่างประเทศต่างๆ หุ้นบุริมสิทธิของเฮงเค็ลจดทะเบียนอยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ DAX ของเยอรมนี ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเข้าชมที่ www.henkel.com
รูปภาพ สามารถไปดูได้ที่ http://www.henkel.com/press
