ประชากรทั่วโลกก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ การต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ และความต้องการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้เกิดการลงทุนพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ ทำให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจของโลกจะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ จากผลวิจัยพบว่า 4 โรคร้ายที่คุกคามประชากรโลกอยู่ในขณะนี้ ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาลเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษา ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของการเสียชีวิตของผู้คน เฉลี่ยปีละ 17.9 ล้านคน ค่าใช้จ่ายในการักษาโรคนี้ ประมาณ 863,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
โรคเบาหวาน มีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากจาก 108 ล้านคนในปี 1980 เป็น 422 ล้านคนในปี 2014 สำหรับ 9.3% ของประชาชนชาวอเมริกัน พบว่าเป็นโรคนี้ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณการณ์ว่าในปี 2050 ชาวอเมริกัน 1 ใน 3 จะป่วยเป็นโรคเบาหวาน ปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคเบาหวานทั่วโลกอยู่ที่ 825,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
มะเร็ง เป็นอีกโรคที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของผู้คนทั่วโลก โดยปี 2561 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยใหม่ 17 ล้านคน และ มี 9.4 ล้านคนเสียชีวิต โดยมีสาเหตุมาจากโรคมะเร็ง ปัจจุบัน 38% ของช่วงชีวิตคนมีโอกาสได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง และ สุดท้ายโรคทางพันธุกรรม ซึ่งมีมากกว่า 7,000 ชนิด แต่มีน้อยกว่า 5% ที่ได้รับการรักษา
สำหรับแนวทางการรักษาโรคต่างๆ เหล่านี้ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น โครงการพัฒนาจีโนมของมนุษย์ ต้องใช้เงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เพื่อการเข้าใจยีนส์ของมนุษย์มากขึ้น นอกจากนี้ยารักษาโรคก็เป็นสิ่งจำเป็น โดยระหว่างปี 2015-2018 มีการคิดค้นยากว่า 172 ชนิด เพิ่มขึ้น 91% เมื่อเทียบกับช่วง 4 ปีก่อนหน้านี้ และในปีที่ผ่านมา องค์การอาหารและยาสหรัฐ อนุมัติแนวทางการรักษา 59 วิธี สูงสุดทุบสถิติ
บริษัทยา เช่น บล็อกบัสเตอร์ ไบโอเทค มีรายได้เพิ่มขึ้น 40 เท่า เมื่อเทียบกับปี 1999 ยิ่งเมื่อประชากรโลกก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ค่าใช้จ่ายในการรักษาและดูแลสุขภาพยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น ในสิงคโปร์ ประชากรมีอายุเฉลี่ย 87 ปี ต้องใช้เงินในการดูแลรักษามากกว่าคนอายุ 65 ปี ถึง 3 เท่าเป็นต้น
เจนนิเฟอร์ นิโควส์ ผู้จัดการกองทุนของเจนัสเฮนเดอร์สัน โกลบอล ไลฟ์ ไซเอนซ์ กล่าวว่า ปัจจัยต่างๆ ข้างต้นทำให้กองทุนเฮลท์แคร์ มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าธุรกิจอื่นๆ ซึ่งกองทุนของเจนัสเฮนเดอร์สัน โกลบอล ไลฟ์ ไซเอนซ์ มีผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การลงทุน ที่มีความรู้ ความเข้าใจทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์และธุรกิจ มีแบบแผนด้านการลงทุน และกลยุทธ์ที่เรียกว่า Value at Risk Framework ที่ให้ผลตอบแทนถึง 78% ในรอบ 3 ปี จากดัชนี MSCI World Healthcare Index ปัจจุบันเป็นพาร์ทเนอร์กับกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลท์แคร์ ฟันด์: KT-HEALTHCARE ในประเทศไทย
นอกจากผลตอบแทนที่จะได้รับแล้ว การลงทุนกับกองทุนเฮลท์แคร์ ยังเป็นการลงทุนเพื่อสร้างอนาคตที่ดีสำหรับตัวเองในวัยเกษียณอีกด้วย