เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของวัฒนธรรมอีสาน เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัส และหนึ่งในนั้นคือวิถีชีวิตของท้องถิ่นที่สอดแทรกเรื่องราวทางภูมิปัญญาเอาไว้มากมาย สะท้อนออกมาในหลายแง่มุม หนึ่งในนั้นคือเรื่องของอาหารการกิน ซึ่งวันนี้จังหวัดในแถบภาคอีสาน มีเรื่องราวการกินอยู่ที่น่าสนใจ สอดแทรกความมีสไตล์ลงไป ให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสได้ง่ายขึ้น
ไม่นานมานี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมคณะผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน ได้ร่วมลงพื้นที่ในเส้นทาง “วัฒนธรรมหอมฉุย ตะลุยถิ่นภูเขาไฟ” เชื่อมโยงการท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์ โดยวันนี้เราได้รวบรวมความน่าสนใจของจังหวัดบุรีรัมย์มาฝากกันก่อน
ธันเดอร์คาสเซิลสเตเดียม
มาเยือนดินแดนปราสาทสายฟ้าทั้งที ต้องได้เข้าชมความอลังการของสนามฟุตบอลที่มีการรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) และพลาดไม่ได้กับการซื้อของที่ระลึกจากทีม “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”
เพลาภิรมย์-เพลาเพลิน
อีกจุดเช็คอินของบุรีรัมย์ คือ “อุทยานดอกไม้ เพ ลา เพลิน” ชมความงามของดอกไม้เมืองหนาวที่อวดโฉมตลอดทั้งปี และไม้ดอกไม้ประดับที่สวยงาม โดยในวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีตลาดน้ำเปิดให้เดินกันเพลินๆ ซึ่งมีทั้งของกินและของที่ระลึกให้ซื้อหา ใครที่สนใจงาน DIY ทางเพ ลา เพลิน ก็มีให้ทดลองฝีมือ เช่น การทำผ้ามัดย้อม จากจินตนาการของตัวเอง
และความหอมฉุยก็อยู่ที่ ร้านอาหาร “เพ ลา ภิรมย์” ภายใน เพ ลา เพลิน ที่นำเสนออาหารอีสานฟิวชั่น จากวัตถุดิบท้องถิ่น อาทิ ไข่เจียวกุ้งจ่อม อุไก่บ้าน และขาหมูเพลาเพลิน ที่การันตีด้วยแชมป์ประกวดขาหมูบุรีรัมย์ 2 ปีซ้อน ตบท้ายด้วยไฮศกรีมโฮมเมด จากผลไม้ตามฤดูกาล
วนอุทยานเขากระโดง
สถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และ “พระสุภัทรบพิตร” พระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่เมืองบุรีรัมย์ และเป็นจุดชมวิวเมืองบุรีรัมย์ในมุมสูงได้อย่างสวยงาม เขากะโดงยังเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ปัจจุบันมีสะพานข้ามปากปล่องภูเขาไฟให้เดินเล่นอีกด้วย ลงจากเขากระโดง ก็แวะเช็คอินในร้านกาแฟแห่งใหม่ “The Tower” ซึ่งเป็นอาณาจักรของโชว์รูม Honda BigWing Buriram ซึ่งมีทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มให้บริการในบรรยากาศสบายๆ
บ้านซับสมบูรณ์
บุรีรัมย์มีของดีที่ไม่เหมือนใครอยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ น้ำแร่ ที่บ้านซับสมบูรณ์ อ.โนนสุวรรณ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีน้ำแร่ผุดขึ้นกลางหมู่บ้าน และไหลลงสู่พื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน รวมทั้งบึงเลี้ยงปลาที่ชาวบ้านบอกว่า เป็นบึงที่มีน้ำแร่จากสายธารใต้ดินมาผสม ทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้มีความสด หอม เนื้อหวาน รวมทั้งการนำน้ำแร่ไปรดพืชผัก รวมทั้งเห็ดโคนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอาชีพที่ทำรายได้ให้กับชาวบ้านเป็นอย่างดี เนื่องจากได้น้ำที่มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ทำให้ผลผลิตงอกงามและรสชาติดี ปัจจุบันเห็ดโคนญี่ปุ่นของบ้านซับสมบูรณืมีการส่งขายที่วังน้ำเขียวและตลาดไท ส่วนเห็ดที่ไม่ได้ขนาด ก็จะนำมาแปรรูปเป็นแหนมเห็ด น้ำพริกเห็ด และ คุ้กกี้เห็ด ห้ามพลาดกับมื้อเที่ยง จากกุ้งและปลาในบึง พร้อมด้วยเมนูจากเห็ดที่รดด้วยน้ำแร่ รับรองว่าอร่อยไม่เหมือนใครแน่ๆ
บ้านอุบลสามัคคี
บ้านอุบลสามัคคี อ.โนนสุวรรณ อีกหนึ่งกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกันปลูกผักปลอดสารเคมี โดยมีธารน้ำแร่ใต้ผืนดินหล่อเลี้ยง ที่นี่เป็นศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียง มีผู้ใหญ่บ้านที่เข้มแข็ง คอยดูแลให้ชาวบ้านได้มีกิน มีใช้ มีขาย มีเก็บ ภายในหมู่บ้านยังมีป่าศักดิ์สิทธิ์กว่า 100 ไร่ ซึ่งเป็นป่าสงวน มีความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ไม้ และของป่า รวมทั้งต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพ
ที่นี่ยังมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจ จากความศักดิ์สิทธิ์ของต้นไม้ที่ชาวบ้านให้ความเคารพ แม้แต่ตัวผู้ใหญ่บ้านเองยังเจอมากับตัว เมื่อครั้งที่คุณแม่เขาได้รับความเห็นจากโรงพยาบาลว่า ท่านได้เสียชีวิตลงแล้ว ผู้ใหญ่บ้านได้เข้าไปขอพรให้แม่ของเขาฟื้นกลับมา แล้วปาฏิหาริย์ก็มีจริง จนทำให้เขาต้องออกเดินจากบุรีรัมย์ไปกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการแก้บน
กุ้งจ่อมประโคนชัย
แม้ว่ากุ้งจ่อมเป็นการถนอมอาหารที่ทำกินอย่างแพร่หลาย แต่หากจะถามถึงกุ้งจ่อมที่มีชื่อเสียงต้องมาที่ อ.ประโคนชัย ซึ่งหลายๆ คงได้เห็นย่านกุ้งจ่อม ที่มีร้านรวงเปิดขายเป็นจำนวนมาก เพราะกุ้งจ่อมที่ประโคนชัย เขาใช้น้ำปลาคุณภาพดี ใครอยากชมกระบวนการผลิตกุ้งจ่อม ก็แวะเข้าไปสอบถามและเยี่ยมชมได้ที่ร้านแม่พะเยาว์ แล้วอย่าลืมเลือกซื้อของฝากจากกุ้งจ่อมไปฝากเพื่อนฝูงกันด้วย อยากได้รส เค็ม เปรี้ยว แบบไหนก็ถามแม่ค้า เพราะกุ้งจ่อมเป็นการหมักที่จะให้รสที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา และหากจะลองชิมเมนูกุ้งจ่อมใน อ.ประโคนชัย ก็ต้องแวะไปที่ร้านบ้านพีท ซึ่งได้ประยุกต์กุ้งจ่อมเป็นเมนูต่างๆ เรียกได้ว่า มาแล้วครบ จบวิชากุ้งจ่อม
แต่หากจะชิมเมนูกุ้งจ่อมประยุกต์ เมื่อเข้ามาที่ อ.ประโคนชัย แล้ว ต้องแวะไป “ร้านบ้านพีท” เพื่อลิ้มลองเมนูกุ้งจ่อมที่นำมาประยุกต์เป็นหลนกุ้งจ่อม พร้อมกับเมนูอีกหลากหลาย
เชฟพลัส คาเฟ่ แอนด์ บิสโทร
หากมองหาร้านอาหารในตัวเมือง นี่เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ “เชฟพลัส คาเฟ่ แอนด์บิสโทร” เป็นร้านอาหารไทย-ยุโรป โดย “เชฟพลัส” หนุ่มบุรีรัมย์ที่ชื่นชอบในการทำอาหาร และได้นำกุ้งจ่อมจากประโคนชัยมานำเสนอเป็น กุ้งจ่อมผัดทรงเครื่อง นอกจากนั้นยังมีเมนูที่น่าสนใจ อาทิ อาทิ ซี่โครงหมูย่างสมุนไพร เสิร์ฟบนเขียงไม้มะขาม คอหมูย่างน้ำจิ้มแจ่วลาวา เสิร์ฟบนแผ่นหินเก็บความร้อน
ครบทั้งรสชาติของการ เที่ยว กิน ในเส้นทางวัฒนธรรมสุดหอม ไปบุรีรัมย์รอบหน้า ต้องลองหาเวลาไปชิม!
(สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานสุรินทร์ (พื้นที่รับผิดชอบ สุรินทร์-บุรีรัมย์ ถ.เทศบาล1 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ สุรินทร์ โทร. 0-4451-4447-8)