นับเป็นการตอกย้ำแนวทางการเติบโตของธุรกิจการบินและการเดินทาง เมื่อรายงานล่าสุด ระบุว่า “แอร์บัส” ได้คว้ายอดการสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ถึง 363 ลำ ประกอบด้วยยอดคำสั่งซื้อที่ยืนยันแล้ว 149 ลำและการแสดงความจำนงในการจัดซื้อจัดหาเครื่องบิน 214 ลำ ในระหว่างงานปารีสแอร์โชว์ 2019
นอกเหนือจากรายการใหม่ที่เพิ่มเติมมานี้ สายการบินต่างๆ และบริษัทผู้ให้เช่าเครื่องบิน ยังได้แปลงยอดสั่งเครื่องบินเดิมที่มีอยู่แล้ว 352 ลำ โดยส่วนใหญ่จะเปลี่ยนจากเอ320 เครื่องบินทางเดินเดียวไปเป็นเครื่องบินรุ่นที่ใหญ่กว่าอย่าง เอ321นีโอ รวมไปถึงรุ่นใหม่อย่าง เอ321เอ็กซ์แอลอาร์ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จของแอร์บัส โดยการนำเสนอเครื่องบินพิสัยที่ไกลขึ้นในกลุ่มตลาดเครื่องบินประเภทนี้ นอกเหนือจากนั้น งานที่เลอ บูร์เกต์ครั้งนี้ยังได้เห็นการประสบความสำเร็จของเครื่องบินรุ่นใหม่อย่าง เอ220 ซึ่งได้มีข้อตกลงทางธุรกิจเป็นจำนวน 85 ลำ และเครื่องบินลำตัวกว้าง เอ330นีโอ ที่ได้รับการยืนยันคำสั่งซื้อและการแสดงเจตจำนงรวม 24 ลำ
ดาวเด่นของการแอร์โชว์ครั้งนี้คงหนีไม่พ้น เอ321เอ็กซ์แอลอาร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับการพัฒนาไปจากรุ่น เอ321แอลอาร์ ให้ก้าวอีกขั้น โดย เอ321เอ็กซ์แอลอาร์ นั้นจะเป็นเครื่องบินทางเดินเดี่ยวพิสัยไกลที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะทำให้สายการบินที่ปฏิบัติการด้วยเครื่องบินประเภทนี้ สามารถเข้าถึงตลาดที่ต้องใช้พิสัยและน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นได้ โดยรวมแล้วเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ได้รับคำสั่งซื้อ 48 ลำ การแสดงเจตจำนง 79 ลำ และการเปลี่ยนคำสั่งจาก เอ321 เป็น เอ็กซ์แอลอาร์ 99 ลำ จากลูกค้าที่ถือได้ว่าเป็นรายแรกๆ ของเครื่องบินรุ่นใหม่นี้จากทั่วโลก
ในตลาดเครื่องบินลำตัวกว้าง เครื่องบินรุ่นใหม่อย่าง เอ330นีโอ ถือว่าสามารถกำหนดจุดยืนได้จนได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดทำให้เกิดข้อตกลงทางธุรกิจเพิ่มขึ้นกับสายการบินเซบูแปซิฟิกและเวอร์จินแอตแลนติก และเรื่องน่ายินดีอีกประการคือแนวโน้มการขายของเครื่องรุ่น เอ220 นีโอในงานที่เลอ บูร์เกต์นี้
ในขณะเดียวกัน ในภาคส่วนการบริการแอร์บัส เซอร์วิสเซส นั้นได้แสดงว่ามีการพัฒนารูปแบบการบริการดั้งเดิมในทั้งด้ายการซ่อมบำรุง การฝึกอบรม การปฏิบัติการบิน และการยกระดับ การใช้งานแพลตฟอร์มแอร์บัส สกายไวส์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ