THG มองเทรนด์ประเทศไทยเตรียมเข้าสู่สังคม Super – Aged Societyชู ‘จิณณ์ เวลบี้อิ้ง เคาน์ตี้’ ภายใต้แนวคิด Integrated Senior Care Solution & Community พร้อมเปิดตัว Assisted Living โมเดลปล่อยเช่าเจาะผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG ประเมินประเทศไทยเตรียมเข้าสู่ Super – Aged Society หรือสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ภายในกว่า 10 ปีข้างหน้า หนุนความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีบริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจร โชว์ความคืบหน้าการพัฒนาโครงการ ‘จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ รังสิต’ เฟสแรก พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย ด้วยคอนเซปต์ ‘Integrated Senior Care Solution & Community’ ตอกย้ำภาพลักษณ์เป็นคอมมูนิตี้พร้อมบริการดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร และเปิดตัวโมเดล Assisted Living ปล่อยเช่าห้องพักอาศัยแบบตกแต่งพร้อมอยู่เจาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลแบบพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดโปรโมชั่นถึงสิ้นปีนี้
นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด ‘ปกป้องดูแลความสุขและสุขภาพคนไทยทุกช่วงชีวิต’ (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลก อาทิ ไทย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น อเมริกา แถบยุโรป ได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ที่มีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 10% หรืออายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปเกินกว่า 7% ของประชากรทั้งหมด โดยในประเทศไทยคาดว่าภายในกว่า 10 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ (Super – Aged Society) ที่มีสัดส่วนประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปเกินกว่า 20% และมีแนวโน้มเป็นโรคความจำเสื่อมเพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีบริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจร โดยนำหลักโภชนาการและการออกกำลังกายรูปแบบใหม่มาให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัย
รองประธานกรรมการ THG กล่าวว่า บริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ (Jin Wellbeing County) รังสิต บนที่ดินติดถนนพหลโยธิน เนื้อที่รวม 140 ไร่ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบคนสูงวัยรุ่นใหม่อย่างมีคุณค่า เน้นเจาะกลุ่มผู้สูงอายุในไทยและชาวต่างชาติรวมถึงผู้วางแผนใช้ชีวิตหลังเกษียณล่วงหน้า โดยมุ่งหวังให้เป็นโครงการต้นแบบที่เซ็ตมาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยที่มีศูนย์สุขภาพและโรงพยาบาลในโครงการอย่างครบวงจร
โครงการจิณณ์ เวลบี้อิ้ง เคาน์ตี้ ภายใต้แนวคิด ‘Integrated Senior Care Solution & Community’ หรือ ‘คอมมูนิตี้พร้อมบริการดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร’ มีความคืบหน้าการพัฒนาโครงการเฟสที่ 1 บนที่ดิน 20 ไร่ ประกอบด้วย
1. อาคาร จิณณ์ เรสซิเดนซ์ ที่พักอาศัยโลว์ไรส์ 7 ชั้น รวม 5 อาคาร แบ่งเป็น คลัสเตอร์ 1 จำนวน 2 อาคาร และคลัสเตอร์ 2 จำนวน 3 อาคาร รวมทั้งหมด 494 ยูนิต ประกอบด้วย ห้องพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 43 – 46 ตารางเมตร และแบบ 1 ห้องนอนพร้อมห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ใช้สอย 63 – 66 ตารางเมตร ที่ออกแบบตกแต่งให้เหมาะกับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคาร อาทิ สระออกกำลังกาย ห้องเกมกิจกรรม ฯลฯ และสิ่งอำนวยความสะดวกภายนอกอาคาร ได้แก่ ลู่วิ่ง ทะเลสาบ ทางรถเข็น (วีลแชร์) พื้นที่ปลูกผัก และลานกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมระบบสายรัดข้อมือติดตามตัวอัจฉริยะ (Tracking System) และหน่วยพยาบาลฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ปัจจุบันได้ก่อสร้างอาคารพักอาศัยแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งหมด 5 อาคาร พร้อมมีบุคคลากรทางการแพทย์หมุนเวียนมาให้บริการคำแนะนำด้านผู้สูงอายุ
2. โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา (Thonburi Burana Hospital) ขนาด 51 เตียง เป็นโรงพยาบาลที่เน้นรักษาพยาบาลเฉพาะทางผู้สูงอายุแบบองค์รวมครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย เน้นการป้องกัน การสร้างเสริมสุขภาพ และฟื้นฟูด้วยบริการ Wellness, Fitness การบริการผู้ป่วยนอก IPD และผู้ป่วยใน OPD ตลอด 24 ชั่วโมง การดูแลรักษาฟื้นฟูผู้ป่วยหลังผ่าตัดและศูนย์ดูแลฟื้นฟูสมรรถภาพ โรคทางสมอง (สมองเสื่อม/ อัลไซเมอร์ ) ระบบประสาท หัวใจ และหลอดเลือด กระดูก ไขข้อ และกล้ามเนื้อ รวมถึง ทางเดินอาหาร สำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
ทั้งนี้การบริการพยาบาลผู้สูงอายุจะเกิดขึ้นได้ทั้งที่ อาคาร จิณณ์ เรสซิเดนซ์ ผ่านบริการ Assisted Living care สำหรับผู้สูงอายุที่สามารถดูแลผู้ป่วยได้ (Safe care) ผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือบ้าง (Partial care) รวมทั้งผู้ป่วยหลังผ่าตัด (Step down care) และบริการในโรงพยาบาลธนบุรีบูรณา สำหรับผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ (High care) ผู้ป่วยหลังผ่าตัด (Step down care) ที่ยังต้องการทรีตเมนต์ ผู้ป่วยที่มีสภาวะอาการระดับกลาง (Illness care) โดยคาดว่าพร้อมเปิดบริการปลายไตรมาส 3 นี้
3. สถาบัน จิณณ์ เวลเนส เซ็นเตอร์ (Jin Wellness Institute) เพื่อให้บริการดูแลสุขภาพสุขภาพที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนแก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการและบุคคลภายนอก (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) โดยนำศาสตร์ธรรมชาติบำบัดผสมผสานระหว่างแพทย์ทางเลือกและแพทย์แผนปัจจุบัน ร่วมกันพัฒนาโปรแกรมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและชะลอความเสื่อมจากโรคภัย โดยมีรูปแบบการให้บริการดังนี้ 1) จิณณ์ เวลเนสคลีนิก อาทิ การตรวจหาความเสี่ยงจากโรคทางพันธุกรรม มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเกี่ยวกับศาสตร์การชะลอวัย 2) จิณณ์ เวลเนสสปา มีการใช้เครื่องมือทันสมัย
โดยผสมผสานเทคโนโลยีกับศิลปะการทำทรีทเมนต์ด้วยสัมผัสที่อ่อนโยน และ 3) จิณณ์ เวลเนสเวิร์คชอป กิจกรรมปรับสมดุลของร่างกาย อารมณ์และจิตใจ กับกิจกรรม อาทิ เช่น ศิลปะบำบัด ดนตรีบำบัด จัดดอกไม้บำบัด ทำอาหารบำบัด สมาธิบำบัด 4) จิณณ์ เมดิฟิต ฟิตเนส ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 4.1) ยิมสำหรับออกกำลังกาย 4.2) ห้องกิจกรรมและคลาสลีลาศ โยคะ 4.3) สระว่ายน้ำที่เป็นแบบสระน้ำเกลือ บ่อน้ำร้อนที่ช่วยปรับสมดุลร่างกาย รวมถึง จิณณ์ เรสเตอรอง ให้บริการห้องอาหารเพื่อสุขภาพ คาดว่าพร้อมเปิดบริการไตรมาส 4 นี้
ทั้งนี้ ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 อาคารพักอาศัยมียอดขายแล้ว 146 ยูนิต ในจำนวนนี้มียอดโอนกรรมสิทธิ์แล้ว 83 ยูนิต และมีแบ็กล็อก (ยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์) อีก 63 ยูนิต โดยตั้งเป้าถึงสิ้นปีนี้จะมียอดโอนกรรมสิทธิ์ 200 ยูนิต
รองประธานกรรมการ THG กล่าวอีกว่า ล่าสุดโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ส่วนพักอาศัย ได้เปิดตัวบิสซิเนส
โมเดลใหม่ ‘Assisted Living’ จำนวน 40 ยูนิต แบบตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที เพื่อให้เช่าแก่ผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลแบบพิเศษตลอด 24 ชั่วโมงโดยบุคลากรที่เชี่ยวชาญการดูแลผู้สูงอายุ พร้อมมีแพทย์ตรวจเยี่ยมประจำโครงการ กิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพรอบด้านที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้สูงวัยมีสังคม พัฒนาการด้านอารมณ์ สมองและความจำ ป้องกันโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ รวมถึงการกระตุ้นฟื้นฟู กล้ามเนื้อให้แข็งแรงในผู้สูงวัย พร้อมบริการอื่นๆ อาทิ อาหารวันละ 3 มื้อ อาหารว่างวันละ 2 มื้อ บริการทำความสะอาดห้องพัก ซัก-รีดเดือนละ 50 ชิ้น บริการ Concierge ฟรีไวไฟและค่าไฟฟ้า-ประปา
นอกจากนี้ ได้จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อให้เช่าแบบ Assisted Living ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยห้องแบบ 1 ห้องนอน (43-46 ตร.ม) คิดค่าเช่าพิเศษเดือนละ 4.5 หมื่นบาท จากปกติ 9 หมื่นบาท และแบบ 1 ห้องนอนพร้อมห้องอเนกประสงค์ (63-66 ตร.ม) คิดค่าเช่าพิเศษเดือนละ 5.5 หมื่นบาท จากปกติ 1.05 แสนบาท โดยต้องทำสัญญาขั้นต่ำ 12 เดือน