ECF บอร์ดอนุมัติ ออก PP จำนวนไม่เกิน 40 ล้านหุ้น ให้กับกองทุน Macquarie สถาบันการเงินสัญชาติออสเตรเลีย ระดมทุนเพิ่มสภาพคล่อง ขยายธุรกิจหลัก และธุรกิจพลังงานทดแทน พร้อมออก ECF-W2 แจกผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 4:1 และ ECF-W3 ในอัตรา 6:1 XW วันแรก 6 ต.ค.นี้ และไม่มีการขาย RO
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 11/2560 มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ให้กับ Macquarie Bank Limited โดยเป็นผู้ลงทุนสถาบันการเงินสัญชาติออสเตรเลีย ในราคาที่ไม่ต่ำกว่า 90 % ของราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัทฯ ใน ตลท. ย้อนหลัง 7 วันทำการ ติดต่อกัน และก่อนวันกำหนดราคาเสนอขายต่อ Macquarie อีกทั้งมติที่ประชุมยังแจ้งไม่มีการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) แต่อย่างใด
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการออกและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) รวมถึงแผนการใช้เงิน บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการ เพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่บริษัทฯ และเพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจหลัก หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ รวมทั้งการลงทุนในธุรกิจพลังงานต่างๆ
ปัจจุบันบริษัทฯ มีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินทุนตามแผนธุรกิจของบริษัทฯ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้เงินทุนสำหรับการขยายกำลังการผลิตในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ จำนวน 250 ล้านบาท เงินทุนสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเมียนมาร์ ที่บริษัทฯ เข้าลงทุนโดยการถือหุ้น 20 % ในบริษัทพลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินในช่วงปี 2561 จำนวน 166 ล้านบาท และเป็นเงินทุนสำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลต่างๆผ่านบริษัทร่วมทุน (บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด (“SAFE”) ซึ่งบริษัทย่อยของบริษัทฯ (บริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด) ถือหุ้นใน SAFE คิดเป็นสัดส่วน 33.37% โดยมีความจำเป็นต้องใช้แหล่งเงินทุนในช่วงเดือน ต.ค. – ธ.ค. 2560 จำนวนประมาณ 15 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการยังมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทครั้งที่ 2 (ECF-W2) จำนวน 194,937,946 หน่วย อายุ 1 ปี 4 เดือนจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 3 (ECF-W3) จำนวน 129,958,631 หน่วย อายุ 3 ปี 4 เดือน จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 6 หุ้นเดิม ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ
กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับ ECF-W2 และ ECF-W3 (Record Date) ในวันอังคารที่ 10 ต.ค. 60 ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น 11 ต.ค. 60 และจัดสรร ECF-W2 และ ECF-W3 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในวันศุกร์ที่ 20 ต.ค. 60
สำหรับอัตราการใช้สิทธิ ECF-W2 อยู่ที่ 1 หน่วย / 1 หุ้น ราคา 3 บาท/หุ้น ใช้สิทธิครั้งแรก 25 พ.ย. 60 และสามารถใช้สิทธิได้อีก 5 ครั้งจนครบอายุใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 20 ก.พ. 62 ขณะที่อัตราการใช้สิทธิ ECF-W3 อยู่ที่ 1 หน่วย / 1 หุ้น ราคา 5 บาท/หุ้น ใช้สิทธิครั้งแรก 25 พ.ค. 62 และสามารถใช้สิทธิได้อีก 7 ครั้งจนครบอายุใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 20 ก.พ. 2564 นายอารักษ์ กล่าว