ทีเอ็มบี จัดหลักสูตร LEAN Supply Chain Master รุ่น 15 เสริมแกร่งเอสเอ็มอี กลุ่มอุตฯ อาหารและเครื่องดื่ม รับมือความท้าทายยุคดิจิทัล
การแข่งขันในธุรกิจปัจจุบันนี้แตกต่างจากอดีตไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็กหรือรายใหญ่ต่างก็มีโอกาสเข้ามาแข่งขันอยู่บนเวทีเดียวกันทั้งหมด เนื่องจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีในโลกยุคดิจิทัลที่ทำให้บรรดาผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้หลายหลายช่องทาง ในขณะที่ฝั่งผู้บริโภคก็สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้รวดเร็วฉับไว เพิ่มทางเลือกในการตัดสินใจเพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นโอกาสแจ้งเกิดบนเวทีธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ “เอสเอ็มอี” แต่ขณะเดียวกัน ถือเป็นความท้าทายที่นับวันการแข่งขันยิ่งเพิ่มสูงขึ้นและมาจากทุกทิศทุกทาง ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องพยายามให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของตนเอง ซึ่งไม่เฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจผู้บริโภค หาช่องทางการตลาดที่ถูกต้อง หรือการมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยเท่านั้น แต่การบริหารจัดการภายในธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพนับว่ามีความสำคัญยิ่งเช่นกัน
ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงประเด็นสำคัญในจุดนี้ ประกอบกับวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้เอสเอ็มอี “ได้มากกว่า – Get MORE with TMB” เพื่อโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงริเริ่มโครงการ LEAN Supply Chain by TMB มากว่า 6 ปี จัดอบรมหลักสูตร LEAN Supply Chain Master ไปแล้วถึง 14 รุ่น และล่าสุดได้ร่วมกับสถาบันอาหาร จัดอบรมรุ่นที่ 15 ซึ่งเป็นหลักสูตรสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในอุตสาหกรรมผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ
นางสาวสุกัญญา ตรีเสน่ห์จิต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ทีเอ็มบี กล่าวว่า ทีเอ็มบีมีความตั้งใจที่จะเข้าไปช่วยสนับสนุนเอสเอ็มอีให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน แต่ในปัจจุบันพบว่าโลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปมาก มีการแข่งขันสูงขึ้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจึงต้องพยายามมากขึ้น เพื่อให้สินค้าของตนเองเป็นที่ตอบโจทย์ โดนใจผู้บริโภค และด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
“แน่นอนว่า ในการทำธุรกิจทุกคนต่างต้องการกำไรที่มากขึ้น แต่แทนที่จะไปลดต้นทุนด้วยการหาวัตถุดิบที่ถูกลง การบริหารจัดการภายในธุรกิจนับเป็นทางเลือกที่ดีกว่า โดยโครงการ LEAN Supply Chain by TMB คือองค์ความรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตระหนักถึงความสำคัญของการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจได้มากกว่า และแน่นอนว่าเมื่อลดต้นทุนได้ ก็เท่ากับธุรกิจได้กำไรเพิ่ม” นางสาวสุกัญญา กล่าวในการเปิดอบรมหลักสูตร LEAN Supply Chain Master รุ่นที่ 15 ที่อาคาร KX Knowledge Xchange เมื่อเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ LEAN Supply Chain Master เป็นหลักสูตรที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจทั้งซัพพลายเชน ผ่านเทคนิค Lean Six Sigma โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง ทีเอ็มบี กับสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (SIIT) ออกแบบหลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในแต่ละอุตสาหกรรม ที่ผ่านมาได้จัดอบรมไปแล้วหลากหลายอุตสาหกรรม รวมแล้ว 15 รุ่น เช่น วัสดุก่อสร้าง, สินค้าอุปโภคบริโภค, เคมีภัณฑ์และพลาสติก, สุขภาพและโรงแรม
ขณะที่หลักสูตรสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในอุตสาหกรรมผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ทีเอ็มบีได้จัดอบรมมาเป็นครั้งที่ 5 และทุกครั้งจะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก โดยอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มนับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ
อุตสาหกรรมอาหารนับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 1.16 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 7.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) มีความเชื่อมโยงจากผู้ผลิตที่มีจำนวนกว่า 6,000 ราย ไปจนถึงธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งอาหารรวมกว่า 13,600 ราย นอกจากนี้ ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ ธุรกิจเกษตรแปรรูป ธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหาร ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร
ด้านอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมีมูลค่าตลาดประมาณ 4.75 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 3.1% ของจีดีพี มีผู้ประกอบการจำนวนกว่า 8,600 ราย แบ่งเป็นผู้ผลิตกว่า 4,200 ราย และผู้ค้าปลีกค้าส่ง จำนวนกว่า 4,400 ราย และมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจทั้งเกษตรแปรรูป บรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม ภัตตาคารและร้านอาหารเช่นเดียวกัน
ทีเอ็มบีจัดอบรมหลักสูตร LEAN Supply Chain Master ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หลักสูตรดังกล่าวมีเนื้อหาเข้มข้นด้วย 2 เครื่องมือหลักเบื้องต้นคือ Lean Six Sigma และ Supply Chain Management ตามระดับขั้นของหลักสูตรที่มีถึง 3 ระดับขั้นด้วยกัน
เริ่มจากระดับ White Belt เป็นหลักสูตร 2 วันสำหรับการสร้างความรู้ความเข้าใจพื้นฐานแก่ผู้เข้าร่วมอบรม ระดับ Blue Belt จะคัดเลือกผู้ผ่านการอบรมในระดับแรกเข้าอบรมต่อเนื่องในเชิงปฏิบัติการ ใช้ระยะเวลา 8 วัน และสุดท้ายระดับ Green Belt จะเป็นการลงมือปฏิบัติจริงด้วยกรณีศึกษาในธุรกิจของตนเอง ซึ่งใช้เวลาในการอบรมรวม 4 เดือน ที่ผ่านมาจัดอบรมไปแล้วถึง 14 รุ่น มีผู้ประกอบการในหลักสูตร Green Belt ร่วมทำโปรเจกต์กว่า 100 โปรเจกต์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ได้กว่า 2,000 ล้านบาท
ด้านนายศักดิ์ณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา ที่ปรึกษาสถาบันอาหาร กล่าวว่า การที่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีจะสามารถแข่งขันในเวทีการค้าได้นั้น จะต้องมีการพัฒนาเพื่อนำเสนอสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีความเหนือชั้นกว่า มีคุณภาพและราคาเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค แต่การจะประสบความสำเร็จในการแข่งขันได้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการพัฒนาในเรื่องการผลิตเป็นสำคัญ ซึ่งหลักสูตร LEAN Supply Chain Master ได้เข้ามาตอบโจทย์เรื่องกระบวนการพัฒนาเพื่อนำไปสู่ความสามารถในการแข่งขันโดยเฉพาะ
“และด้วยเป้าหมายการสร้างผลประกอบการที่เป็นบวกของเอสเอ็มอีเอง เชื่อว่าหลักสูตร LEAN Supply Chain Master นี้ เป็นประโยชน์ที่จะนำพาเอสเอ็มอีไปสู่ผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพตามเป้าหมายได้” นายศักดิ์ณรงค์ กล่าว