จีนเปิดงานมหกรรมสินค้าอุตสาหกรรมครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย สอดรับยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมใหม่ สนับสนุนไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในอาเซียน ชูนวัตกรรมอุตสาหกรรมเครื่องจักร หล่อโลหะ เพื่อบรรลุเป้าหมายการค้าไทย – จีน เพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ปี 64
กระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมด้วยสำนักพัฒนาการค้า กระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และบริษัทจัดนิทรรศการนานาชาติ CMEC (ซีเมค อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กซ์ซิบิชั่น) จัดพิธีเปิดงาน “China Machinery & Intelligent Manufacturing Brand Show (Thailand) และ Smart Manufacturing Exhibition (Thailand) and Metal +Metallurgy(Thailand)” ระหว่างวันที่ 18 – 20 กันยายน พ.ศ. 2562 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการไบเทค กรุงเทพฯ
นายฮวง ไค เลขานุการเอก สำนักงานที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและการพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย เปิดเผยว่า งานในครั้งนี้จะเป็นก้าวที่สำคัญยิ่งในการสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งในด้านการผลิตอัจฉริยะรวมถึงเทคโนโลยีหล่อและหลอมโลหะ ระหว่างประเทศจีนและประเทศไทย
ทั้งนี้ ประเทศไทยและประเทศจีนมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นฉันท์มิตรอันดีมาอย่างยาวนาน
ด้วยมีรากฐานความสัมพันธ์ของสองประเทศที่มั่นคงและแข็งแกร่ง ตามจุดมุ่งหมายของ The Belt and Road Initiative ทั้งจากการสร้างทางรถไฟความเร็วสูง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ก่อตั้งการเชื่อมต่อทางดิจิตัล การเพิ่มการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศในรูปแบบอื่นๆอีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยในอุตสาหกรรมเครื่องจักร การผลิตอัจฉริยะ อุตสาหกรรมการหล่อโลหะ และอุตสาหกรรมอื่นๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่ง เอื้อในการพัฒนาการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาการสื่อสารที่ไฮเทคและดิจิตัล
“รัฐบาลไทยมีการส่งเสริมแผนพัฒนาชาติอย่างแข็งแกร่ง เช่น โครงการไทยแลนด์ 4.0 และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งมีจำเป็นอย่างเร่งด่วนด้านการลงทุนในการก่อสร้างอุตสาหกรรมไฮเทค และความจำเป็นในการเชื่อมต่อทางดิจิตัลในภูมิภาคอาเซียน โดยมีไทยเป็นศูนย์กลาง” นายฮวงกล่าว
ทั้งนี้ ไทยกับจีนมีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันอีก 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2564 การจัดงานในครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมและยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าตามยุทธศาสตร์ The Belt and Road Initiative ของจีน โดยมีไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน
นายซู กวงลิง รองผู้อำนวยการ กรมส่งเสริมการค้า สำนักพัฒนาการค้า กระทรงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าว ไทยกับจีนมีความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างลึกซึ้ง และแน่นแฟ้น ทั้งการค้าทวิภาคี และการค้าระหว่างจีนกับอาเซียน ทำให้ช่วงที่ผ่านมามีการเข้ามาลงทุนของผู้ประกอบการจีนมากขึ้น โดยสถิติการค้าจากกระทรวงพาณิชย์จีน พบว่าปี 2561 ที่ผ่านมามีมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับจีน 8.75 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของไทย ที่มีมูลค่าการค้าสูงสุด ติดต่อกัน 6 ปี
ขณะที่ในช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยราว 340 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ The Belt and Road Initiative โดยสามารถเชื่อมโยงนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของไทยเพื่อขยายไปยังภูมิภาคอาเซียน ผ่านกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายหยาง หมิง เลขาธิการคณะกรรมการจัดนิทรรศการ สมาคมหอการค้าต่างประเทศของจีน และผู้จัดการทั่วไปของบริษัทจัดนิทรรศการนานาชาติ CMEC (ซีเมค อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กซ์ซิบิชั่น) กล่าวว่า การเลือกจัดงานครั้งนี้ในประเทศไทย เพราะไทยมีความสำคัญ และเศรษฐกิจมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจำเป็นต้องมีการลงทุนด้านเครื่องจักรที่ทันสมัย การจัดงานครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการจีนจะได้มาเปิดตลาด ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างไทย-จีนในการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกัน
นอกจากนี้ การจัดงานครั้งนี้สมาคมหล่อโลหะจีน สมาคมหล่อโลหะอินเดีย สมาคมหล่อโลหะไทย และสมาคมหล่อโลหะญี่ปุ่น จาก 12 ประเทศและภูมิภาค ร่วมกันจัดตั้งสมาคมหล่อโลหะเอเชีย อย่างเป็นทางการ ณ งานนิทรรศการครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมการหล่อโลหะของเอเชียในรูปแบบขององค์กรไม่แสวงผลกำไร
โดยสมาคมหล่อโลหะเอเชียมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมหล่อโลหะในสาขาต่างๆ เพื่อส่งเสริมประเทศสมาชิกทั้งในด้านการสื่อสารและการร่วมมือ พัฒนามูลค่าเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการหล่อโลหะและประโยชน์ทางสังคม โดยมีนายซาง ลิโบ ประธานสมาคมการหล่อโลหะจีน รับทำหน้าที่เป็นประธานคนแรกของสมาคมหล่อโลหะเอเชีย
งาน “China Machinery & Intelligent Manufacturing Brand Show (Thailand) และ Smart Manufacturing Exhibition (Thailand) and Metal +Metallurgy(Thailand)” เปิดให้เข้าชมงาน ตั้งแต่วันที่ 18-20 กันยายน 2562 ซึ่งนอกจากงานแสดงสินค้านวัตกรรมเครื่องจักรสมัยใหม่แล้ว ยังมีการสัมนา นำโดยอาลีบาบากรุ๊ปใน 2 หัวข้อ “ช่องทางธุรกิจข้ามพรมแดนผ่านอีคอมเมิร์ซ”
และ “อาลีบาบา ราชาแห่งข้อมูล” อาลีบาบาจะให้ข้อมูลเคล็ดลับกลุ่มธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในช่องทางอีคอมเมิร์ซได้อย่างไร และกลายเป็นหนึ่งในสิบบริษัทของโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งและมีมูลค่าสูงสุดในโลก เพื่อเอื้อให้บริษัทอื่นๆที่เข้าร่วมการประชุมสามารถใช้ช่องทางธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยในอนาคต