ด้วยสภาพอากาศ การจราจร และการก่อสร้าง ในเมืองใหญ่ ทำให้ปัญหาของฝุ่นกลับมาอีกครั้ง จึงต้องยอมรับว่าปัจจุบันคนเมืองยังต้องเจอกับวิกฤตฝุ่น PM2.5 ดังนั้นจึงต้องใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ ระมัดระวังตัวมากขึ้น สิ่งที่เราควรเร่งทำเป็นอย่างแรกคือการดูแลตัวเราเอง และทำให้สิ่งแวดล้อมภายในบ้านและรอบๆ ตัวดีขึ้นด้วย แต่ถ้าต้องไปปฏิบัติงานหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรสวมหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “หน้ากาก N95” นั่นเอง
ฝุ่นละออง PM2.5 มาจากไหน?
1.สภาพอากาศเปลี่ยน ทำให้อากาศนิ่ง ลมน้อย ฝุ่นจะค่อยๆ สะสมตัว
2.ฝุ่นจากการจราจร เขม่าไอเสียรถยนต์
3.ฝุ่นจากงานก่อสร้าง ทั้งรถไฟฟ้า อุโมงค์ คอนโดมิเนียม ฯลฯ
4.ฝุ่นจากการเผาในที่โล่งแจ้ง เช่น เผาหญ้า
5.ฝุ่นจากการผลิตโดยภาคอุตสาหกรรม
PM 2.5 อันตรายแค่ไหน?
เราอาจเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และยังมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, โรคมะเร็งปอด, โรคหัวใจขาดเลือด และโรคติดเชื้อเฉียบพลันในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง
แล้วเราสามารถเลี่ยงฝุ่นในบ้านได้ไหม?
เราหลีกเลี่ยงฝุ่นภายในบ้านด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นหรือควัน ประเภทจุดธูปจุดเทียน หรือจุดอโรมาทั้งหลาย ถ้าไม่จำเป็นควรงดไปก่อน
- หมั่นทำความสะอาดบ้าน เช็คล้างอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ ไม่ให้ฝุ่นจับตัว ควรทำอย่างสม่ำเสมอ
- ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท ช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองเข้ามาภายในบ้าน เลือกเปิดแอร์โดยใช้ระบบอากาศหมุนเวียนอากาศจากภายในบ้านแทนการดึงอากาศมาจากภายนอก และตรวจทำความสะดวกระบบกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ
- เปิดเครื่องฟอกอากาศที่ตอนนี้มีออกมารองรับปัญหานี้มากมาย
- ปลูกต้นไม้ภายในบ้านก็ช่วยได้ เพราะการรดน้ำต้นไม้เป็นการช่วยลดฝุ่นได้อีกทางหนึ่ง
- การปรับปรุงต่อเติมบ้าน เจ้าของบ้านควรเลือกใช้วัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การเลือกผนังและฝ้าเพดานที่มีคุณภาพจะช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองภายในบ้านได้
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก ผนังและฝ้าเพดาน “ยิปซัมตราช้าง” ซึ่งเป็นวัสดุที่ไม่มีส่วนผสมของวัตถุอันตรายตามมาตรฐานสากล (EH40) รวมถึงไม่มีแร่ใยหินซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้หมดกังวลเรื่องฝุ่นร่วงหล่นในบ้านได้เลย ระบบผนังและฝ้าเพดานยิปซัมยังถือว่าเป็นระบบที่ไม่สร้างมลภาวะ ไม่ก่อฝุ่นพิษ จึงปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย