ฟิชโช สร้างสีสัน ด้วยบรรจุภัณฑ์สุดเก๋ไก๋ แบล็ค แอนด์ ไวท์

132

ฟิชโช สร้างสีสันวงการตลาดขนมขบเคี้ยวปลาเส้น ออกผลิตภัณฑ์ปลาเส้นรสชาติใหม่ ในบรรจุภัณฑ์สุดเก๋ไก๋ด้วยคอนเซ็ปท์แบล็ค แอนด์ ไวท์ (Black & White) พร้อมกิจกรรมเอาใจวัยมันส์ทั่วประเทศ

ปลาเส้นฟิชโช ปล่อยผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่คอนเซ็ปท์ แบล็ค แอนด์ ไวท์ เอาใจวัยโจ๋ ชื่นชอบการทดลองสิ่งใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการใช้เวลาทำกิจกรรมเพิ่มรสชาติใหม่ให้ชีวิต พร้อมกระตุ้นตลาดขนมขมเคี้ยวให้คึกคักอีกครั้ง เน้นแคมเปญออนไลน์บวกกิจกรรมการตลาดแบบเจาะลึกถึงวัยรุ่นทั่วประเทศ

หลังจากตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทปลาเส้น ซึ่งมีมูลค่าตลาด 2,555 ล้านบาท ขาดสีสันและติดลบมาพักใหญ่ แต่ ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป ผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลกที่มีแบรนด์ฟิชโช ได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ สร้างกิจกรรมกระตุ้นตลาดปลาเส้นให้กลับมามีสีสันสดใส เร้าใจอีกครั้ง ด้วยบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ ใส่ลูกเล่นพร้อมดีไซน์ทันสมัย ภายใต้คอนเซปท์ แบล็ค แอนด์ ไวท์ เป็นครั้งแรกของปลาเส้นที่ทำเป็นเส้นดำและเส้นขาวให้วัยรุ่น ได้ลิ้มลองด้วยสโลแกน “พลิกทุกคำ สนุกทุกเคี้ยว”

กันยารักษ์ อมรเอนกทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดขนมขบเคี้ยวปลาเส้น มีมูลค่ารวมประมาณ 2,555 ล้านบาท และในรอบปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตลดลง เพราะไม่มีสินค้าใหม่ๆ มากระตุ้นตลาด จึงเป็นเหตุให้ฟิชโช แบรนด์ปลาเส้นที่ผู้บริโภคชาวไทยรู้จักกันมานาน พยายามเฟ้นหาไอเดียและแนวคิดใหม่ๆ ที่แตกต่าง เพื่อกระตุ้นให้ตลาดกลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

“เรามุ่งที่จะสร้างแบรนด์ DNA ใหม่ของปลาเส้นฟิชโช ให้ฉีกไปจากรูปแบบเดิมๆ ก่อนที่จะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้เรามีการทำวิจัยตลาด วิจัยพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคอย่างเข้มข้น เพื่อที่จะออกผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเราให้ดีที่สุด”

“จากการสำรวจความต้องการผู้บริโภคพบว่า นอกจากความอร่อยแล้ว ผู้บริโภคต้องการรสชาติที่แปลก ใหม่ แตกต่าง ไม่ซ้ำเดิม และยังมีเทรนด์ใหม่ในหมู่ผู้บริโภคคือ คือ ต้องการขนมที่มีคุณค่าทางสารอาหาร ทานแล้วดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ไขมันต่ำ แคลลอรี่ต่ำ ซึ่ง ฟิชโช พยายามที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ครบถ้วน จึงเป็นที่มาของฟิชโช 2 รสชาติใหม่ คือ ฟิชโชแบล็ค “รสสไปซี่ซีฟู้ด” ปลาเส้นดำ รสเข้ม เน้นไปทางเผ็ดแบบสไปซี่พร้อมกลิ่นอายของซีฟู้ด และฟิชโชไวท์ ปลาเส้นขาว “รสดับเบิ้ลชีสพิซซ่า” รสนุ่ม ละมุนลิ้น หอมกลิ่นชีสเน้นๆ มาพร้อมบรรจุภัณฑ์ดีไซน์ทันสมัย เพื่อสร้างความตื่นเต้น เร้าใจ ให้ผู้บริโภคอยากซื้อ หลังจากได้วางตลาด ก็ได้รับผลตอบรับดีเกินความคาดหมาย ทั้งในส่วนของผู้บริโภค รวมทั้งร้านค้าที่เป็นพันธมิตรของเราอย่าง เซเว่น อีเลเว่น และเทสโก้โลตัส ก็ช่วยจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้ด้วย”

ทั้งนี้ บมจ.ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป คาดว่า ผลิตภัณฑ์ปลาเส้นฟิชโชแบล็คแอนด์ไวท์ จะช่วยกระตุ้นยอดขาด ขยายตลาดให้กลับมาฟื้นตัวและมีอัตราเติบโตได้อีกครั้ง โดยทีมการตลาดฟิชโช เน้นการรับรู้แบรนด์โดยเน้นทำกิจกรรมที่เจาะลึกเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ทั้งการตลาดแบบออนไลน์ผ่าน Influencers ต่างๆ รวมทั้งการลงกิจกรรม Below the line
ปลาเส้นฟิชโช แบล็ค แอนด์ ไวท์ “รสสไปซี่ซีฟู้ด และรสดับเบิ้ลชีสพิซซ่า” มีขนาดบรรจุ 25 กรัม ราคาซองละ 20 บาท ออกวางจำหน่ายทั่วประเทศแล้ววันนี้ที่ร้านเซเว่น อีเลเว่นและ เทสโก้ โลตัส ทุกสาขา

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี
วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่าง ๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 125 พันล้านบาท (3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 46,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่าง

ต่อเนื่องเรื่องมาโดยตลอดในเรื่องดังกล่าว จนส่งผลโดยรวมให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2560 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย