เจาะกลยุทธ์รับสร้างบ้าน ใช้ “บิ๊กดาต้า” เป็นอาวุธทรงพลัง

4

ขณะที่ ดิจิทัล ดิสทรับ เป็นกระแสทำหืดขึ้นคอไปทั่ววงการฯ แต่สำหรับองค์กรที่เห็นความสำคัญของเทคโนโลยีกลับใช้เป็นอาวุธสำคัญ สร้างยอดขายและพิชิตใจลูกค้ายิ่งความสำเร็จจากตัวเลขของบิลลิ่งรับสร้างบ้าน ในตลาดที่ แลนดี้ โฮม เป็นผู้นำอยู่นาน ด้วยนวัตกรรม ราคา ความพึงพอใจของผู้บริโภค ล่าสุดมีการผนวกกับ Big Dataเพื่อเจาะข้อมูลอินไซด์ไปให้ถึงใจลูกค้านำมาสู่การไว้วางใจใช้บริการ

คุณพรรัตน์ มณีรัตนะพร

คุณพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน องค์กรหลายๆ องค์กร ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการบริหารจัดการองค์กร และต้องรู้จักปรับใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งในสถานการณ์นี้ หลายๆ องค์กร ต่างมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี กับข้อมูล Big Data เพื่อบริหารจัดการความต้องการของลูกค้า เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง แต่ที่ แลนดี้ โฮมได้มองเห็นโอกาสที่มากกว่านั้น โดยการนำเอาเทคโนโลยี และ Big Data มาให้พนักงานของบริษัทได้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า ส่งผลให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด  ยกตัวอย่างเช่น เราได้เปิดตัว Landy Home Application รับปรึกษาแบบและงานขายที่ทันสมัยล่าสุด ในงาน Home Builder & Materials Expo 2019 ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อนำเสนอแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ลูกค้า เข้าใจสินค้าและบริการได้ดียิ่งขึ้น ด้วย Landy Home Application บริษัทฯ สามารถเสนอราคาพร้อมกับแบบบ้านที่ลูกค้าได้เลือกไว้ส่งเข้า Email หรือ Line ของลูกค้าได้ทันทีทำให้ลูกค้าเห็นภาพและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ แลนดี้ โฮม สามารถเพิ่มยอดจองได้ถึง 20%”ในงาน Home Builder & Materials Expo 2019”

ทำไมต้องมีกลยุทธ์ Big Data ในยุค 4.0

เรามองว่า Big Data คือเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรมไอทีรุ่นใหม่ ที่สามารถรองรับการจัดเก็บ การจัดการ กรองเลือกข้อมูล การวิเคราะห์  ซึ่งในอดีตที่ผ่านมายังไม่มีเครื่องมือมารองรับ หรือยังไม่เคยนำมารวมกันเพื่อตั้งโจทย์ที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจ แต่ก่อนอาจต้องให้สถาบันการศึกษาหรือ หน่วยงานวิจัย ทำแบบสอบถาม  การค้นหาผลลัพธ์ ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลและดูความสัมพันธ์ เลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม จะได้เกิดประโยชน์กับธุรกิจ แต่ยุคนี้ทุกอย่างลัดขั้นตอน ง่าย เร็ว และเห็นผลชัดมากขึ้น

ปัจจุบัน Digital Marketing มีเครื่องมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Google Analytics, Google Adwords หรือ Facebook Ads Manager ถ้าหากใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็น และคอยเก็บบันทึกข้อมูลเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง นั่นแหละคือ Big Data และนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ต่อยอดได้ว่า มีคนเข้าคลิกเว็บไซต์จำนวนกี่คน ระยะเวลาที่เปิดหน้าเว็บไซต์ คำค้นหาใดยอดฮิต หรือเป็นสิ่งที่ตลาดมีความต้องการ อยากรู้ ข้อมูลเหล่านี้นับว่ามีค่าเป็นอย่างมาก เพราะมีผลต่อครีเอทหรือทำแคมเปญที่เขาสนใจ ช่วยเพิ่มความรวดเร็วให้ฝ่ายการตลาด, ทำให้เรามองเห็นความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ชัดฯลฯ AI พัฒนา และ จดจำ ไปคล้ายๆ กับสมองของมนุษย์ การเริ่มต้นใช้เครื่องมือในวันนี้ ทำให้เราได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับโลกของธุรกิจด้วย

ถอดรหัสความสำคัญ และการนำ Big Data มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจ

เมื่อก่อนบริษัทฯ เน้นสร้างบ้าน เสร็จเร็ว ส่งต่อ รับมอบ หาลูกค้าใหม่ แต่ปัจจุบัน Big Dataทำให้องค์กร มองวิธีการแข่งขันไม่เหมือนเดิม แม้ว่าจะเป็นผู้นำ แต่ในเรื่องของการบริการต่างๆ แลนดี้โฮมมีมากขึ้นกว่าเดิม เราได้นำระบบการบริหารข้อมูล Big Data มาพัฒนาการบริการ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมช่วยลดขั้นตอนต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่น  ลูกค้าเคยมาใช้บริการที่ แลนดี้ โฮม ก่อนหน้านี้แล้ว เพียงบอก ชื่อ – นามสกุล หรือ เบอร์โทรศัพท์ของลูกค้า กับทางเจ้าหน้าที่ ระบบจะสามารถทำงานต่อจากขั้นตอนเดิมที่เคยทำค้างไว้ได้ทันที ซึ่งจะทำให้การบริการนั้นสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง การบริหารข้อมูล Big Data นี้ยังสามารถช่วยทำให้ลูกค้าได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องกับความต้องการของลูกค้าเองได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นด้วย   ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาในการคัดเลือกข้อมูล ข่าวสาร หรือแม้กระทั่งโฆษณาและโปรโมชั่นที่ไม่เหมาะกับความต้องการของตัวลูกค้า ทางบริษัทเองสามารถคัดสรรข้อมูล ข่าวสาร หรือโฆษณารวมทั้งโปรโมชั่นต่างๆ โดยไม่จำเป็นออกซึ่งช่วยประหยัดงบโฆษณาได้ราว 1% ของยอดขาย”

ดีไซน์ บิ๊กดาต้า + นวัตกรรม สร้างยอดขายแบบติดจรวด

อีกหนึ่งเทคโนโลยี ที่สำคัญมากๆซึ่งช่วยในการบริหารจัดการคือ ระบบการควบคุมงานก่อสร้างWork Flow System โดย Work Flow System คือระบบคอมพิวเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อบริหารจัดการ การทำงานของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ส่วนงานขาย งานออกแบบ งานก่อสร้าง ตลอดจนในส่วนของการบริการหลังการขายให้เป็นลำดับขั้นตอนอย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มต้นตั้งแต่ การเปิดใบงาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการปฎิบัติงาน เพื่อให้บุคลากรในฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบถึงขั้นตอนการทำงานได้อย่างชัดเจน หากเกิดความล่าช้าในจุดใดก็สามารถทราบได้ทันทีถึงสาเหตุ สามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพนี้เองทำให้ แลนดี้ โฮม สามารถสร้างบ้านได้พร้อมกันเป็นจำนวนมาก เสร็จทันหรือก่อนเวลาส่งมอบ สร้างความประทับใจแบบปากต่อปาก

การนำเทคโนโลยี และระบบจัดการ Big Data มาปรับใช้และบริหารจัดการองค์กรของศูนย์รับสร้างบ้าน แลนดี้ โฮม ท้ายที่สุดแล้วผลประโยชน์ไปสู่ลูกค้า ตั้งแต่แรกเริ่มที่ลูกค้ามาใช้บริการของ แลนดี้ โฮม ไปจนถึงขั้นตอนบริการหลังการขายไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงข้อมูลและขั้นตอนต่างๆ ในการบริการ รวมไปถึงระบบจัดการกับความล่าช้าในการก่อสร้าง ทำให้ลูกค้าได้บ้านที่มีคุณภาพ เสร็จตรงตามเวลาระยะเวลาที่กำหนด อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสูงสุด ด้วยเหตุ บริษัท แลนดี้ โฮม จึงยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เนื่องจากบริษัทมีการวางระบบการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยให้บริษัท แลนดี้ โฮม พร้อมสำหรับการทำงานในทุกๆ สถานการณ์ ได้เป็นอย่างดี

เป้าหมายปลายปี ยังครองตำแหน่งอันดับ 1

ทิศทางของ แลนดี้ โฮม ในครึ่งปีหลังเติบโต ต่อเนื่อง ซึ่งจากมหกรรมรับสร้างบ้าน เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สามารถปิดยอดจองได้ถึง 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 80% และคาดการณ์ว่าจะปิดยอดขายในปี 2562  ได้ตามเป้าหมายที่ 2,000 ล้านบาททั้งนี้ภาวะรุนแรงจากการแข่งขันในตลาดซึ่งมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาต่อเนื่อง แต่ในตลาดมักเลือกผู้ประกอบการรายใหญ่และให้บริการครบวงจร จากการสำรวจ Brand Awareness พบว่า แลนดี้ โฮม เป็นที่รู้จักในกลุ่ม Target Group ถึง 80% ซึ่งสูงสุดในบรรดาบริษัทในกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน การนำเทคโนโลยีBIG Data รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา อาทิ ห้องน้ำผู้สูงอายุ ระบบบ้านปลอดแมลงสาบ โปรโมชั่น ฟรีเสาเข็มเจาะ อัพเกรดวัสดุ ฯลฯ คาดว่าทำให้บริษัทเติบโตตามเป้าหมาย 5-10% ทุกปี