กรมควบคุมโรค มอบโล่รางวัลแก่สถานประกอบการและโรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพ 4 ประเภท รวม 122 แห่ง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเดินหน้าดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพจากการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยแรงงาน และพิธีมอบโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงานที่ประสบผลสำเร็จ จำนวน 4 ประเภท รวม 122 แห่งทั่วประเทศ ทั้งสถานประกอบการ และโรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพ พร้อมเผยข้อมูลล่าสุด พบอัตราการประสบอันตรายต่อลูกจ้างมีแนวโน้มลดลงทั้งกรณีร้ายแรง และรวมทุกกรณีความรุนแรง
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพจากการประกอบอาชีพ สำหรับกลุ่มวัยแรงงาน และมอบโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงานตัวอย่างที่ดำเนินงานประสบผลสำเร็จในด้านการป้องกันควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2559 คาดประมาณว่าประเทศไทยมีประชากรที่มีงานทำ 38.3 ล้านคน เป็นผู้ทำงานที่ไม่ได้รับความคุ้มครองและไม่มีหลักประกันทางสังคมจากการทำงานหรือเรียกว่าแรงงานนอกระบบ 21.3 ล้านคน หรือร้อยละ 55.6 และที่เหลือเป็นแรงงานในระบบ 17 ล้านคน หรือร้อยละ 44.4 ของจำนวนผู้มีงานทำทั้งหมด และข้อมูลจากสำนักงานกองทุนเงินทดแทน พบว่าการประสบอันตรายในปี 2559 แบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่ 1.กรณีร้ายแรง พบว่าอัตราการประสบอันตรายต่อลูกจ้าง 1,000 ราย เท่ากับ 3.04 ลดลงจากปี 2558 (3.19) ลดลงร้อยละ 4.70 และ 2.รวมทุกกรณีความรุนแรง พบว่าอัตราการประสบอันตรายต่อลูกจ้าง 1,000 ราย เท่ากับ 9.47 ลดลงจากปี 2558 (10.25) ลดลงร้อยละ 7.61 โดยปัญหาโรคและภัยสุขภาพที่สำคัญ ได้แก่ โรคปอดจากฝุ่นหิน โรคจากพิษโลหะหนัก โรคปอดจากแร่ใยหิน โรคกระดูกและกล้ามเนื้อ โรคจากการสัมผัสสารทำละลายอินทรีย์ และโรคประสาทหูเสื่อมจากเสียงดัง
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในกลุ่มวัยทำงาน โดยมีมาตรการที่สำคัญ ได้แก่ มาตรฐานการจัดบริการอาชีวอนามัยและเวชกรรมสิ่งแวดล้อม โครงการประเมินความเสี่ยงจากการทำงานของบุคลากรในโรงพยาบาล และโครงการวัยทำงานปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข ภายใต้นโยบายลดโรค เพิ่มสุขอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชากรวัยทำงานมีสุขภาพดี ลดการเจ็บป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการบาดเจ็บ รวมทั้งโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของพื้นที่ ลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และมีสุขภาพจิตที่ดี รวมถึงสามารถดำเนินการจัดบริการอาชีวอนามัยครบวงจรในสถานประกอบการได้
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2560 มีหน่วยงานตัวอย่างที่ดำเนินงานประสบผลสำเร็จในด้านการป้องกันควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ผ่านการประเมินระดับประเทศและรับรางวัลเชิดชูเกียรติ จำนวน 122 แห่ง แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.โครงการสถานประกอบการปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข ระดับประเทศ 81 แห่ง (จากผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ 520 แห่ง) เป็นระดับโล่เงิน 49 แห่ง และระดับโล่ทอง 32 แห่ง 2.โรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานการจัดบริการอาชีวอนามัยและเวชกรรมสิ่งแวดล้อมระดับดีเด่น 19 แห่ง 3.โรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานการจัดบริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อมระดับดีเด่น 1 แห่ง และ 4.โรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพตามเกณฑ์ประเมินความเสี่ยงจากการทำงานของบุคลากรในโรงพยาบาลระดับ 5 ต่อเนื่อง จำนวน 5 แห่ง และระดับ 5 จำนวน 16 แห่ง
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ในการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 350 คน ประกอบด้วย นักวิชาการจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1-12 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาล และนักวิชาการจากสำนักที่เกี่ยวข้องของกรมควบคุมโรค กรมอนามัย และกรมสุขภาพจิต รวมถึงผู้ประกอบการจากสถานประกอบการและวิสาหกิจชุมชน ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะช่วยทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง สถานประกอบการ วิสาหกิจชุมชน โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการฯ และเครือข่าย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422