จัดงาน STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2020

25

วันแรกของการจัดงาน STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2020 ผอ. NIA เปิด Virtual Studio นำชม Virtual World “อยู่ที่ไหนก็ร่วมงานได้”

วันแรกของการจัดงาน STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2020 ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ได้เปิด Virtual Studio นำชมโลกนวัตกรรมเสมือนจริง (Virtual World) ที่เป็นแพลตฟอร์มอีเว้นท์ออนไลน์ ที่ NIA ได้รวม MICE Innovation จากเหล่าสุดยอดสตาร์ทอัพไทยมา เพื่อเติมเต็มประสบการณ์รูปแบบใหม่ในโลกนวัตกรรมเสมือนจริง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normal

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า “จากสถานการณ์วิกฤตโควิค-19 ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างไปทั่วโลก ทั้งวิถีการดำเนินชีวิต สังคม และระบบเศรษฐกิจ ทำให้ประชาคมโลกตระหนักถึงการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือเหตุการณ์วิกฤตที่อาจจะมาในหลากหลายรูปแบบมากขึ้นในอนาคต บทเรียนหนึ่งที่โลกได้รับในครั้งนี้คือ ความจำเป็นของประเทศที่จะต้องมีการสนับสนุนแนวทางคาดการณ์อนาคต (Foresight) ควบคู่กับการพัฒนา “นวัตกรรมเพื่อรับมือกับภาวะวิกฤติ” หรือ “Innovation in time of Crisis” ซึ่งแนวคิดดังกล่าวถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยตั้งรับ ป้องกัน และฟื้นฟู เพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติให้เบาบางลง สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศไทย จึงได้กำหนดจัดงาน STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND EXPO 2020 ขึ้น ในรูปแบบการจัดงานผ่านช่องทางออนไลน์ ภายใต้แนวคิด “Innovation in Times of Crisis” โดยเน้นนำเสนอนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาวะวิกฤตใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

1) การระบาดใหญ่ทั่วโลก (Pandemic) โดยขณะนี้เกิดการแพร่ระบาดของโควิค-19 ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อวิถีชีวิตของคนในสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงด้านสาธารณสุขและสุขภาวะ รวมถึงการดำเนินชีวิตในยุคของการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทำให้มีความจำเป็นต้องมองหาโซลูชั่นเพื่อมาตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เกิดเป็นนวัตกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งในระดับบุคคล องค์กรธุรกิจ ประเทศ รวมถึงระดับโลก

2) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก (Climate Change) โดยขณะนี้มีแนวโน้มที่เกิดการแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศโลกที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งเกิดจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลก จนก่อให้เกิดปรากฏการณ์ก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming) ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น มลพิษฝุ่น PM2.5 ภัยแล้ง เป็นต้น

3) วิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก (Economic Crisis) โดยขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศทั่วโลกได้ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ การปิดประเทศเนื่องจากการระบาดของโควิค-19 การปิดกิจการและเลิกจ้างงานของธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก

ในช่วงเช้าของวันแรกของการจัดงาน ดร.พันธุ์อาจ ได้นำสื่อมวลชลเข้าชมเบื้องหลังการทำงานใน Virtual Studio ก่อนจะเป็นโลกนวัตกรรมเสมือนจริง ที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของงาน ผู้เข้าชมงานจะได้รับประสบการณ์ใหม่ที่เป็นประโยชน์ผ่าน 4 กิจกรรมหลักได้แก่ 1) Virtual Forum งานสัมมนาออนไลน์ในรูปแบบเสมือนจริง เน้นเรื่องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ประเทศในช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ประกอบด้วย 6 ธีม คือ Feed the World / Transforming Healthcare / Tourism & Entertainment Rebound / Inclusive Society / BCG in Action / Touchless Economy & Trust Society โดยมีทั้งการอภิปราย (Panel Discussion) และการบรรยายโดยวิทยาการ (Keynote Speaker) หลากหลายวงการทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศ

2) Opportunity โอกาสในการหาคู่ค้าทางธุรกิจและการประกอบอาชีพผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้น ทั้ง Virtual Marketplace ตลาดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบเสมือนกว่า 200 บูธ และจับคู่ธุรกิจให้แก่สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการนวัตกรรมไทย รวมทั้งการพิชชิ่งของสตาร์ทอัพ, Online Business Consulting บริการให้คำปรึกษาออนไลน์จากสุดยอดเมนเทอร์ ผู้เชี่ยวชาญภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา กว่า 60 ท่าน และ Virtual Job Market รับสมัครงานกว่า 600 ตำแหน่ง จากกว่า 100 องค์กรชั้นนำของประเทศ

3) SHOW ชมการแสดงสดผ่านทางออนไลน์ ที่นำเสนอศิลปะ ดนตรี นันทนาการ และเทคโนโลยีมาจัดแสดงร่วมกันในรูปแบบ Virtual Concert ที่สร้างสรรค์สตูดิโอเสมือนจริง พร้อมให้แฟนคลับใกล้ชิดกับศิลปินและมีส่วนร่วมระหว่างการชม

4) AWARD พิธีประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติ Prime Minister Award ให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพของประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจให้แก่สตาร์ทอัพไทยให้ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ รวมถึงการนำนวัตกรรมมาช่วยแก้ไขสถานการณ์วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ NIA ยังพัฒนาระบบ AI หรือ Artificial Intelligence ในการวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาต่อไป

ดร.พันธุ์อาจ กล่าวทิ้งท้ายว่า “การจัดงานในรูปแบบ Virtual World ทำให้ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ร่วมงานได้ผ่านหน้าจอ และหวังให้งานนี้สร้างมิติใหม่ของการจัดงานอีเว้นท์ออนไลน์ให้เกิดขึ้น สามารถนำผู้ประกอบการในระบบนิเวศ หรืองานต่างๆ ไปอยู่บนโลกนวัตกรรมเสมือนจริง โดยใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นสะพานเชื่อมทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน ผมมั่นใจว่าในอนาคต ทั้งผู้ประกอบการ SME และสตาร์ทอัพจะเข้ามาสู่ Virtual World นี้กัน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดระบบนิเวศนวัตกรรมอีกรูปแบบหนึ่งขึ้น ดังนั้น ผมจึงขอเชิญชวนทุกคนเข้าร่วมชมงาน STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2020 ที่ NIA และหน่วยงานร่วมจัด ได้ทุ่มเทเต็มที่เพื่อจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์รูปแบบใหม่ในโลกนวัตกรรมเสมือนจริง ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนิวนอร์มัลที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ขณะนี้ และทุกท่านจะเห็นว่าโลกเสมือนก็สร้างความตื่นเต้นได้ไม่แพ้โลกจริงได้เช่นกัน โดยผู้สนใจเข้าชมสามารถลงทะเบียนรับชมได้ทาง https://stxite2020.nia.or.th/ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ -4 กันยายน 2563”