กระทรวงสาธารณสุข เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศเพิ่ม 12 ราย เกี่ยวข้องกับกรณีตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร เร่งสอบสวนโรคและตรวจเชิงรุกในชุมชนเพิ่ม เพื่อประเมินขอบเขตการระบาด ยันจัดเลือกตั้ง อบจ.ได้ ขอให้คงมาตรการป้องกันโรค และร่วมมือทำให้ตลาดเป็นพื้นที่สวมหน้ากาก 100% ย้ำขณะนี้ยังไม่ต้องล็อกดาวน์พื้นที่ ส่วนผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศเข้ารับการกักกันมี 22 ราย
วันนี้ (19 ธันวาคม 2563) ที่ ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด 19 และการพบผู้ติดเชื้อในประเทศ โดยนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิด 19 รายใหม่ 34 ราย หายป่วยเพิ่ม 19 ราย ยอดป่วยสะสมรวม 4,331 ราย หายป่วยสะสม 4,024 ราย กำลังรักษาในโรงพยาบาล 247 ราย เสียชีวิตรวม 60 ราย ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ารับการกักกัน 22 ราย ได้แก่ สหราชอาณาจักร 4 ราย เยอรมนี สหรัฐอเมริกา บังกลาเทศ นามิเบีย และซาอุดิอาระเบีย ประเทศละ 2 ราย เคนยา บาห์เรน รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไต้หวัน เนเธอร์แลนด์ อินเดีย และอิตาลี ประเทศละ 1 ราย ทั้งหมดเข้ารับการรักษาตามระบบแล้ว ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ มีเพียง 2 รายมีอาการไข้ หายใจลำบาก และจมูกไม่ได้กลิ่น
ส่วนผู้ติดเชื้อภายในประเทศมีจำนวน 12 ราย เกี่ยวข้องกับกรณีหญิงไทยอายุ 67 ปี เจ้าของแพปลาในตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ทั้งหมดเข้ารับการรักษาแล้ว โดยเป็นผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ 4 ราย ส่วนอีก 8 ราย มีอาการ ได้แก่ ไข้ ไอ ปวดศีรษะ มีน้ำมูก เสมหะ หายใจลำบาก ปวดกล้ามเนื้อ จมูกไม่ได้กลิ่น และลิ้นไม่ได้รับรส ทั้งนี้ ความเสี่ยงสำคัญคือการไม่สวมหน้ากาก ดังนั้น ผู้ที่ไปตลาดกลางกุ้งตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 หากสงสัยหรือกังวลสามารถขอเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือหากมีข้อสงสัยโทรสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
“ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องล็อกดาวน์ จ.สมุทรสาคร เนื่องจากยังได้รับความร่วมมือในการมาตรวจหาเชื้อ อย่างไรก็ตาม หากพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นคลัสเตอร์ที่ไม่สามารถบอกต้นสายปลายเหตุได้ จะมีการออกมาตรการจากเบาไปหาหนัก ซึ่งการล็อกดาวน์จะเป็นวิธีสุดท้าย จะเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน การออกจากบ้านต้องสวมหน้ากาก 100%” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
สำหรับสถานการณ์โควิด 19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อกว่า 76 ล้านราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7.16 แสนราย เสียชีวิต 1.68 ล้านราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 17.8 ล้านราย 2. อินเดีย จำนวน 10 ล้านราย 3. บราซิล จำนวน 7.16 ล้านราย 4. รัสเซีย จำนวน 2.79 ล้านราย และ 5. ฝรั่งเศส จำนวน 2.44 ล้านราย
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยโควิด 19 ที่เกี่ยวข้องกับจ.ท่าขี้เหล็ก ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ทุกจังหวัดมีความปลอดภัย แต่ยังต้องระวังการลักลอบเข้าประเทศ ขอให้เข้ามาอย่างถูกต้องเข้าสู่ระบบกักกันโรค ส่วนกรณีตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ข้อมูลการระบาดยังเกี่ยวข้องกับตลาดกลางกุ้ง สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อ คือ การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ซึ่งขณะนี้มีรถเก็บตัวอย่างตรวจเชื้อชีวนริภัยพระราชทาน 3 คัน ลงไปเก็บตัวอย่างแล้ว ตั้งเป้าอย่างต่ำให้ได้ 2-3 พันรายหรืออาจถึง 5 พันรายขึ้นกับสถานการณ์ โดยจะนำผลการตรวจทางห้องปฏิบัติและการสอบสวนโรค เพื่อตีวงและคำนวณขอบเขตการระบาด เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังในสถานพยาบาล คลินิก และร้านขายยา ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการสงสัยให้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการทันที นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสาครและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้มีข้อสั่งการให้จำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานบางกลุ่มในจังหวัด สำหรับประชาชนมาตรการหลักที่ต้องปฏิบัติ คือ การสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และสแกนไทยชนะ
“ส่วนการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 จ.สมุทรสาคร ยังจัดได้เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งยกเลิกจาก กกต.หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ให้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อความปลอดภัยมากที่สุด เน้นย้ำการสวมหน้ากากตลอดเวลา ต่อแถวเข้าคูหาเว้นระยะห่าง 1 เมตร และอย่ารอไปลงคะแนนช่วงท้ายของการปิดหีบ เพราะอาจเกิดความแออัดได้ การจัดจุดล้างมือ หากเตรียมปากกาส่วนตัวไปได้ จะช่วยลดการสัมผัสร่วมกัน หรือหากมีสัมผัสขอให้ล้างมือ”นายแพทย์โอภาส กล่าว
ด้านนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคกรณีหญิงไทยอายุ 67 ปี เจ้าของแพปลาในตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ได้ตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและค้นหากลุ่มเสี่ยงในชุมชน ทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม 12 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในครอบครัว 4 ราย ได้แก่ มารดา พี่สาว น้องสะใภ้ และคนที่มาทำงานด้วย มีความเกี่ยวข้องกับตลาดกลางกุ้ง 6 ราย ได้แก่ ลูกจ้าง ภรรยาของลูกจ้าง คนทำงานแพปลาข้างๆ และผู้มาซื้อของ ส่วนอีก 3 ราย อาศัยอยู่ใกล้กับตลากลางกุ้ง 2 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน 1 ราย ทำให้ประเมินได้ว่ามีการติดเชื้อในคนที่ทำงานในตลาดเดียวกัน ตลาดข้างเคียง และคนในครอบครัว ส่วนการค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในพื้นที่ตลาดกลางกุ้งและตลาดทะเลไทยระหว่างวันที่ 17-19 ธันวาคม 2563 จำนวน 1,449 ราย ผลการตรวจจะทยอยออกมา
“สถานการณ์ขณะนี้คนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และจะไปใช้บริการ ต้องมีการป้องกันตนเอง สิ่งที่ต้องปฏิบัติต่อเนื่อง คือ การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก โดยพื้นที่ตลาดต้องเป็นพื้นที่สวมหน้ากาก 100% และถอดเมื่อจำเป็นขณะรับประทานอาหาร และการล้างมือ โดยจัดจุดล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ทั้งหมดจะช่วยป้องกันความเสี่ยงทั้งป้องกันการรับเชื้อกรณีที่ยังไม่ติดเชื้อ หรือในรายที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการจะช่วยลดโอกาสการแพร่เชื้อไปยังบุคลลอื่นๆ” นายแพทย์โสภณกล่าว
นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า เหตุการณ์ตลาดกลางกุ้งมีความแตกต่างจากกรณีการระบาดของตลาดในเมืองอู่ฮั่น เนื่องจากขณะนี้เรารู้จักโรคโควิด 19 มากขึ้น และมีวิธีในการป้องกัน นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่โล่ง ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี การปิดทำความสะอาดทำให้ลดความเสี่ยงลงจนเป็นปกติ การไปใช้บริการไม่ได้เกี่ยวกับสถานที่ แต่เกี่ยวกับบุคคลในสถานที่ที่ต้องร่วมกันป้องกันการแพร่เชื้อ ซึ่งเรารับมือได้ดีกว่าเหตุการณ์อู่ฮั่นในช่วงแรกที่ยังไม่มีการป้องกัน สำหรับอาหารทะเลสามารถรับประทานได้ตามปกติ เนื่องจากการป้องกันโรคที่สำคัญ คือ การปรุงสุกร้อนที่สามารถฆ่าเชื้อได้รวมถึงเชื้อก่อโรคโควิด 19 และคงมาตรการส่วนบุคคล คือ กินร้อนใช้ช้อนกลางส่วนตัว และใส่หน้ากากเมื่ออยู่พื้นที่สาธารณะ