โครงการที่พักอาศัยในระยะยาวจะดีหรือแย่ ขึ้นอยู่กับ บริษัทนิติบุคคล ที่เลือกมาบริหารเป็นอันดับแรก เบื้องหลังที่ดีก็สะท้อนถึงภาพลักษณ์โครงการ การบริหารที่ช่วยเพิ่มมูลค่าของโครงการ การมี service mind เข้าใจความคิด ความต้องการของลูกบ้านทุกประเภท พร้อมยืดหยุ่นได้ตามสภาพการณ์แต่ไม่ขัดต่อข้อบังคับ เสริมด้วยกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ลูกบ้าน และการทำงานอย่างมืออาชีพจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางจิตใจให้กับลูกบ้านอย่างแน่นอน
บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด MDPC Expertise Meets Excellence ภายใต้การบริหารงานของ ธนา ต่อสหะกุล กรรมการผู้จัดการ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านบริการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ในเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มีคำตอบมาเฉลยกับ 5 เหตุผลสำคัญ ในการคัดเลือกบริษัทบริหารนิติบุคคลมืออาชีพ
1.มั่นใจได้ในความปลอดภัย
คำว่า “ความปลอดภัย” ไม่ได้หมายถึงการมี “พนักงานรักษาความปลอดภัย” แต่หมายถึงทุกองค์ประกอบภายในอาคารต้องปลอดภัย บริษัทบริหารงานนิติบุคคลที่เป็นมืออาชีพ จะพัฒนาศักยภาพทีมงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความปลอดภัยอยู่เสมอ ตั้งแต่ทีมรักษาความปลอดภัย ที่จะต้องผ่านการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยมาเป็นอย่างดี ทีมวิศวกรที่ผ่านการพัฒนาองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญเรื่องการดูแลระบบเครือข่ายต่างๆ ของโครงการ อาทิ ระบบน้ำ ระบบไฟ และดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ด้านการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานต่างๆ อาทิ กล้อง CCTV สัญญาณเตือนกรณีเกิดเพลิงไหม้ ให้ครอบคลุมในทุกจุดสำคัญ เพื่อสร้างความมั่นใจและอุ่นใจในการพักอาศัยให้กับลูกบ้านในโครงการ
2.แก้ปัญหาได้ทันท่วงที
การบริหารงานนิติบุคคล เป็นงานละเอียดอ่อนที่ต้องอาศัยประสบการณ์ที่หลากหลาย ทั้งทักษะการบริหารจัดการ เช่น โครงการที่เข้าไปบริหารเป็นโครงการที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ดังนั้น ทีมนิติบุคคลต้องมีการกำหนดข้อปฏิบัติเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกัน การใช้พื้นที่ส่วนกลางและการดูแลสุขอนามัยของสัตว์เลี้ยงอย่างเหมาะสม หรือทักษะการแก้ปัญหาในภาวะเร่งด่วน พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพราะปัญหาที่จะเกิดขึ้นในโครงการหนึ่งแห่งนั้นมีความแตกต่าง และสามารถมีปัญหาใหม่ๆ ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ เช่น วิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ที่สร้างความหวั่นวิตกให้กับประชาชนไม่น้อย
โดยเฉพาะกลุ่มผู้พักอาศัยในโครงการคอนโดมิเนียม เพราะเป็นพื้นที่ปิดและมีผู้พักอาศัยจำนวนมาก มีการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ซึ่งอาจจะง่ายต่อการแพร่กระจายของเชื้อ การมีมาตรการรักษาความสะอาดและควบคุมดูแลอย่างเป็นระบบจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจต่อการพักอาศัยในโครงการได้เป็นอย่างดี อาทิ มาตรการด้านการคัดกรองผู้เข้าออกในโครงการ มาตรการด้านการทำความสะอาดเช็ดฆ่าเชื้อบริเวณจุดสัมผัสร่วม เป็นต้น ในทางกลับกันหากโครงการไม่มีการบริหารจัดการอย่างมีระบบจากทีมนิติบุคคลมืออาชีพ ก็อาจทำให้ผู้พักอาศัยเกิดความหวั่นวิตกและขาดความเชื่อมั่นในโครงการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อโครงการได้ในระยะยาว
3.หมดห่วงเรื่องเงินส่วนกลาง
ในหนึ่งปี บริษัทบริหารนิติบุคคล ต้องบริหารเงินให้กับลูกบ้านตั้งแต่หลักล้านไปจนถึงหลักสิบล้าน ขึ้นอยู่กับขนาดโครงการ รวมถึงต้องบริหารเงินกองทุนของโครงการอีก 1 ก้อน เงินทั้ง 2 ส่วนนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการหล่อเลี้ยงโครงการที่อยู่อาศัยให้คงอยู่ในสภาพเหมือนเมื่อครั้งก่อสร้างเสร็จใหม่ๆ บริษัทบริหารนิติบุคคลที่เข้ามาดูแลบริหารจัดการ จึงต้องมีความเป็นมืออาชีพ ทำงานอย่างเป็นระบบ มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังต้องจัดสรรเงินทั้ง 2 ส่วนให้ถูกวัตถุประสงค์ โดยเงินค่าส่วนกลาง จะถูกนำไปบริหารจัดการทรัพย์ส่วนกลางและการให้บริการแก่ลูกบ้าน อาทิ ค่าใช้จ่ายด้านบริการรักษาความปลอดภัย, การดูแลความสะอาด, การจัดการสวนส่วนกลาง ขณะที่ เงินกองทุน จะถูกนำมาใช้ในกรณีฉุกเฉินหรือยามจำเป็นเท่านั้น เช่น ทาสีอาคารประจำปี ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นเงินที่ใช้แล้วหมดไป ดังนั้นบริษัทที่เก่งจะต้องสามารถบริหารจัดการเงินกองทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเกิดดอกผลงอกเงย เช่น ในรูปแบบเงินฝากประจำ, การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือการลงทุนในกองทุนที่การันตีผลตอบแทนและการันตีคืนเงินต้น 100% ยิ่งนิติบุคคลสามารถวางแผนการบริหารจัดการค่าส่วนกลางและเงินกองทุนของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าใด ก็จะช่วยลดปัญหาการขาดสภาพคล่องในอนาคตได้ดีเท่านั้น
4.สร้างมูลค่าเพิ่มให้โครงการ
การที่นิติบุคคลนำเงินค่าส่วนกลางและเงินกองทุนมาบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการทำให้โครงการอยู่สภาพงดงาม พร้อมใช้งาน และเหมือนใหม่อยู่เสมอนั้น จะเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าของโครงการได้ในระยะยาว ทั้งการขายต่อหรือปล่อยเช่า ในทางกลับกันหากบริษัทบริหารนิติบุคคลปล่อยปละละเลย ทำให้โครงการมีสภาพทรุดโทรม ไม่น่าอยู่ กรณีที่ผู้ซื้อต้องการขายต่อหรือปล่อยเช่าในอนาคตก็จะไม่ได้ราคาเมื่อเทียบกับโครงการที่มีบริษัทบริหารนิติบุคคลดูแลอย่างดี เช่น โครงการที่อายุกว่าสิบปีแต่ยังอยู่ในสภาพดี น่าอยู่ไม่ต่างจากวันแรก และมีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
โดยนับตั้งแต่โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์จนถึงปัจจุบัน บริษัทที่รับหน้าที่บริหารจัดการงานนิติบุคคลมีการปรับปรุง ซ่อมแซม และรักษาสภาพแวดล้อมของโครงการอย่างสม่ำเสมอ ทำให้โครงการยังคงความสวยงามและน่าอยู่ เป็นที่ต้องการของทั้งผู้ซื้อ/เช่า เมื่อเทียบกับโครงการในพื้นที่เดียวกัน ลักษณะโครงการเหมือนกัน แต่ขาดการบริหารจัดการอย่างถูกวิธี
5.สร้างสัมพันธ์อันดีในชุมชน
นอกจากการดูแลในส่วนของอาคารและพื้นที่ส่วนกลางแล้ว นิติบุคคลยังต้องคอยดูแลความเป็นอยู่ของลูกบ้านโดยรวมอีกด้วย ในกรณีที่ลูกบ้านมีปัญหาหรือมีความขัดแย้งกัน นิติบุคคลจะทำหน้าเป็นสื่อกลางในการไกล่เกลี่ย หาทางออก ตลอดจนเจรจาเพื่อลดความขัดแย้ง ขณะเดียวกันก็เดินหน้าสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้พักอาศัยในโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านได้มีโอกาสพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์อันดีต่อกัน ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ กิจกรรมทำบุญใส่บาตร กิจกรรมสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ ซึ่งการให้ลูกบ้านได้มีกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็นการช่วยลดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี รวมถึงกิจกรรมที่ให้ลูกบ้านสามารถส่งต่อสู่ชุมชนภายนอกโครงการ อาทิ การร่วมบริจาคสิ่งของให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19
ธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยเหตุผลทั้ง 5 ข้อนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะตัดสินใจเลือกบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารงานนิติบุคคลระดับมืออาชีพ เพื่อลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการได้ในอนาคต