ปัจจุบันผู้คนแต่งงานน้อยลง บางคู่ไม่มีบุตร หรือมีบุตรคนเดียว และโดยเฉพาะยิ่งช่วงสถานการณ์โควิด 19 คนล็อกดาวน์ตัวเองอยู่กับบ้านและ Work From Home มากขึ้น การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเช่นสุนัข หรือแมวเป็นเพื่อนเพื่อคลายเหงาจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย การเติบโตจึงกลายเป็น ‘Global Trend’ ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่าง “ศูนย์สุขภาพสัตว์เลี้ยง” จะกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ
ท่ามกลางการแข่งขันที่สูง และผู้เล่นอันหลากหลาย ศูนย์สุขภาพสัตว์เลี้ยงแห่งนี้ ในย่านพระรามเก้า ซึ่งเพิ่งได้มีการเปิดตัวไปเร็วๆนี้ มีความโดดเด่นอย่างชัดเจน ด้วยประสบการณ์ของทางผู้บริหาร 3 ท่าน อย่าง พราวพุธ ลิปตพัลลภ จากวงการอสังหาและการท่องเที่ยว นสพ. นพกฤษณ์ จันทิก ซึ่งมีประสบการณ์ในการดูแลสัตว์เลี้ยงมายาวนานกว่า 20 ปี และ อิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ผู้เป็นเจ้าของตลาดสัตว์เลี้ยงจตุจักร และมีประสบการณ์ในวงการโรงแรมและ Start up
Hospetal มาจากการนำคำว่า Hotel Pet และ Hospital มาผสมรวมกัน ตรงตามความตั้งใจที่จะให้ ศูนย์สุขภาพสัตว์เลี้ยงแห่งนี้ มีการบริการหลายๆอย่าง ที่สามารถตอบโจทย์ท่านเจ้าของสัตว์เลี้ยง ในทุกๆด้านของการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง เริ่มจากศูนย์การรักษาเฉพาะทางที่มีมากกว่า 14 ศูนย์ ยกตัวอย่างเช่นศูนย์อายุรกรรม ศูนย์โรคหัวใจ ศุนย์ผ่าตัด นำโดยทีมแพทย์จาก PRS Center ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริการเรื่องของกระดูก กล้ามเนื้อและผิวหนังมานานกว่า 10 ปี อีกทั้งยังมีการบริการอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นการรักษา แต่เป็นเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงอย่างบริการอาบน้ำตัดขน โรงแรมสำหรับสัตว์เลี้ยง
นอกจากนี้ยังมีสิ่งสันทนาการสำหรับสัตว์เลี้ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ และ รูฟท็อปบาร์ สำหรับลูกค้าสี่ขา ห้องพักวีไอพีที่สามารถอยู่ได้ทั้งสัตว์และเจ้าของ มีการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการดูแลสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ทาง HosPETal ยังมีแผนการที่จะจัดกิจกรรมทางด้านไลฟ์ไสตล์ และ workshop ต่างๆ เพื่อสร้างความบันเทิงและความรู้ให้แก่เจ้าของในการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่ถูกต้องอีกด้วย โดยที่ทำการใหม่ ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 9 เดินทางสะดวกเพียงแค่ไม่กี่นาทีจากทางลงศรีนครินทร์จากทางพิเศษ บนพื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. ในอาคาร 4 ชั้น ที่มาพร้อมกับบรรยากาศร่มรื่นในสไตล์มินิมอลล์ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
อีกหนึ่งความโดดเด่นของที่นี่คือการชู concept การรักษาแบบองค์รวม หรือ Holistic Medicine ตั้งแต่แรกเกิดตลอดจนทั้งช่วงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การบำบัดดูแลความสะอาด การฉีดวัคซีน และอาหารเสริมที่จำเป็นต่อการส่งเสริมสุขภาพที่ดี ตลอดจนถึงการทำกายภาพบำบัด การออกกำลังกาย และการรักษาด้านต่างๆ โดยทีมสัตวแพทย์ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เน้นผลลัพธ์และแนวทางการรักษาที่ปลอดภัย ที่จะมีการให้บริการผ่าน “Family Doctor” ที่นิยมใช้กันในต่างประเทศ ที่ให้คุณหมอประจำตัวหรือ (General Practitioner) เป็นเหมือนคู่คิดของคนไข้ ด้วยความที่รู้ประวัติโดยละเอียด เข้าใจวิธีการใช้ชีวิต และนิสัยของคนไข้อย่างลึกซึ้งเป็นผู้วินิจฉัยโรคในเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการแนะนำต่อไปให้กับคุณหมอในด้านต่างๆ ที่เชื่อกันว่าจะทำให้สามารถดูแลคนไข้ได้อย่างละเอียดและถี่ถ้วนมากขึ้น
อิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ผู้อยู่เบื้องหลังโรงแรมเปิดใหม่สุดฮ็อตอย่างโรงแรมไฮแอทรีเจนซี่ สมุยและธุรกิจสตาร์ทอัพ ล็อกเกอร์ให้เช่าอย่าง Lockbox กล่าวว่า “ผมกับคุณพราวเป็นเพื่อนกันมาก่อนแล้วชอบแลกเปลี่ยนความคิดทางธุรกิจ และมองว่าตลาดด้าน Pet Industry นี้มีโพเทนเชียลมาก กระนั้นความยากก็มี ตรงที่สัตว์พูดไม่ได้และกลัวคุณหมอ แต่นั่นมองเป็นความท้าทาย ถ้ามีการบริการที่ดีมีการสื่อสารกับทางเจ้าของและมีความไว้ใจกันเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากเกินไป ถ้าเราทำให้ตรงจุด จะทํายังไงให้ศูนย์สุขภาพสัตว์เป็น Top of Mind Brand และมาที่เราไม่ใช่เฉพาะเวลาป่วย โดยมีแนวคิดให้ทุกคนเสมือนเป็นหนึ่งในครอบครัวไม่ว่าจะน้องหมา น้องแมว แพทย์ หรือแม้กระทั่งทีมงานก็คือครอบครัว
โดยนับตั้งแต่วันแรกเมื่อรับน้องมาดูแล ก็จะมีการให้การดูแลด้านวัคซีนที่เหมาะสม การสอนน้องและเจ้าของในการเลี้ยงดูอบรมรวมไปถึงประกันภัย ต่างๆ โตขึ้นมาหน่อยก็จะมีโปรแกรมตรวจสุขภาพต่างๆ หรือผ่าตัด พอถึงช่วงหนึ่งของชีวิตก็มี กายภาพ ซึ่งที่นี่เรามีศูนย์คอยให้บริการด้านต่างๆ ครอบคลุมถึง 14 ศูนย์ฯ ซึ่งเราจะดูไปถึงการกินอยู่
” นอกจากนี้ยังมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคโควิด ยกตัวอย่างเช่นในช่วงล็อคดาวน์ มีการดึงเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการให้บริการดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงผ่าน Telemedicine ลูกค้าสามารถปรึกษาคุณหมอได้ตลอด สั่งยาได้ตลอด”
น.สพ.นพกฤษณ์ จันทิก หรือ หมอเก่ง ผู้มีประสบการณ์ในการรักษาสัตว์เลี้ยงอย่างช่ำชอง จนได้รับเกียรติให้ถวายการรักษาแก่ครอบครัวของคุณทองแดงมาแล้ว เล่าให้ฟังว่า “ผมไม่เคยรู้ตัวมาก่อน ว่าชีวิตผมผูกพันกับสุนัข คุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยผู้อยู่อนุบาล เขาหาผมทั้งโรงเรียนเพราะผมหายไป ปรากฏว่าผมหายไปอยู่กับแม่หมา ที่เพิ่งคลอดลูกหมาออกมา แล้วผมก็ไปนั่งเล่นกับมันเป็นชั่วโมง และผมเป็นเด็กที่เข้าไปเล่นกับลูกหมาได้โดยแม่หมาไม่ว่าอะไร เราก็เลยมีความผูกพันโดยที่เราไม่รู้ตัวว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่เป็นเรา จนมาเรียน สัตวแพทย์เกษตร ทำให้เรารู้ว่ามันตอบโจทย์ที่ว่า ฉันบอร์นทูบีอะเวท Born to be a vet คือ ฉันมีความสุขและฉันสบายใจ ฉันเกิดมาเพื่อเป็นสัตวแพทย์ นี่คือจุดหักเห”
หมอเก่ง ยังอยากกล่าวถึงความตั้งใจในครั้งนี้ว่า Hospetal จะต้องครบวงจร จากศูนย์การแพทย์ที่มีถึง 14 ศูนย์จากของเดิม ซึ่งมีแค่กายภาพและผิวหนัง ได้ขยายขึ้นมา มีทั้งศูนย์การผ่าตัดทางการสัตวแพทย์ ศูนย์ระบบโรคประสาท และได้อาจารย์เก่งๆ มาช่วยหมด เช่น ศูนย์โรคแมว ศูนย์เรื่องของฮอร์โมน พวกเบาหวาน พวกไทรอยด์ หรือกระทั่งเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น สเต็มเซลล์ แต่ก่อนเข้าถึงยากมาก แต่เราได้รวบรวมทั้งหมดมาไว้อยู่ที่ศูนย์สุขภาพแห่งนี้
“นอกจากนี้ผมสอนน้องน้องตลอดว่าที่นี่จะต้องดูแลสัตว์ดีกว่าคน เพราะว่าถ้าเจ้าของเห็นว่าสัตว์เลี้ยงได้รับการดูแลที่ดีเจ้าของก็จะยิ่งแฮปปี้ เรามีมาตรฐานในการดูแลคนที่ดีอยู่แล้วถ้าเราดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดียิ่งกว่า ทั้งการบริการและการรักษาก็จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นที่นี่ลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ จะได้รับการดูแลเยี่ยมยิ่งเสมือนกับว่าเค้าเป็นหนึ่งคนในครอบครัวของเรา”
เป้าหมายที่สำคัญตอนนี้ของ HOSPETAL by PRS Center คือให้ทุกคนเชื่อมั่นใน Hospetal ในทีมของเรา ทั้งคุณหมอและองค์กร เพราะหนึ่งสัตว์เลี้ยงพูดไม่ได้ ไม่เหมือนคน เจ้าของจึงจำเป็นต้องเชื่อก่อนว่าหมอเก่ง มาที่เราแล้วต้องรักษาป้องกันหายต่างๆ อันดับสอง เราจะเพิ่ม Lifestyle element ลงไป ไม่ใช่แค่ป่วยแล้วเข้ามารักษา แต่อยากให้ที่นี่เป็นเหมือนสถานที่ที่คนที่มีคนรักหมาแมว คิดถึงเราตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย เราจะทำทั้งหมดนี้ด้วย new innovation & partnership ซึ่งจะทยอยเปิดตัวนับจากนี้ไปเรื่อยๆ รวมไปถึงสมัยนี้คือต้องร่วมกันทำเพราะฉะนั้นเรายินดีหาพันธมิตรในทุกภาคส่วนที่จะไปถึงฝัน