บีเอนเนสต้าร์ ทีแอนด์เอ็น ร่วมกับ แคนนาบิสต้า ดันไทยสู่ฐานการผลิต ‘กัญชา ฟาร์มาซูติคอล เกรด’

53

บีเอนเนสต้าร์ ทีแอนด์เอ็น ลงนามสัญญาร่วมกับ แคนนาบิสต้า เนเธอร์แลนด์ เดินหน้าพัฒนาระบบอุตสาหกรรมการปลูกกัญชาทางการแพทย์แบบครบวงจร ดันไทยสู่ฐานการผลิต ‘กัญชา ฟาร์มาซูติคอล เกรด’ แห่งแรกในเอเชีย

บีเอนเนสต้าร์ ทีแอนด์เอ็น ผู้นำด้านการปลูกกัญชาทางการแพทย์ของไทย ประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ร่วมกับ แคนนาบิสต้า เนเธอร์แลนด์ ผู้นำแบบครบวงจรด้านการปลูกกัญชาทางการแพทย์ระดับโลก พร้อมด้วยพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำของเนเธอร์แลนด์ ประกอบด้วย บอสแมน แวน เซล, เดลฟี่ และ พาราไดส์ ซีดส์ ผนึกพลังเพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านการปลูก และพัฒนาสายพันธุ์แบบบูรณาการ เพื่อให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านกัญชาเพื่อการแพทย์ในภูมิภาคเอเชียอย่างแท้จริง โดยการลงนามสัญญาในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ชาตรี อรรจนานันท์ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ และ นพ. สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

นิพนธ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเอนเนสต้าร์ ทีแอนด์เอ็น จำกัด เปิดเผยถึงความร่วมมือระหว่างไทยและเนเธอร์แลนด์ ในครั้งนี้ว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระบบการปลูกกัญชาทางการแพทย์ระดับ ฟาร์มาซูติคอล เกรด แห่งเดียวในประเทศไทยและแห่งแรกในเอเชีย โดยได้นำข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ของไทยที่ทั่วโลกต่างยอมรับว่าเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการเพาะปลูกกัญชา มาผสานกับองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เนเธอร์แลนด์สั่งสมมาจนเป็นผู้นำระดับโลกอย่างครบวงจร

ความร่วมมือในครั้งนี้ เริ่มจากการคัดสรรเมล็ดพันธุ์คุณภาพจาก พาราไดส์ ซีดส์ ธนาคารเมล็ดพันธ์กัญชาที่ใหญ่ที่สุดและเป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์เมล็ดกัญชาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานด้านคุณภาพสูงสุดของโลก เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมยาอย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการรักษาที่มีความเฉพาะเจาะจงของกลุ่มโรค เสริมด้วยการนำระบบ Automated Agricultural System ซึ่งใช้ระบบ Logistics and Robotics ที่พัฒนาเพื่อการปลูกระดับอุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐานด้านคุณภาพสูงสุดในโลก

” กัญชาที่ได้ไปใช้ในอุตสาหกรรมยา อาหาร และเครื่องดื่ม และระบบ Vertical Farming ที่เป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลกโดยประหยัดพื้นที่ ประหยัดพลังงาน และน้ำ รวมทั้งระบบ Data & Business Intelligence ที่สามารถควบคุมระบบอากาศ ความชื้น และระบบรดน้ำที่แม่นยำ เพื่อการเจริญเติบโตของพืชผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นนวัตกรรมของ บอสแมน แวน เซล มาใช้ในประเทศไทย และการนำ Mechanization, Automation และ ICT ในการควบคุมระบบการปลูกทางไกลผ่านระบบออนไลน์ของ เดลฟี่ ผู้พัฒนาความรู้ทางการเกษตรและสร้างระบบการปลูกมาพัฒนาใช้ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สูงที่สุดและมีมาตรฐานคุณภาพระดับโลก” นิพนธ์ กล่าว